ผลสำรวจจาก  Reuters และ Ipso พบว่าผู้ใช้เฟซบุ้คจำนวน 34 % ใช้เวลาเข้าเฟซบุ้คน้อยลงเมื่อเทียบกับ 6 เดือนที่แล้ว โดยพวกเค้าให้เหตุผลว่าเบื่อหน่าย! ไร้ประโยชน์! แล้วคุณเป็นเหมือนกันบ้างรึเปล่าล่ะ?

นี่คือผลการสำรวจความคิดเห็นจากคนอเมริกันกว่า 1,032 คนจาก Reuters และ Ipsos บริษัทวิจัยทางด้านการตลาด ซึ่งกลุ่มตัวอย่าง 21% บอกว่าไม่มีบัญชีผู้ใช้งานของเฟซบุ้ค จึงเหลือแค่ 79% ที่ตอบแบบสำรวจนี้ต่อ จากการสำรวจผู้ใช้งานเฟซบุ้คพบว่าผู้ใช้จำนวน 34 % ใช้เวลาเข้าเฟซบุ้คน้อยลงเมื่อเทียบกับ 6 เดือนที่แล้ว พวกเค้าให้เหตุผลว่า “น่าเบื่อ” “ไม่น่าสนใจ” หรือ “ไม่มีประโยชน์” ส่วนเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัวอยู่อันดับที่สาม มีเพียง 20% เท่านั้นที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ส่วนคนที่เหลือเกือบ 50% บอกว่าใช้เวลาเท่าเดิม จากผลสำรวจมีคน 40 % ที่ใช้เฟซบุ้คทุกวัน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีอายุระหว่าง 18 – 34 ปี ส่วนอีก 60 % จะเข้าแบบวันเว้นวัน ในกลุ่มคนที่อายุ 55 ปีขึ้นไปมีเพียง 29 % ที่เข้าใช้งานเฟซบุ้คทุกวัน

สิ่งที่น่าสนใจอย่างนึงก็คือการรับโฆษณาโปรโมทสินค้าบนโลกออนไลน์ คนส่วนใหญ่กว่า 80% บอกว่าพวกเค้าไม่เคยซื้อสินค้าหรือบริการที่มาจากคอมเม้นท์ในเฟซบุ้คหรือโฆษณาออนไลน์ ตัวเลขนี้ทำให้ Ray Valdes นักวิเคราะห์จาก Gartner ต้องประหลาดใจเพราะว่า “คอมเม้นท์และคำแนะนำจากเพื่อนในเฟซบุ้คมีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่าโฆษณารูปแบบอื่น”

ปัจจุบันรายได้จากการขายโฆษณาเป็นรายได้หลักของเฟซบุ้ค ซึ่งปีที่แล้วพวกเค้ามีรายได้จากส่วนนี้สูงถึง 3,700 ล้านเหรียญ แต่ตอนนี้อัตราการเติบโตจากการขายโฆษณาเริ่มช้าลงแล้ว ในขณะที่ค่าย General Motors ที่ใช้งบโฆษณาบนสื่อสังคมออนไลน์ถึง 10 ล้านเหรียญก็ยังออกมาบอกว่าไม่เวิร์คเช่นกัน  ทางเจ้าของสินค้ารายใหญ่ๆต่างก็ผิดหวังเช่นกัน พวกเค้าอยากจะลงโฆษณาในเฟซบุ้ค แต่ดูเหมือนว่าทางเฟซบุ้คเองก็ยังไม่มีวิธีจัดการกับลูกค้าหรือเอเจนซี่รายใหญ่ๆได้ดีพอ

VIA CNET