สมัยนี้อุปกรณ์ไฮเทคทำให้เราทำอะไรได้เยอะเยาะมากมาย สร้างนิสัยให้เด็กรุ่นใหม่มีนิสัยที่เรียกว่า Multitasking‏ หรือชอบทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ล่าสุดมีผลการวิจัยว่าคนสูงอายุนั้นไม่เหมาะที่จะทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันอย่างที่เด็กรุ่นใหม่เค้าทำกัน จากผลการวิจัยมีการเปรียบเทียบการทำงานของสมองระหว่างเด็กและคนสูงอายุที่เป็นพวก Multitasking‏ โดยเจอคำอธิบายที่ไม่ได้คาดเอาไว้อย่างเช่น เหตุผลที่คนสูงอายุหลายคนมักจะมีปัญหาในการใช้เทคโนโลยี น่าแปลกมากที่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คนสูงอายุจะเสียสมาธิแต่เป็นเพราะว่าถ้าเค้าสังเกตุเห็นอะไรก็ตาม สมองเค้าจะอยู่กับเรื่องที่เสียสมาธิมาก่อนหน้านี้นานกว่าที่จะกลับมาเรื่องเดิม อันนี้เป็นเหตุผลของกระบวนการทางสมองที่เรียกว่ากระบวนการรื้อฟื้นกลับมาเรื่องเดิมหลังจากที่ถูกก่อกวนล้มเหลว  บางคนคิดว่าการทำหลายอย่างพร้อมกันดีแต่หลายคนก็ว่ามันไม่ดี บางคนก็คิดว่ามันกลางๆไม่ได้ดีไมได้ร้ายอะไร เหตุผลของแต่ละคนขึ้นอยู่กับสังคม ประสบการณ์และอารมณ์

ผลสำรวจนี้ไม่มีการพุ่งเป้าที่จะแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่เด็กคิดเร็วทำเร็วกว่าผู้สูงอายุ สิ่งที่เราเรียนรู้ก็คือเหตุผลของยุคสมัย ที่ซีอยากเรียกมันว่าวิวัฒนาการของคนรุ่นใหม่  วัยรุ่นสมัยใหม่เค้ามักเติบโตมากับสิ่งรอบตัวที่สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง ในขณะที่คนสูงอายุจะเติบโตมากับสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างเรียบง่ายก็เลยเป็นผลให้อาจจะไม่คุ้นเคยเท่ากับเด็กรุ่นใหม่  แต่ซีคิดว่าถ้าสองรุ่นมาทำงานร่วมกันได้อาจจะก่อให้เกิดผลลัพท์ที่ดีมากแน่ๆเลยค่ะ

 

[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=aAJAEpzJ7F8]