การแบ่งแยกระหว่างเพศมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แม้แต่ในสื่อสังคมออนไลน์แต่เพศก็ยังมีความนิยมต่างกันตามลักษณะของพวกเค้า

ถ้าวันนี้ซีจะบอกว่า ผู้ชายมาจาก Foursquare, ผู้หญิงมาจาก Facebook ก็คงจะเรียกความคนใจจากคนได้ไม่น้อย เพราะนี่คือหัวข้อนึงที่น่าสนใจในงาน Social Media Week แต่มันจะเป็นจริงหรือเปล่าที่ผู้ชายจะเข้ากับ Foursquare มากกว่า ในขณะที่ผู้หญิงก็จะติดใจเฟสบุ้คซะมากกว่า?

Helen Nowicka นักวางกลยุทธ์บนสื่อสังคมออนไลน์จากบริษัท Porter Novelli ได้ทำให้เราได้ฉุกคิดถึงเบื้องหลังการเล่นสนุกบนสื่อสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับบางสิ่งที่สำคัญมาก นั่นก็คือความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชาย, ผู้หญิงและสื่อสังคมออนไลน์ และความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเพื่อนบนสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างก็มีความตื่นตัวบนสื่อสังคมออนไลน์ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่พบก็คือแนวโน้ม 5 เรื่องที่แสดงถึงความแตกต่างของพฤติกรรมบนโลกออนไลน์ที่สะท้อนรสนิยมของแต่ละเพศ

แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ย่อมสมเหตุสมผล เพราะสัญชาตญาณของชายและหญิงต่างกันตามธรรมชาติอยู่แล้ว นั่นก็เป็นตัวสะท้อนนิสัยบนสื่อสังคมออนไลน์และโลกอินเตอร์เน็ต ถ้าหน่วยงานธุรกิจสามารถจับทางถูกก็จะช่วยเจาะกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์ได้ ช่วยให้การวางกลยุทธ์เฉียบคมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

บริษัท Porter Novelli ได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างประมาณ 10,000 คนในประเทศอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สเปน, โปรตุเกส, เบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งการศึกษาครั้งนี้ได้ค้นพบบางสิ่งที่น่าสนใจ และนี่คือใจความสำคัญหลักๆค่ะ

1. ผู้หญิงมีความแอคทีฟบนสังคมออนไลน์มากกว่าผู้ชาย

ผู้หญิงมีความแอคทีฟบนสังคมออนไลน์มากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงจำนวน 65% ของผู้หญิงทั้งหมดจะเข้าใช้งานสื่อสังคมออนไลน์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ในขณะที่มีผู้ชายจำนวน 51% ที่เป็นเช่นนั้น และแนวโน้มนี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงทั่วยุโรป

2. ผู้หญิงจะติดต่อกับคนรู้จักมากกว่า

ผู้หญิงจะทำให้ความสัมพันธ์กับคนที่รู้จักแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยผู้หญิงจะเลือกติดต่อกับคนที่พวกเธอรู้จักมากกว่า จากผลสำรวจพบว่าผู้หญิง 93% ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการอ่านข้อความและดูภาพถ่ายที่เพื่อนๆโพสต์ไว้ หรือไม่ก็เม้นท์บนหน้าโปรไฟล์ของเพื่อน ในขณะที่ผู้ชายจะเข้าไปอ่านหรือดูรูปแค่ 89% และจะเม้นท์กลับแค่ 84% เท่านั้น

3. ผู้หญิงอังกฤษมันจะเป็นเพื่อนหรือติดตามแบรนด์สินค้าเพื่อส่วนลด

เมื่อเทียบกับผู้หญิงในยุโรป ผู้หญิงอังกฤษเป็นผู้นำในด้านการติดตามแบรนด์สินค้าต่างๆเพื่อส่วนลดหรือรับโปรโมชั่นข้อเสนอต่างๆ มีผู้หญิงอังกฤษ 64% ทึ่ถูกล่อใจด้วยส่วนลดบนสื่อสังคมออนไลน์ เทียบกับผู้หญิงในยุโรปที่มีอัตราส่วนแค่ 52% ส่วนผู้ชายอังกฤษจะมีแค่ 56% เท่านั้น

4. ผู้ชายมักจะแสดงสถานะและแสดงความเห็นบนสื่อสังคมออนไลน์มากกว่า

ถ้าคุณสงสัยว่าคำกล่าว ผู้ชายมาจาก Foursquare, ผู้หญิงมาจาก Facebook มีที่มาอย่างไร ข้อมูลนี้ช่วยตอบคำถามได้ค่ะ จากการศึกษาพบว่าผู้ชายจะบอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนด้วยเช็คอินบนสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ชายอังกฤษจำนวน 45% ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการเช็คอินตามที่ต่างๆ ในขณะที่ผู้หญิงจำนวนหนึ่งในสาม (33%) เท่านั้นที่จะทำการเช็คอิน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ของผู้ชายยุโรปก็ใกล้เคียงกันกับการศึกษาอื่นๆ ผู้ชายมักจะแสดงสถานะและความคิดเห็นให้โลกรู้ อาจเป็นเพราะผู้หญิงจะระวังตัวเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน

จากการวิจัยของ Forrester พบว่าผู้หญิงชอบมีส่วนร่วมกับสังคม, แบ่งปันข้อมูล, มีส่วนร่วมในวงสนทนา ในขณะที่การสนทนาของผู้ชายบนโลกออนไลน์จะเป็นเส้นตรงและมีการแข่งขันกัน ผู้ชายมักจะเป็นคนเก็บข้อมูล, คนสร้างคอนเท้นท์และวิพากษ์วิจารณ์มากกว่าผู้หญิง ผู้ชายจะชอบดูคลิปวิดีโอ สร้างคอนเท้นท์ และโดดเด่นในเรื่องการโพสต์แสดงความคิดเห็นบนกระทู้ออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เขียน Wikipedia มีเพียง 15% เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง

ในขณะที่การวิจัยของ Wall Street Journal ในหัวข้อ a week of Foursquare check-ins พบว่ามีสถานที่กว่า 100 ประเภทที่ผู้หญิงทำการเช็คอิน เช่น ร้านเสริมความงาม, คลินิค, สถานศึกษาและร้านค้า ส่วนผู้ชายจะชอบเช็คอินบาร์เกย์และ tech-startups ในขณะที่สถานที่เที่ยวและสนามบินก็มีการเช็คอินสูงเช่นกัน

ในขณะที่ข้อมูลจากการสำรวจทั่วโลกจะแตกต่างจากข้อมูลที่สำรวจในยุโรป ข้อมูลจาก the week แสดงให้เห็นว่า 60% ของคนที่เช็คอินตามที่ต่างๆจะเป็นผู้ชาย ส่วนผู้หญิงจะมีแค่ 38% (แล้วอีก 2% หายไปไหนนะหรือจะเป็นเพศทางเลือกก็ไม่รู้) ส่วนข้อมูลจาก comScore ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงจะใช้ชีวิตบนออนไลน์มากและนานกว่าผู้ชาย และโดยเฉลี่ยผู้หญิงจะมีเพื่อนบนเฟซบุ้คมากกว่าผู้ชายถึง 8%

5. ผู้ชายจะแอคทีฟบนบล็อกมากกว่า

ผู้ชายจะแอคทีฟบนบล็อกมากกว่า มีผู้ชาย 54% ที่ชอบเปิดบล็อกโน้นบล็อกนี้เพื่ออ่านข้อมูล ส่วนผู้หญิงมีแค่ 46% ที่ชอบอ่านบล็อกค่ะ

VIA thenextweb