ในที่สุด Samsung ก็ได้เปิดตัวมือถือขอบโค้งรุ่นแรกของโลกอย่างเป็นทางการเสียที หลังจากที่มีข่าวหนาหูออกกันมาอยู่เรื่อยๆว่า  Samsung ซุ่มทำจอโค้งใส่ Smart Phone และการันตีว่าจะนำออกสู่สายตาชาวโลกในเร็ววัน

DSC_3367_1_1

 

สุดท้ายแล้วข่าวนั้นก็ปรากฎขึ้นตาม Website และสื่อ IT ต่างๆ หลังจากการประกาศเปิดตัว Smartphone ขอบโค้งรุ่นแรกจาก Samsung ซึ่งได้นำนวัตกรรมขอบโค้งนี้จับใส่ลงใน Galaxy Note Series ซึ่งได้เลือกแบบและรูปทรงในการผลิตมาจากรุ่นพี่อย่าง Galaxy Note 4 ซึ่งได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นานนัก นามว่า Galaxy Note Edge

Galaxy Note Edge

Note Edge ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญและการออกแบบของ Smart device ในยุคสมัยใหม่ ที่ฉีกแนวการควบคุมจากหน้าจอหลักย้ายการควบคุมในปุ่ม Control ต่างๆ และการแจ้งเตือนไปอยู่ตรงขอบจนหมดสิ้น แถมแยกส่วนการทำงานออกจากหน้าจอหลักได้อย่างลงตัวและสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี  ส่วนสเปคเครื่อง Note  Edge นั้นก็แถบจะไม่ได้ต่างอะไรจาก Note 4 มากเท่าใด แต่ก็จะมีบางจุดที่ต่างกันออกไปแบบคนมองข้ามกันได้ลองตามมาดูกันดีกว่าว่าสองรุ่นนี้มีความต่างอะไรกันอีกนอกจากขอบโค้ง

PhotoGrid_1427094688126

Spec Galaxy Note Edge

–   ระบบปฎิบัติการ Android Kitkat 4.4.4 ตัวล่าสุดก่อนที่จะอัพขึ้นเป็น 5.0 Lollipop

–   Display เป็นแบบ Super AMOLED QHD Curved Edge Screen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (524 PPI) ส่วนขอบด้านข้าง ความละเอียดอยู่ที่ 160 พิกเซล ทำให้มีความละเอียดรวมอยู่ที่ 2560 x 1600 พิกเซล

–   Chipset หน่วยประมวลผลเป็นของ Quad-Core Processor Qualcomm Snapdragon 805 ควาเร็ว 2.7 GHZ.

–   หน่วยความจำ Ram 3 GB.

–   ความจุในตัวเครื่อง 32 GB. และรองรับความจุเป็นแบบ Micro USB สูงสุดถึง 128 GB.

–   กล้องหน้ามีขนาดเพิ่มขึ้นคือ 3.7 ล้านพิคเซล เลนมุมกว้างเพิ่มเป็นแบบ 90 องศา F.1.9

–   กล้องหลังขนาด 16 ล้านพิคเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED  และเทคโนโลยี OIS (Optical Image Stabilizer) กันสั่น

–   S Pen Stylus แบบรุ่นใหม่ล่าสุด

–   รองรับการทำงานของเซนเซอร์ต่างๆ แสกนลายนิ้วมือ , ตรวจวัดระดับรังสี UV , อัตราการเต้นของหัวใจ , วัดแรงดันอากาศ

–   แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAH.

Samsung_Galaxy_Note_4_vs_Galaxy_Note_Edge

 

สิ่งแตกต่างกันออกไประหว่าง Note 4 กับ Note Edge

–   อันดับแรกเลยคือเรื่องขอบด้านข้างที่โค้ง ที่สามารถทำอะไรเยอะแยะโดยที่ไม่ต้องผ่านหน้าจอหลัก

–   แบตเตอรี่ที่ลดขนาดลงจาก 3220 เหลือเป็น 3000 mAH.

