รถยนต์ไร้คนขับเริ่มเข้าใกล้ความจริงอีกก้าวหนึ่งแล้ว ตอนนี้ทาง University of Michigan กำลังพัฒนาเทคโนโลยี WiFi ที่ช่วยให้รถยนต์สื่อสารกันเองเพื่อไม่ให้เกิดการชนขึ้นมา
ปัจจุบันมีรถยนต์กว่า 3000 คันในพื้นที่ Ann Arbor ที่ได้เข้าร่วมทดสอบระบบนี้ ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Connected Vehicles เข้าไป เทคโนโลยีนี้พัฒนาขึ้นโดย Transportation Research Institute ของมหาวิทยาลัยโดยร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมของสหรัฐ
รถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการจะถูกติดตั้งอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยเตือนเมื่อมีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอดสายตา, เมื่อรถยนต์จี้เข้าใกล้รถคันอื่นเร็วเกินไป รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆที่คนขับอาจจะไม่ทันระวังตัว
การติดตั้งระบบ WiFi เข้าไปในรถยนต์เป็นกระบวนการที่ง่ายมาก และมันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย เพราะทุกวันนี้เครือข่ายมือถือมีแทบทุกที่ ผู้ขับไม่จำเป็นต้องซื้อรถใหม่เพียงแค่ติดตั้งอุปกรณ์เข้าไปกับคันเดิมก็ใช้งานได้ ทั้งรถประจำทาง, รถยนต์และรถบรรทุกได้หมด
เจ้าของรถที่เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครนอกจากจะได้ทดสอบการใช้งานของเทคโนโลยีนี้แล้ว พวกเค้ายังจะมีส่วนร่วมในการตัดสินว่ามันได้ผลจริงหรือเปล่า และอะไรส่งผลต่อการขับรถบ้าง
แน่นอนว่าการทำวิจัยย่อมมาพร้อมกับคำถามหลายๆอย่าง เช่น ถ้าหากเทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้งานจริงขึ้นมา ประเด็นหนึ่งที่น่าขบคิดก็มีมากมาย เช่น การที่คนพึ่งระบบอัตโนมัติมากๆเข้าจะส่งผลให้การตัดสินใจในสถานการณ์จริงด้อยลงหรือไม่? การตัดสินใจของคนกับรถอันไหนดีกว่ากัน? มันจะทำให้คนขับรถคึกคะนองขึ้นหรือไม่? เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นความผิดจะตกเป็นของคนขับหรือระบบป้องกันการชน?
ถ้าเทคโนโลยีนี้สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างมีตรรกะและทุกคนพึงพอใจ เราก็คงจะได้ใช้กันในอีกไม่นานนี้อย่างแน่นอน
VIA geek