จากการสำรวจล่าสุดของ IHS มีการประเมินว่าภายในปีนี้ คนอเมริกาจะดูหนังแบบถูกลิขสิทธิ์บนโลกออนไลน์มากกว่าดูจากแผ่นดีวีดีหรือแผ่นบลูเรย์


ทาง IHS คาดว่าการบริโภคหนังผ่านช่องทางออนไลน์ภายในปีนี้จะพุ่งสูงขึ้นถึง 3,400 ล้านครั้ง เทียบกับยอดการดูหนังจากแผ่นปกติที่จะมีแค่ 2,400 ล้านครั้งเท่านั้น

ความนิยมดูหนังออนไลน์ถือว่าได้รับความนิยมพุ่งขึ้นสูงมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีคนดูหนังผ่านออนไลน์แค่ 1,400 ล้านครั้ง ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมามากกว่า 135 % เลยทีเดียว ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าธุรกิจการดูหนังออนไลน์เฟื่องฟูมากแค่ไหน ผู้ที่เป็นคนขับเคลื่อนในตลาดนี้ก็คงหนีไม่พ้น Netflix ผู้ให้บริการวิดีโอออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ที่ผู้ใช้สามารถเลือกดูหนังตัวอย่างก่อนผ่านแคตตาล็อกออนไลน์ได้

ตอนนี้ Netflix ก็กำลังเผชิญหน้ากับผู้ท้าชิงส่วนแบ่งทางการตลาดรายใหม่อย่าง Amazon และ เจ้าของรายการทีวีแบบเปิดรับสมาชิกที่กำลังก้าวเข้ามาในธุรกิจให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง เช่น Comcast ที่เปิดตัวบริการดูวิดีโอออนไลน์ที่มีชื่อว่า Streampix ,ส่วน Verizon ก็ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Redbox คู่แข่งของ Netflix, ทาง Dish Network ก็ได้เปิดตัวบริการวิดีโอสตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิกภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า Blockbuster นอกจากนี้ HBO Go ก็ยังเพิ่มบริการสตรีมมิ่งที่จากเดิมมีแค่บนพีซี  ขยายไปยังอุปกรณ์ iOS, Roku และ Xbox 360 เรียกว่าอุตสาหกรรมนี้ต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือดอย่างแน่นอน

ชัยชนะของบริการวิดีโอออนไลน์ที่มีเหนือแผ่นบลูเรย์ที่ให้อรรถรสความบันเทิงที่เหนือกว่าเกือบทุกด้าน เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าเดี๋ยวนี้คนให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมากกว่าคุณภาพซะอีก ซึ่งอุตสาหกรรมเพลงก็แสดงให้เห็นแล้วว่าถึง MP3 จะมีคุณภาพเสียงด้อยกว่าแผ่นซีดี แต่คนก็ยังนิยมเพราะมันสะดวกจนส่งผลให้ยอดขายแผ่นลดลงมาก จนในที่สุดปีที่ผ่านมายอดดาวน์โหลดเพลงดิจิตอลก็แซงหน้ายอดขายแผ่นซีดีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่แน่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดซ้ำกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์เช่นกัน

VIA PCworld