–   หน้าจอ 5.7 เหลือแค่ 5.6 เพราะคิดว่าเอาส่วนต่างนั้นไปทำขอบโค้งแทน

–   Chipset ที่เปลี่ยนจาก Exynos Octa 5433 1.9 GHZ. มาเป็น Snapdragon 805 Quad Core 2.7 GHZ.

–   หน้าจอหลักของ Note Edge ดูแล้วเหมือนจะคมชัดกว่า Note 4 อยู่เล็กน้อยแต่ขึ้นอยู่กับการมองของแต่ละคนด้วย

นอกนั้นแล้วเหมือนกันทุกประการทั้งเรื่องกล้องและและสเปคของปากกา Stylus ซึ่งได้รีวิวไปเมื่อครั้ง Note 4

http://www.dailygizmo.tv/2015/02/05/galaxy-note-4-flagship-%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2-samsung-%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2/

PhotoGrid_1427095234765

เจาะลึกโหมด Edge สันจอขอบโค้งว่าทำอะไรได้บ้าง แบ่งออกมาใหญ่ๆ ได้ 4 กลุ่ม

Notification – ระบบการแจ้งเตือนนั้นเองแต่แจ้งเตือนได้อย่างไรละ ปรกติแล้วมือถือโดยทั่วไปเวลามีการแจ้งเตือนเข้ามา ไม่ว่าจาก CNN , Facebook , Twitter , Line , Whatapp สื่อ Social ต่างๆ จะเด้งขึ้นมาตรงแถบจอด้านบน แต่สำหรับ Note Edge แล้วพิเศษกว่านั้นคือ เราสามารถตั้งให้การแจ้งเตือนนั้น เด้งมาเตือนตรงโค้งๆ นี้ได้เลยแถบเลื่อนไปทางด้านข้างให้เราสามารถอ่านข้อความบางส่วนได้อีกด้วย ตัดปัญหาเวลาเราทำงาน หรือดูคลิปวีดีโออยู่แล้วมีพวกแจ้งเตือนเข้ามารบกวน แต่คราวนี้เด้งไปตรงขอบโค้ง แยกส่วนกันทำงานไปเลย ดีจริงๆ พ่อคุณ

14496

Shortcut  –  ผู้ใช้สามารถตั้งเมนูลัด หรือ App ต่างๆ ที่เราใช้บ่อยมากที่สุดมาวางไว้ตรงขอบข้างๆ เนี้ยได้เลย

Express Me  –  ข้อความแสดงตัวตนที่จะเป็นทั้งข้อความหรือรูปภาพที่ผู้ใช้สามารถเขียนบันทึกลงไปบนขอบจอนี้ได้เลย

Feed Message –  แถบเลื่อนการแจ้งเตือนข่าวสาร คล้ายๆ เวลาที่เราดูข่าวทาง Tv แล้วมีแถบตัวหนังสือวิ่งขึ้นมาให้เราได้อ่านไปพร้อมดูข้อมูลข่าวสารไปพร้อมกันๆ อารมณ์เดียวกันแบบนั้นเลย ส่วนข่าวสารนั้นทาง Note Edge ที่ให้มาก็จะเป็น Yahoo , Twitter , Facebook , CNN เป็นต้น ส่วนอนาคตจะรองรับภาษาไทยได้ไหมก็ต้องรอชมต่อไป รอนักพัฒนาอยู่จ้า

PhotoGrid_1427095098310_20150323144558653

นี้คือหลักการใช้งานแบบใหญ่ๆ ที่เสริมเข้ามาให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายในการใช้ Note Edge ได้มากขึ้นกว่าเดิมนั้นเอง

คราวนี้ของมาดูในส่วนของ Setting กันดีกว่า   หากสังเกตุดีๆ ตรงแถบด้านบนและล่างของขอบจอ Edge นั้นจะมีเครื่องหมายอยู่ 2 แบบ

1. เครื่อหมายแบบ 2 ขีด ทางขอบบนหากลากลงมาจะเป็นแถบ Icon เครื่องมืออยู่ด้วยกัน 5 ชนิด

