รายงานสดงานเปิดตัวไอโฟน 5
Tim cook ขึ้นเปิดงานด้วยการกล่าวถึงร้าน Apple ที่บาร์เซโลน่า ร้านแอปเปิ้ลจะให้ประสบการณ์เกี่ยวกับผลิตภัรฑ์และบริการที่ดีที่สุด ไตรมาสที่ผ่านมามีคนเข้าร้านมากกว่า 83 ล้านคน
ตอนนี้มีร้านแอปเปิ้ล กว่า 380ร้านใน 12 ประเทศทั่วโลก และประเทศที่ 13 ที่กำลังจะมีร้านแอปเปิ้ลก็คือสวีเดน ที่กำลังจะเปิดวันศุกร์นี้
เรื่องต่อมาพูดถึง MAC ทิมบอกว่า OS X เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุด Mountain Lion เป็นเวอร์ชั่นที่มีคนโหลดมากที่สุดถึง 7 ล้านครั้ง
ส่วน Macbook Pro ที่มาพร้อมหน้าจอเรติน่าก็เป็นแล็ปท็อปที่ดีที่สุดที่เราเคยทำมา แอปเปิ้ลครองตลาดโน้ตบุ้คโดยมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในอเมริกาไตรมาสที่ผ่านมา ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 27% ด้วยอัตราการเติบโต 15%
ส่วนไอแพดในไตรมาสที่ผ่านมาก็ขายได้ 17 ล้านเครื่อง ปีที่แล้วก็ครองตลาดถึง 62% บริษัทชั้นนำใน Fortune 500 ต่างก็ใช้ไอแพด
ในแอพสโตร์ตอนนี้มีแอพมากถึง 700,000 แอพแล้ว มี 250,000 เป็นแอพสำหรับไอแพด 90% ของแอพเหล่านี้มีคนโหลดทุกเดือน ตกแล้วคนนึงจะโหลดประมาณเฉลี่ย 100 แอพ
ปัจจุบันมีอุปกรณ์ iOS ขายไปแล้วกว่า 400 ล้านเครื่อง (นับถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา)
เปลี่ยนตัว Phil Schiller ขึ้นมบนเวทีพูดเกี่ยวกับไอโฟนตัวใหม่แล้ว ชื่อไอโฟนตัวใหม่ก็คือ ไอโฟน 5 เปิดตัวโดยหย่อนเครื่องให้ลอยจากเพดานลงมายังเวทีด้านล่าง
ตัวเครื่องยังทำมาจากอะลูมิเนียมและกระจก บางและเบากว่ารุ่นที่ผ่านมา ตัวเครื่องหนา 7.6 มม. บางลงกว่าเดิม 18% น้ำหนักเครื่องแค่ 112 กรัม เบากว่า ไอโฟน 4s ถึง 20%
หน้าจอ 4 นิ้ว จอเรติน่า 326 ความละเอียด 1136 x 640 สีสดขึ้นกว่าเดิม 44% ความกว้างเท่าเดิม แต่ความยาวเพิ่มขึ้น ออกแบบให้รับกันมือเวลาใช้งาน ความยาวที่เพิ่มขึ้นทำให้โชว์ไอคอนได้ 5 แถว
รองรับ 3G แบบ HSPA+ ที่ 21Mbps และ DC-HSDPA ที่ 42Mbps ส่วน LTE หรือ 4G รองรับที่ความเร็วสูงสุด 100 Mbps มี dynamic antenna สำหรับสลับสัญญาณแบบเดียวกับ 4S รองรับไวไฟ 802.11a/b/g/n ที่ความเร็วสูงสุด 150Mbps
ชิฟประมวลผลที่ใช้คือ A6 ที่เร็วขึ้น 2 เท่า กราฟฟิคดีขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับ A5 ตัวชิฟขนาดเล็กลง 22% แถมประหยัดพลังงานมากขึ้น
Rob Murray จาก EA กำลังขึ้นเวทีทดสอบการประมวลผลเกม Real Racing 3 ด้วยซีพียู A6 บนไอโฟน 5
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่สามารถใช้งาน 3G /LTE โทรหรือเข้าเน็ตได้ 8 ชั่วโมงต่อเนื่องหรือ ต่อไวไฟได้ 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง
