บริษัทวิเคราะห์แอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Distimo ได้นำแอพที่มียอดขายสูงสุด 200 แอพมาใช้เปรียบเทียบกัน ในขณะที่ in-app purchases คิดเป็น 65 % ของรายได้ทั้งหมดของแอพยอดนิยม 200 ตัวบนแอนดรอยด์ ผลการเปรียเทียบครั้งนี้เป็นแค่ส่วนเดียวของรายงานการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายน 2011 ซึ่งข้อมูลเหล่านี้รวมถึง Windows Phone Marketplace ร้านขายแอพของไมโครซอฟท์ที่จะมาแทน Ovi Store ของโนเกีย และ App World ของ Blackberry ทั้งหมดนี้เป็นแหล่งขายแอพที่ใหญ่ที่สุดบนแพลตฟอร์มของมือถือ
ในปี 2011 Windows Phone Marketplace เป็นที่ๆมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 400% เพราะไมโครซอฟท์สนับสนุนนักพัฒนา เพื่อเป็นการผลักดันแพลตฟอร์มใหม่ให้เกิด ส่วน Android Market ก็เป็นที่ๆรวมแอพฟรีไว้มากที่สุด แม้ว่าจะมีรูปแบบ freemium ที่มีการขาย in-app purchases เพื่อเป็นช่องทางในการหารายได้หลัก
รายได้หลักของแอพสโตร์ของแอปเปิ้ลเกิดจากการขายแอพและ in-app purchases ( in-app purchases ของไอโฟนก็คิดเป็น 50% ของรายได้ทั้งหมด) ตามมาด้วยรายได้จากขายแอพบนไอแพด ซึ่งทาง Distimo ได้แยกคิดรายได้ของไอโฟนและไอแพด เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับรายได้ของแอพไอโฟนกับแอพบนแอนดรอยด์แล้วพบว่า รายได้ของแอพสโตร์สูงกว่าถึง 4 เท่า แต่ถ้านับรวมทั้งไอโฟนและไอแพดก็จะสูงกว่าถึง 6 เท่าทีเดียว
สำหรับแอพที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือ Angry Birds ค่ะ ตามมาด้วย Facebook และ Skype ส่วน Google Maps อยู่ที่ 5 (น่าประหลาดใจนิดหน่อยที่แอพนี้ได้อันดับสูง เพราะมันมีให้โหลดเฉพาะบนแอนดรอยด์ค่ะ)
VIA slashgear