–  ไม้บรรทัด : อ่านไม่ผิดหรอกมีไม้บรรทัดจริงๆ แถมวัดได้ทั้ง นิ้ว และ เซนติเมตร หากเป็นแบบนิ้ววัด 4 นิ้ว และแบบเซนติเมตรวัดได้ถึง 10 เซนติเมตรเลยทีเดียว เวลาเอามาขีดบนโต๊ะคงเท่น่าดูไม้บรรทัดอันละเกือบ 3 หมื่น

–  นาฬิกาจับเวลา :  ลักษณะการใช้งานก็คล้ายๆ นาฬิกาจับเวลาทั่วไป เพียงแต่นี้ดันอยู่บนขอบจอ Note Edge ไงละ

–  จับเวลาถอยหลัง : สรรพคุณไม่ได้ต่างไปจากทั่วไป อยู่ที่ผู้ใช้จะนำไปประยุกต์อย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

–  ไฟฉาย : เมื่อก่อนเวลาเราต้องการเปิดไฟ LED ของโทรศัพท์นั้นต้องโหลด App Flashlight มาเพื่อไปบังคับให้ ไฟแฟลช LED จากล้องนั้นฉายไฟหาของให้เรา แต่ตอนนี้ไม่ต้องยุ่งยากละ มีมาให้สำเร็จรูปเลย

–  ที่บันทึกเสียง : จริงๆ โหมดนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเมนู Shortcut ก็ว่าได้สำหรับที่บันทึกเสียง เพราะปรกติโหมดนี้จะแสดงอยู่ด้านในระบบของ Note Edge

PhotoGrid_1427094921610_20150323144138787

2. เครื่องหมายหลังคาบ้านสามเหลี่ยมชี้ขึ้นบน ทางขอบจอล่างหากลากขึ้นแล้วละก็ จะพบกับเฟืองแสดงถึง Setting นั้นเอง

ในส่วนนี้คือหัวใจหลักสำคัญที่ผู้ใช้ต้องตั้งค่า Display , Notification ต่างๆ ผ่านทางนี้เพื่อให้แสดงผลออกมาทางจอ Edge Screen เมนูย่อยๆ แบ่งออกเป็นได้อีก 5 ข้อย่อย ดังนี้

–  Manage Panels : เป็นการเลือกแถบแสดงบน Edge Screen ที่ได้มากถึง 10 แบบ เช่น Shortcut เมนูต่างๆ ข่าวสารจาก CNN , Facebook , Yahoo วัดอุณภูมิ หรือแม้แต่เล่นเกมก็ยังได้ สามารถดาวโหลดเพิ่มเติมได้จาก Samsung Store

–  Express Me : แถบกำหนดลูกเล่นขอบจอเวลาจะ Unlock Screen จะใส่เป็นภาพ ข้อความด้วยลายมือจากผู้ใช้เอง หรือแถบสีต่างๆ ที่ทาง Samsung กำหนดมาให้

–  Information Stream : แถบนี้จะเป็นการแสดงอัพเดท และแจ้งเตือนถึงข้อความที่ผู้ใช้ไม่ได้อ่านจากข้อมูลที่ให้ ซึ่งตอนนี้มีแค่ของทาง Yahoo เท่านั้น

–  Night Clock  :  Display แสดงว่า วันและเวลาในขณะที่เป็นโหมด Lock Screen

–  Edge Screen Text  :  ตรงนี้ไม่มีอะไรมาก นอกจากข้อความอะไรก็ได้ที่อยากจะบอก ได้ทุกภาษา บนขอบ Edge Screen

–  Show Edge Screen On Left :  เป็นเมนูไว้สำหรับคนที่ถนัดซ้าย ไว้ให้นิ้วโป้งด้านซ้ายได้สัมผัสกับขอบโค้งอย่างใกล้ชิด พอผู้ใช้กับหัว Note Edge แล้ว จอจะกลับหัวและกลับข้างเพื่อให้ผู้ที่ถนัดซ้ายได้ใช้งานคล่อตัวมาก