กล้องหลังความละเอียด 8 ล้าน เลนส์ 5 ชิ้น ความกว้าง f/2.4 เหมือน 4S แต่บางกว่า มี dynamic low light mode สำหรับถ่ายในภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น เลนส์แซฟไฟร์กันการขีดข่วน
มี “smart filter” ถ่ายได้สีสันใกล้เคียงกับของจริงมากขึ้น ถ่ายเร็วขึ้น 40% มีโหมดการถ่ายแบบพาโนราม่า รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD ที่ 1080p เพิ่มระบบกับภาพสั่นเวลาถ่ายวิดีโอ
กล้องหน้าถ่ายได้ที่ความละเอียด 720P ทำ Facetime ผ่าน 3G/4G ได้เลย
ไอโฟน 5 จะมีไมโครโฟน 3ตัว อยู่ด้านหน้า ด้านล่างและด้านหลัง ใช้สำหรับ voice recognition และตัดเสียงรบกวน ลำโพงคุณภาพดีขึ้น ให้สเปคตรัมของเสียงที่กว้างขึ้น เสียงเป็นธรรมชาติ
ตัดมาพูดเรื่องการเชื่อมต่อ แอปเปิ้ลเปลี่ยนจากสายมาเป็นไร้สาย ซึ่งรวมถึง Bluetooth, AirPlay หรือ sync iTunes ผ่านไวไฟ และ iCloud หัวต่อแบบ 8-pin ตัวใหม่ชื่อว่า Lightning
เริ่มพูดถึง iOS 6 โดยพูดถึงแผนที่ 3 มิติตัวใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบค้นหา ที่มี POI มากกว่า 100 ล้านจุด พร้อมข้อมูลจาก Yelp แถมยังถามจากสิริได้ด้วย
มีระบบนำทางแบบ turn-by-turn navigations แถมยังซูมเข้าซูมออกได้ด้วย เปลี่ยนโหมดไปเป็นภาพถ่ายดาวเทียมก็ได้
ซาฟารีทำงานแบบเต็มหน้าจอเหมือนเดสก์ท็อป มีฟีเจอร์ iCloud Tabs สำหรับแชร์แท็บบนเดกส์ท็อปไปยังไอโฟนได้เลย (รองรับ Chrome และ Firefox ด้วย)
อีเมลมีการเพิ่ม VIP ถ้าตั้งให้คนไหนเป็น VIP เวลามีเมลคนนั้นเข้ามาเมล์ก็จะแยกไปอยู่อีกกล่องหนึ่ง สามารถ Flag ข้อความหรืออีเมลเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวได้
Passbook! สามารถเก็บหนังสือเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน คูปองและตั๋วหนังได้ Photo Stream สำหรับแชร์รูปให้เพื่อน
Siri มีการอัพเดทให้สอบถามผลกีฬา แนะนำหนัง ร้านอาการ เปิดแอพด้วยคำสั่งเสียง โพสต์เฟซบุ้คด้วยเสียง
iPhone 4S, iPhone 4, 3GS, new iPad, iPad 2 และ iPod touch ทั้งหมดนี้จะลง iOS 6 ได้ โดยจะเริ่มโหลดได้วันที่ 19 กันยายน
ตัวเครื่องไอโฟน 5 มี 2 สีให้เลือกคือ ขาวและดำ เหมือนเดิม ยังไม่มี NFC และยังไม่มีการพูดถึง Bluetooth 4.0 ไม่มี wireless charging และยังไม่รองรับ micro-USB
เริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า 14 กันยายนนี้ และจะเริ่มวางขายวันที่ 21 กันยายนในอเมริกา, แคนาดา, UK, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ฮ่องกงและสิงคโปร์ ส่วนอีก 20 ประเทศจะเริ่มวางขายเดือนหน้า ถือเป็นรุ่นที่วางขายเร็วที่สุดของแอปเปิ้ล
