China Mobile ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด เตรียมเปิดให้บริการเครือข่าย 4G ในฮ่องกงภายในเดือนนี้
China Mobile เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายที่สองที่เปิดให้บริการ 4G ในฮ่องกง เขตปกครองพิเศษของจีน บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ 4G นี้จะมีพื้นฐานมาจาก LTE technology ซึ่งมีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 100 MB/s หรือเทียบง่ายๆก็เร็วกว่า 3G ถึง 50 เท่าเลยทีเดียว ด้วยความเร็วขนาดนี้ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเกมและคลิปวิดีโอผ่านมือถือได้อย่างรวดเร็วกว่าความเร็วของโอเปอร์เรเตอร์เจ้าอื่นๆที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งลูกค้าเป้าหมายหลักก็คือผู้ใช้มือถือในเขตเมืองที่มีจำนวนมากกว่าจำนวนประชากรถึงสองเท่า ปัจจุบันฮ่องกงมีผู้ใช้มือถือประมาณ 15.1 ล้านเบอร์ ในขณะที่ฮ่องกงมีประชากรแค่ 7.1 ล้านคนเท่านั้น (ข้อมูลนี้นับถึงเดือนมกราคมโดย Office of the Communications Authority ) นอกจากนี้ทาง China Mobile ยังเตรียมวางจำหน่ายมือถือรุ่นที่รองรับ 4G อย่างน้อยหนึ่งรุ่นก่อน เมื่อเปิดให้บริการ 4G ในวันที่ 25 เมษายนนี้ ซึ่งภายในปีนี้จะมีมือถือที่รองรับเครือข่ายความเร็วสูงวางจำหน่ายทั้งหมด 10 รุ่น ลูกค้าที่ซื้อเครื่องพร้อมกับสมัครใช้บริการ 4G ก็จะได้ส่วนลดด้วย ซึ่งค่าบริการ 4G จะใกล้เคียงกับค่าบริการ 3G
China Mobile เป็นผู้ที่ชนะประมูลคลื่นความถี่ที่สองของฮ่องกงเพื่อให้บริการ 4G ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2009 ก็เคยชนะประมูลคลื่นความถี่มาครั้งนึงแล้ว ชัยชนะครั้งนี้ทำให้พวกเค้าได้ย่านความถี่ตั้งแต่ 2330 – 2360 เมกกะเฮิร์ต (TDD) เมื่อมารวมกับย่านความถี่ 2600 เมกกะเฮิร์ต (FDD) ที่ได้มาเมื่อปี 2009 ก็ยิ่งทำให้บริษัทแข็งแกร่งขึ้นไปอีก เพราะทั้ง FDD และ TDD เป็นวิธีเบื้องต้นในการการให้บริการ 4G LTE
ในส่วนของจีนแผ่นดินใหญ่ ทาง China Mobile ก็กำลังเปิดทดลองให้บริการ 4G ในโหมด TDD (ส่วนของฮ่องกงจะใช้โหมด FDD) ซึ่ง TD-LTE 4G ได้เปิดให้ทดลองทดลองใช้ใน 6 เมืองตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งปีนี้จะขยายเพิ่มเป็น 9 เมือง โดยจะทดสอบสถานีฐาน 4G เพิ่มจำนวน 20,000 สถานี คาดว่าปลายปี 2013 จะมีสถานีฐานทั้งหมด 200,000 สถานี ต่อจากนั้นก็อาจจะปรับเครือข่ายในฮ่องกงให้กลายเป็น 4G dualmode network เพื่อให้รองรับมาตรฐาน TDD-LTE ที่ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่ง Dualmode 4G LTE นี่เองที่ทาง China mobile จะใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อให้เครือข่ายของบริษัทสามารถทำงานได้ทั่วโลก
VIA Micgadget