ถ้ามันจะมีประกวดรถพลังแสงอาทิตย์ที่สวยที่สุดและวิ่งได้จริง ตัวนี้ซีรับรองว่าเข้ารอบแน่ๆ สวยและที่สำคัญบางด้วย เออกระแสชอบของบางไปถึงรถแล้วหรอเนี่ย
การแข่งขันนี้มีชื่อว่า World Solar Challenge เป็นการขับรถพลังงานแสงอาทิตย์ข้ามทวีปออสเตเลียที่จัดขึ้นทุก 2 ปี การแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันที่เก่าแก่ เปรียบได้กับ Daytona 500 หรือ Monaco Grand Prix ของรถแสงอาทิตย์เลยทีเดียว
เวลาสร้างรถแข่งพลังแสงอาทิตย์เนี่ย มีปัจจัยที่ต้องคำนึงอยู่ 2 อย่าง นั่นคือ ต้องใช้พลังงานให้คุ้มค่าที่สุด และทำให้รถมีน้ำหนักเบาที่สุด ส่วนปัจจัยอื่นๆเป็นเรื่องรองลงไป เพราะโจทย์คือการขับรถข้ามทวีปแต่มีพลังงานมีให้เท่ากับใช้ไดร์เป่าผมให้แห้งเอง ทีมที่ลงแข่งส่วนใหญ่จึงถือคติที่ว่า ” Less is more” ใช้ชิ้นส่วนให้น้อยที่สุด เพื่อให้น้ำหนักเบาที่สุด เพื่อทำระยะทางให้ไกลที่สุด
ปีนี้ทีม Quantum จากมหาลัยมิชิแกนได้เป็นตัวแทนเข้าไปแข่งขัน ซึ่งนานมากแล้วที่ทีมจากอเมกาไม่ได้ชนะรายการนี้มาตั้งแต่ปี 1987 รถคันนี้ใช้ทุนสร้างไปมากกว่า 1 ล้านเหรียญ และถือว่าเป็นรถพลังแสงอาทิตย์ที่ทันสมัยที่สุด ใช้เทคโนโลยีชั้นนำล่าสุด ตั้งแต่แบตเตอรี่ มอเตอร์ จนถึงระบบการสื่อสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้พลังงานจากแสงแดด
การก่อสร้างรถคันนี้เริ่มจากการแกะชิ้นส่วนรถ infinum ที่ชนะการแข่ง American Solar Challenge เมื่อปีก่อน แล้วทำการชั่งน้ำหนักทุกๆส่วนไม่เว้นแม้แต่น๊อตตัวเล็กๆ เพราะรถคันนี้ยังมีน้ำหนักมากเกินความจำเป็นถึง 500 ปอนด์ ทางทีมจึงตัดสินใจที่จะลดน้ำหนักรถลงไปให้ได้มากที่สุด ต่อจากนั้นจึงใช้โปรแกรมขึ้นโมเดลรถเป็นสามมิติเพื่อวิเคราะห์ความเค้นของรถและชิ้นส่วนว่าควรจะเป็นเท่าไรดี ซึ่งทางทีมตั้งเป้าหมายว่าจะลดน้ำหนักให้เหลือเพียง 320 ปอนด์ เพื่อจะได้ต่อกรกับแชมป์เก่าจากมหาลัยโตเกียวและทีมจากเนอเธอแลนด์ที่เคยชนะรายการนี้มา 4 ครั้งติดกัน
ทางทีมได้ตัดสินใจสร้างรถแบบสามล้อที่มีแรงต้นทานการกลิ้งของล้อต่ำกว่ารถสี่ล้อ ตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ชิ้นส่วนหลักต่างๆทำจากอลูมิเนียมและไทเทเนี่ยมทำให้รถมีน้ำหนักเบา ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าจาก CSIRO ขับเคลื่อนล้อหลัง ตัวถังติดตั้งแผงโซล่าร์บนพื้นที่ 65 ตารางฟุตใช้เซลประมาณ 600 – 800 ตัว สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2 กิโลวัตต์ ทำความเร็วได้ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีแบตลิเธียมโพลิเมอร์ขนาด 5 kwh ไว้ใช้ยามที่ไม่มีแดด
ตัวถังมีความยาว 16 ฟุต กว้าง 6 ฟุต สูง 3.5 ฟุต ได้รับการช่วยเหลือเรื่องการออกแบบจาก Exa Corp. วิเคราะห์เรื่องการไหลตามหลักกลศาสตร์ เพื่อให้พื้นผิวเรียบที่สุด แรงเสียดทานอากาศน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังได้วิศวกรจากบริษัทชั้นนำของโลกมาช่วยอีกหลายคน อย่างเช่น ริคาโด้ ที่เคยทำงานกับ McLaren ออกแบบเครื่องยนต์ MP4-12C สำหรับรถซุปเปอร์คาร์ และ Roush ผู้ที่ทำหน้าที่ปรับแต่งรถที่ใช้แข่งในรายการ NASCAR แถมยังได้สปอนเซอร์จากสามยักษใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งจะนำผลจากวิจัยการสร้างรถคันนี้ไปพัฒนาเป็นรถของตัวเอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมรถคันนี้ถึงประหยัดพลังงานสุดๆ
รถคันนี้สร้างเสร็จก่อนกำหนดหลายเดือน จึงทำให้ทางทีมมีเวลาปรับแต่งรถค่อนข้างมาก เลยถือโอกาสส่งรถลงทดสอบในรายการ Formula Sun Grand Prix ที่ Indianapolis เพื่อนำผลที่ได้ไปปรับแต่งให้รถมีประสิทธิภาพที่สุดก่อนแข่งจริงที่ออสเตรเลีย
การแข่งขันรถพลังงานแสงอาทิตย์เป็นการแข่งที่วัดจากระยะทาง ไม่ใช่วัดว่าใครวิ่งได้ไวที่สุด แชมป์เก่าจากญี่ปุ่นทำเวลาไว้ที่ 29 ชั่วโมง 49 นาทีที่ความเร็วเฉลี่ย 63 ไมล์ต่อชั่วโมง ทีมควอนตัดจึงต้องงัดกลยุทธต่างๆมาใช้เพื่อเอาชนะให้ได้ หนึ่งในนั้นคือการจัดการพลังงาน และการวิเคราะห์สภาพอากาศด้วย นักพยายการณ์อากาศจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญในชัยชนะครั้งนี้ เพราะถ้าเรารู้ถึงสภาพอากาศล่วงหน้า เราจะรู้ว่าต้องใช้พลังงานยังไง ตอนไหนควรใช้พลังแสงอาทิตย์ ตอนไหนควรใช้พลังงานจากแบตเตอรี่
ตอนนี้ทางทีมมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะคว้าแชมป์ในการแข่งขัน World Solar Challenge ที่จะเกิดขึ้นเดือนตุลาคมนี้กลับมาให้ได้
VIA Wired