ราคาขายไอโฟน 5 เท่าไอโฟน 4s ส่วนไอโฟน 4S จะเหลือแค่รุ่น 16 gb ไอโฟน 4 รุ่น 8 gb ก็ยังคงมีจำหน่าย
เมืองไทยน่าจะเป็นกลุ่มที่ 3 วางจำหน่ายเดือนธันวาคมนี้
เปลี่ยนมาพูดเรื่อง iTunes ตอนนี้มีเพลง 26 ล้านเพลง ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมามีคนซื้อเพลงไปแล้ว 20,000 ล้านเพลง มี iTunes store ใน 63 ประเทศ ปัจจุบันมีทั้งหนังเพลงและหนังสือให้โหลด
มีบัญชีผู้ใช้ 435 ล้านบัญชี ซื้อง่ายด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว เพลงกว่า 60% ถูกซื้อผ่านมือถือ
iTunes เวอร์ชั่นใหม่ปรับปรุงหน้าตาให้ดูดีขึ้น สามารถพรีวิวเพลง และแชร์ไปยังเฟซบุ้คทวิตเตอร์ได้ การจัดการ Playlist ง่ายขึ้น โดยจะเริ่มให้ดาวน์โหลดปลายเดือนตุลาคม
แนะนำไอพอด นาโนตัวใหม่ที่ทำงานร่วมกับ iCloud ได้ เพิ่มความยาวเครื่องขึ้นจากเดิม แต่บางลง จอมัลติทัชขนาด 2.5 นิ้ว มีปุ่ม Home เล็กๆด้านหน้า ตัวเครื่องบางแค่ 5.4 มม ความหนาลดลง 38% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
ปุ่มปรับเสียงอยู่ด้านข้าง มีเครื่องรับวิทยุพร้อมระบบบันทึกเสียงแบบดิจิตอล เล่นวิดีโอและรูปถ่ายได้ มีระบบ fitness และวัดก้าวเดินสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย รองรับ Bluetooth และ wireless audio streaming แบตเล่นเพลงต่อเนื่องได้ 30 ชั่วโมง
มี 7 สีให้เลือกคือ อะลูมิเนียม, ดำ, ม่วง, เขียว, น้ำเงิน, เหลืองและแดง มาพร้อมพอร์ตใหม่ Lightning
ต่อไปเป็นคิวเปิดตัวไอพอดทัชเจน 5 ตัวใหม่จะมีจอ 4 นิ้ว หนา 6.1 มม. หนัก 88 กรัม ด้านหลังจะเปลี่ยนมาใช้อะลูมเนียม พอร์ตต่างๆด้านล่างจะเหมือนกับไอโฟน 5 คือ ลำโพง ช่องเสียบแจ็คหูฟัง และพอร์ต Lightning
ซีพียูที่ใช้คือ A5 แบบ dual-core ความเร็วเพิ่มขึ้นจากตัวเดิม 7 เท่า เล่นเพลงได้ 40 ชั่วโมงต่อเนื่องหรือเล่นวิดีโอได้ 8 ชั่วโมงต่อเนื่อง กล้อง iSight 5 ล้าน , f/2.4, เลนส์ 5 ชิ้น มีโหมดพาโนรามา รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p
สนับสนุนการทำงานของสิริ มีปุ่มด้านหลังชื่อว่า iPod touch loop สำหรับร้อยสายคล้อง ตัวเครื่องมี 5 สี คือ แดง ดำ น้ำเงิน เหลืองและอะลูมิเนียม
หูฟังตัวใหม่มีชื่อว่า EarPods ที่จะมาพร้อมกับ iPod touch ตัวใหม่, iPod nano ตัวใหม่และไอโฟน iPhone 5
ราคาขายไอพอดนาโนตัวใหม่ 16GB อยู่ที่ $149 ไอพอดทัชเจน 5 32GB ราคา $299 และ 64GB ราคา $399 โดยจะเริ่มวางขายเดือนตุลาคม
วง Foo Fighter ขึ้นเล่นปิดงานค่ะ
Photo from Engadget