BYD ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Qin ในงาน Beijing Auto Show เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จุดเด่นของรถคันนี้นอกจากเป็นรถไฮบริดแล้ว ยังใช้หุ่นยนต์มาเป็นส่วนนึงของ dashboard ด้วย

 

แทนที่จะยัดเทคโนโลยีต่างๆลงไปในแผงคอลโซลหน้าทั้งหมดโดยให้คนขับเป็นผู้ควบคุมเหมือนรถยนต์ค่ายอื่นๆ แต่ทาง BYD กลับเลือกที่จะพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีหน้าตาคล้ายมนุษย์มาเป็นผู้ช่วยในการจัดการฟังก์ชั่นต่างๆที่มีอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของรถยนต์ จึงทำให้ Qin น่าจะเป็นรถยนต์คันแรกของโลกที่วางจำหน่ายพร้อมกับผู้ช่วยหุ่นยนต์

ส่วนรายละเอียดต่างๆของรถคันนี้ยังเปิดเผยออกมาไม่มากนัก แต่ทาง China Car Times คาดการณ์ว่าหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถซ่อนและเด้งตัวออกมาจากแผงคอนโซลหน้าของรถยนต์ โดยมันจะเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายภายในรถ ผู้ขับสามารถสั่งงานด้วยระบบควบคุมด้วยเสียงในการจัดการกับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สาย, บริการค้นหาและระบุพิกัด, ดาวน์โหลดเพลง และระบบตรวจจับการเมื่อยล้าของสายตา (เดาว่าหุ่นยนต์จะติดตั้งกล้องแบบ built-in มาด้วย) ทาง BYD จะผลิตรถรุ่นนี้เพื่อขายในประเทศเป็นหลักและอาจจะส่งออกไปขายที่รัสเซียบ้างบางส่วน

แต่การใช้หุ่นยนต์มาเป็นผู้ช่วยในรถยนต์ไม่ใช่ไอเดียที่สดใหม่ซะทีเดียว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ค่าย Audi ได้พัฒนา Affective Intelligent Driving Agent (AIDA) ร่วมกับ MIT โดยมันจะทำหน้าที่เป็น anthropomorphic GPS, เรียนรู้รูปแบบการขับรถของคุณและให้คำแนะนำเรื่องเส้นทางใหม่ๆ ส่วนค่าย Nissan ก็เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์คอนเซ็ปต์ที่มีชื่อว่า Robotic Assistant (RA) ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมันจะทำหน้าที่วิเคราะห์อารมณ์ของคุณขณะขับรถเพื่อให้มั่นใจว่าคุณมีความสุขในขณะขับรถ ส่วนระบบหุ่นยนต์ช่วยเหลือในรถยนต์อีกตัวนึงเป็นของบริษัท Pioneer ที่ชื่อว่า Driving Partner Robot ที่ทำออกมาเป็นหุ่นยนต์รูปเพนกวิน ซึ่งครั้งนึงเคยนำไปจัดแสดงในงาน CEATEC เมื่อปี 2006 มันถูกใช้สำหรับตรวจจับป้ายต่างๆบนท้องถนน, สัญญาณไฟจราจรและสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบรถ โดยมันจะกระพือปีกและส่งเสียงร้องเพื่อเป็นการเตือนไม่ให้คุณขับรถประมาท โปรเจคทั้งหมดนี้ก็ยังมีคำถามว่าเมื่อนำมาพัฒนาให้ใช้บนท้องถนนจริงๆแล้วจะมีประโยชน์จริงๆหรือไม่ ในขณะที่ฟังก์ชั่นบางอย่างเป็นการทำให้คนขับละสายตาออกไปจากท้องถนน ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้? ซึ่งคำตอบที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องติดตามดูกันต่อไปค่ะ

VIA theverge