เราเคยคิดว่ากรุงเทพมหานครเป็นสมรภูมิที่มั่นคงปราศจากภัยธรรมชาติแน่นอน แต่มานาทีนี้ที่คนกรุงเทพหลายๆคนคงแทบไม่อยากเชื่อว่า ต้องรับมือกับภาวะน้ำยืดเยื้อ จนซีเชื่อว่าหลายคนเริ่มเข้าสู่จินตนาการอันใกล้ๆว่าปีหน้าจะมาขนาดไหนเนี้ย ในปี 2030 หรืออีกเกือบๆ 20 ปี ข้างหน้านักวิชาการไทยออกมาคาดการณ์ว่า ทฤษฎีน้ำท่วมโลกจะเป็นจริง และเมืองกรุงก็ถูกเตือนเหลือเกินเรื่องปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง จนมีคำทำนายว่า ปี 2030 น้ำทะเลจะหนุนสูงถึง 1 เมตร 50 ซึ่งถ้าพูดปีก่อน คนกรุงเทพคงยากจะเชื่อแต่พอสมทบกับแหล่งข่าวอย่าง ยูเอ็นที่เพิ่งออกมาเตือนไทยว่า กรุงเทพจะกลายเป็นทะเลในปี 2030 เพราะสภาพดินชั้นบนเราเป็นดินอ่อน แถมปริมาณคนอยู่บนอาคารเยอะขึ้นทุกวันทำให้ดินชั้นล่างซึ่งเป็นดินเหนียวยวบลงได้ นี่คือความยากต่อการจัดการปัญหาน้ำท่วมนี้
คำถามคือ…แล้วเราจะอยู่กันยังไง ซีขอนำเสนอที่อยู่อาศัย 3 แบบใหม่ ให้เพื่อนๆได้เลือกตัดสินใจ ว่าอยากอยู่แบบไหนกันแน่ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างที่ทำนายไว้เป็นจริง
1.พาไปดูบ้านลอยน้ำก่อนค่ะ บริษัทออกแบบสถาปนิกไทยร่วมออกไอเดียโปรเจค Aqua City-Wetropolis หรือ Waterpolis โดยบริษัท S Plus PBA เสนอแย้งไอเดียขวางทางน้ำด้วยการไม่สร้างติดพื้นก็สิ้นเรื่อง เพราะคาดว่าต่อไปน้ำจะท่วมบ่อย กัดเซาะดินขึ้นทุกปี จึงชูการออกแบบสถาปัตยกรรมบนน้ำ ทางเดิน ถนน เชื่อมต่อกันในแบบเส้นโค้งที่สามารถเปลี่ยนตามกระแสน้ำเคลื่อนตัว ซีขอเรียกว่า สิ่งก่อสร้างแบบไหลตามน้ำค่ะ ซึ่งคนเมาเรือคงต้องวิวัฒนาการเยอะหน่อยนะคะงานนี้
2.บ้านครึ่งบกครึ่งน้ำ อันนี้เป็นไอเดียเทคโนโลยีกู้หน้ายามน้ำท่วมแบบดีไซน์หรู อยู่ในกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ ไม่ใช่คอนเซปต์ค่ะ แต่มีจริงๆเลย หลักการคือ น้ำท่วมบ้านจะลอยน้ำ น้ำลดบ้านอยู่บนดิน ใช้โครงสร้าง และผนังทำจากไม้ไผ่ ส่วนฐานกลางมีคอนกรีตเสริมเหล็กและอิฐ แต่ที่แปลกคือมีวัสดุแบบ ขวดพลาสติก 8500 ใบ ลอยน้ำได้อยู่ด้วย เป็นการเรียนรู้เร็วของประเทศกำลังพัฒนาอย่างบังกลาเทศที่ใช้วัสดุพอเพียง และปรับตัวไวทันสถานการณ์โลก
3. สุดท้ายคือ บ้านลอยฟ้า อยู่กับน้ำมากๆบางคนเกลียดน้ำ อาจชอบไอเดียของญี่ปุ่นอันนี้ ซึ่งไม่รู้ไม่แรงบันดาลใจจากบ้านแคปซูลโดราเอมอนด้วยรึเปล่าเพราะเหมือนมากๆ เป็นคอนเซ็ปต์แต่ดูญี่ปุ่นเอาจริงเพราะจำลองโมเดลไว้แล้ว และมีวิธีคิดรายละเอียดไว้หมดแล้วด้วย โดยไอเดียเค้าคือสร้างตึกสูงขึ้นไปเลย 1,000 เมตร ในบริเวณเส้นศูนย์สูตร เป็นเมืองบนฟ้าเพราะระดับความสูงที่อยู่บนจุดนี้จะมีอุณหภูมิคงที่ตลอดทั้งปีที่ 26 องศาเซลเซียส และ ไม่มีไต้ฝุ่น ดูเหมือนจะเป็นไอเดียหลบภัยธรรมชาติในแบบที่เค้าประสบมา แต่ก็น่าจะใช้ดีในยามนี้เหมือนกันค่ะ ที่ชอบคือ แนวคิดการทำฟาร์มแนวตั้งซึ่งอันนี้ประเทศไทยเราควรศึกษาอย่างมาก เพราะนี่คือสิ่งที่เมืองเกษตรอาจลืมตั้งรับ ถ้าไม่มีดินเราจะปลูกอะไรที่ไหน ต่างประเทศที่ไม่มีที่ให้ปลูกคิดได้ตั้งนานแล้วถึง ฟาร์มแนวตั้งแบบในน้ำมีปลาในนามีข้าว
[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=qdVB0EUuBuk]