ใครจะไปคิดว่าการขโมยมือถือจะทำให้ตัวเองติดโรคร้ายได้ล่ะ
Sunday Monitor ได้รายงานข่าวว่า มีชายคนนึงขโมยมือถือจากคนไข้ในหอผู้ป่วยแยกโรค (isolation ward) ที่โรงพยาบาล Kagadi ในอูกันดาตะวันตก โดยที่เค้าไม่รู้ว่าผู้ป่วยคนนั้นติดเชื้ออีโบล่า หนึ่งในโรคติดต่อที่แพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศอูกันดา
ก่อนที่คนไข้ที่ถูกขโมยมือถือกำลังจะตายด้วยไข้เลือดออกอีโบล่า (hemorrhagic fever) เค้าได้แจ้งกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลว่ามือถือของเค้าถูกขโมยไป การตามหามือถือจึงได้เริ่มขึ้น
ตำรวจได้แกะร่องรอยจนพบผู้ต้องสงสัยเป็นชายอายุ 40 ปี หลังจากที่เค้าใช้มือถือที่ขโมยมาโทรหาเพื่อน
หลังจากที่ตำรวจเฝ้าติดตามอยู่ระยะหนึ่ง ก็พบว่าชายคนนี้เริ่มมีอาการคล้ายกับติดเชื้ออีโบล่า และไปที่โรงพยาบาลเพื่อซื้อยามากิน
หลังจากนั้นหัวขโมยก็ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการติดเชื้ออีโบล่าจริงๆ จนต้องยอมรับสารภาพกับตำรวจว่าขโมยมือถือไปจริง
ทางประธานาธิบดีของอูกันดาถึงกับต้องออกมาประกาศทางโทรทัศน์ว่าห้ามประชาชนสัมผัส แตะเนื้อต้องตัว หรือสัมผัสกับข้าวของเครื่องใช้ของผู้ป่วยอีโบล่าอย่างเด็ดขาด เพื่อลดอัตราเสี่ยงจากการติดเชื้อ
อย่างนี้เค้าเรียกว่ากรรมติดจรวดจริงๆ ใครทำอะไรไม่ดีเอาไว้ ไม่ต้องรอชาติหน้าค่ะ ชาตินี้เห็นผลทันตามาหลายรายแล้ว
VIA Globalpost