14507

สรุปการใช้งานและความคิดเห็นส่วนตัว

ก็ต้องยอมรับและซูฮกเฮีย Samsung เค้าเลยที่สามารถข้ามขีดความจำกัดการใช้แบบเดิมๆ ฉีกกฏเกณฑ์ต่างๆ จากหลายสำนักที่บอกว่าจอโทรศัพท์ จอโทรทัศน์เนี้ยนะจะสามารถทำโค้งได้ หรืองอได้ จนแล้วจนรอดก็ได้เห็น ได้สัมผัส ตัวเป็นๆกันไปกับเจ้า Galaxy Note Edge ฉะนั้นแล้วหากพูดถึงเรื่องลักษณะการใช้งานที่เปลี่ยนไป หลายคนอาจถามและตั้งข้อสงสัยว่า จะเปลี่ยนไปแค่ไหนหน้าจอขอบนิดเดียวจะไปทำอะไรได้ ต้องให้โดนเองดีกว่าถึงจะรู้ว่าเจ้าขอบโค้งเนี้ยไม่ได้มีดีที่ขอบโค้ง แต่ยังรวบรวมเอาสิ่งที่เป็นปัญหาที่พบเจอและโดนบ่นมากที่สุดในแต่ละเคสของการใช้โทรศัพท์ในสมัยก่อนว่าประสบพอเจออะไรมากบ้าง ค่อยคิดต่อยอดสรรสร้างมาได้เรื่อย จนกลายเป็นบทสรุปอยู่บนมือของผู้ใช้ในปัจจุบัน Galaxy Note Edge

[youtube]https://www.youtube.com/watch?v=VtwJpXWdXtA[/youtube]

 

ข้อดี

–  แปลกแบบใหม่กับลูกเล่นบนขอบโค้ง เทไหลจนตกขอบจอ

–  ย้ายการแจ้งเตือนต่างๆ ไปไว้ตรงขอบให้หมดขจัดปัญหาการรบกวนเวลาทำงาน ดูหนัง หรือพิมพ์พูดคุย

–  มีลูกเล่นใหม่ๆ ใส่มาเพียบ โดยเฉพาะมีไม้บรรทัดอันละเกือบสามหมื่นมาให้ด้วย

–  เมนู Shortcut ต่างๆ สามารถสร้างมาให้เป็น Folder แล้วจำ App ต่างๆที่เราเล่นบ่อยๆ ลงไปได้เลย

–  ใส่รูปภาพหรือข้อความใดๆ ก็ได้เป็นเครื่องเตือนใจเราบอกสิ่งที่จะทำได้

ข้อเสนอแนะ : บางทีที่เราจับมือถือแล้วมืออีกด้านนึงไปโดนขอบจอโค้งโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ก็จะทำให้เข้าสู่โหมดนั้นที่เราไปโดนได้อย่างงงๆ น่าจะเสริมปุ่ม Lock Edge Screen อีกตัวเข้าไปเพื่อป้องกันสิ่งนี้ที่อาจเกิดขึ้นได้

รูปภาพถ่ายบางส่วนจาก Note Edge และภาพเปรียบทียบกับ Iphone และ Note 4

PhotoGrid_1427095882649

 

PhotoGrid_1427094840138

 

PhotoGrid_1427095968997

 

PhotoGrid_1427096123578

บทส่งท้าย :  ดูไปว่ารุ่นต่อไปที่ทาง Samsung จะเปิดตัวนั้นต่อจาก Note Edge แล้วจะมีอะไรที่เป็น Edge Screen อีกไหม จะมาซะกี่ขอบก็ต้องลองดู เพราะคิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่เวิกและตอบรับความทันสมัยยุคนี้และยุคหน้าอย่างแน่นอน แล้วทาง Dailygizmo.tv จะรีบนำมาเสนอและรีวิวให้อ่านอีกเช่นเคย ขอให้เล่นขอบแบบเทไหลนี้ให้ลื่นอย่างสนุกไปเลย

Via : SamsungThailand

ผู้เรียบเรียง :  NuTty m00yAi , Ceemeagain