ไมโครซอฟท์กำลังซุ่มพัฒนา “Lifebrowser” ซอฟท์แวร์ที่เหมือนกับ search engine อัจฉริยะที่คอยรวบรวม, จัดการและดูแลชีวิตบนโลกเสมือนจริงของคุณ
ทุกวันนี้เราต่างก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปบนอินเตอร์เน็ต ทำกิจกรรมหลายอย่างตั้งแต่การส่งอีเมล, พิมพ์เอกสาร, อัพโหลดรูป ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ที่รวมแล้วเป็นตัวเราขึ้นมักจะถูกกลืนหายไปท่ามกลางข้อมูลมากมายมหาศาลไม่มีการจัดเก็บ เพื่อที่จะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ ทางไมโครซอฟท์จึงได้สร้าง “Lifebrowser” ซอฟท์แวร์ตัวต้นแบบที่จะคอยทำเหมืองข้อมูลส่วนตัว ผ่าน timeline ของทุกกิจกรรมที่คุณทำบนโลกออนไลน์ แล้วแสดงผลออกมาในรูปแบบของ timeline ที่ย่อมาแล้วและสามาารถค้นหาได้ง่าย
ความต้องการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เรียกว่า “big data” ของบริษัทอย่างกูเกิล,เฟซบุ้คและแอปเปิ้ล กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อข้อมูลเหล่านี้เกิดล้นจนเกินขีดความสามารถของเครื่องมือบริหารจัดการภายในบริษัท พวกเค้าก็จะเริ่มจ้างบริษัท data firm ยักษ์ใหญ่ ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะทำการคัดกรองข้อมูลที่มีมากเกินไป แล้วนำมาสร้างเครื่องมือและโครงสร้างข้อมูลที่จำเป็น Lifebrowser ก็มีลักษณะการทำงานที่เหมือนกัน เพียงแต่ย่อขนาดให้เล็กลงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น
ลองนึกภาพ search engine อัจฉริยะที่ถามข้อมูลในอดีตบนโลกออนไลน์ของคุณได้ทุกเรื่องดูสิ ด้วย machine-learning algorithm ของ Lifebrowser ที่จะคอยชอนไชไปบนกิจกรรมทุกอย่างทั้งนโลก online และ offline, ค้นหาเฉพาะเหตุการณ์ที่พิเศษหรือสำคัญในชีวิตของคุณ แล้วทำการเซฟข้อมูลเรียงตามลำดับเวลาเพื่อย้อนกลับมาอ่านภายหลังได้
ยกตัวอย่างเช่น การประเมินว่ารูปถ่ายรูปไหนที่มีความสำคัญต่อชีวิตคุณนอกเหนือจากการระบุชื่อหรือวันที่ถ่าย อัลกอริทึ่มตัวนี้สามารถรู้ว่ามีคนกี่คนอยู่ในรูปถ่ายบ้าง, รูปนั้นถ่ายแบบ indoors หรือ outdoors นอกจากนี้มันยังประเมินความสำคัญของไฟล์จากจำนวนรูปที่ถ่ายในช่วงเวลานั้นด้วย ในการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผู้รับอีเมล Lifebrowser จะทำการชอนไชผ่านปฏิทินของคุณ เพื่อค้นหานัดหมายการประชุม, เวลาและสถานที่เพื่อนำมาแยกประเภทอีเมล เป็นต้น
การออกแบบของซอฟท์แวร์ตัวนี้เลียนแบบมาจากวิธีที่มนุษย์เรียกความจำของข้อมูลในอดีต เมื่อซอฟท์แวร์เริ่มงง ไม่อาจตัดสินใจได้ว่าข้อมูลนั้นมีความสำคัญหรือไม่ มันก็จะโยนให้คุณเป็นผู้ตัดสินใจแทน แล้วมันก็จะทำปรับตัว เรียนรู้และทำความเข้าใจความสำคัญของไฟล์นั้นๆผ่านการตัดสินใจของคุณ ทางนักวิจัยหวังว่าจะพัฒนามันให้สำเร็จก่อนหน้าเฟซบุ้คจะทำได้และจะเปิดให้กับสาธารณชนได้ใช้กัน ไม่แน่นะมันอาจจะมาพร้อมกับ Windows 9 ก็ได้นะใครจะไปรู้ล่ะ?
VIA digitaltrend