ซีดีและหนังสือเก่าถ้าคุณเบื่อแล้วก็เอาไปขายได้ แล้วทำไมไฟล์แบบดิจิตอลดาวน์โหลดจะเอามาขายต่อเป็นมือสองไม่ได้ล่ะ
หลายคนซื้อของมือสองก็เพราะปัจจัยด้านราคาที่ถูกกว่าเป็นเรื่องหลัก ซึ่งหลายคนไม่สนใจเรื่องตำหนิเล็กๆน้อยๆถ้าราคาถูกว่า เมื่อมาถึงยุคดิจิตอลการซื้อขายก็เปลี่ยนจากสินค้าที่จับต้องได้ไปเป็นไฟล์ดิจิตอลแทน ข้อดีของไฟล์ดิจิตอลก็คือยิ่งถูกใช้งานมากเท่าไหร่ มันไม่มีวันเก่าตามไปด้วย จึงหมดห่วงเรื่องสภาพสินค้าเวลาขายต่อ แต่สิ่งที่เวลาขายไฟล์ดิจิตอลเหล่านี้ต้องดูก็คือสิทธิ์ของผู้ขายว่าเค้าเป็นเจ้าของหรือซื้อไฟล์มาจริงๆหรือเปล่า ด้วยเหตุนี้ Amazon ได้ทำการจดสิทธิบัตรระบบที่ช่วยสนับสนุนการซื้อขายไฟล์ดิจิตอลมือสอง นั่นหมายความว่าถ้าระบบนี้เริ่มใช้เมื่อไหร่ย่อมจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมดิจิตอลดาวน์โหลด
การเคลื่อนไหวของ Amazon ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อปีที่แล้วสหภาพยุโรปได้ออกกฎไม่ให้ผู้ขายห้ามลูกค้านำซอฟท์แวร์ที่ใช้แล้วไปขายต่อ ระบบของ Amazon จะทำการเก็บไฟล์ดิจิตอลที่ลูกค้าซื้อมา ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือ e-books เอาไว้บนระบบ cloud ที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้เพียงผู้เดียว หากต้องการใช้งานไฟล์เหล่านี้ก็จะดาวน์โหลดหรือฟังผ่านระบบ streaming ซึ่งมันก็คล้ายๆกับตู้เก็บไฟล์บน cloud เวลาที่ลูกค้าต้องการขายนำไฟล์เหล่านี้ไปขายต่อก็ทำการขายสิทธิในการเข้าถึงไฟล์นั้นๆให้กับบุคคลอื่น เมื่อการซื้อขายสมบูรณ์ ผู้ขายก็จะไม่สามารถเข้าใช้ไฟล์ที่ขายไปได้เลย แน่นอนว่าตัวระบบจะมีการป้องกันไม่ให้คุณก็อปปี้ไฟล์เอาไว้ใช้งาน โดยคุณจะต้องลบไฟล์ที่เก็บไว้ในฮาร์ดไดร์ฟ, เครื่องอ่านอีบุ้ค, บริการ cloud อื่นๆถึงจะซื้อขายไฟล์มือสองได้
Amazon ถือเป็นบริษัทใหญ่ที่มองเห็นถึงศักยภาพตลาดมือสอง แต่ไม่ใช่รายแรกที่ทำเรื่องนี้ บริษัท ReDigi ก็เคยออกแอพสำหรับซื้อขายเพลงมือสองมาตั้งแต่ปี 2011 เพลงราคาปกติ 0.99 $ บน iTunes จะนำมาขายแค่ 0.49$ เท่านั้น เมื่อลูกค้าต้องการขายเพลงมือสอง ก็จะทำการอัพโหลดไฟล์นั้นผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ ReDigi ซึ่งจะมีกลไกในการรวจสอบว่าคุณไม่ได้ก็อปปี้เพลงที่ขายเก็บไว้ ส่วนผู้ซื้อก็สามารถตรวจสอบประวัติการซื้อขายเพลงของคนขายผ่าน ReDigi เพื่อให้มั่นใจว่าเพลงนั้นเป็นเพลงถูกลิขสิทธิ์ แต่ข้อเสียก็คือคุณสามารถดาวน์โหลดเพลงที่ซื้อมือสองผ่าน ReDigi ได้เพียงครั้งเดียว นั่นหมายความว่าถ้าเกิดเผลอลบไฟล์ไปหรือฮาร์ดดิสก์เจ๊ง ไฟล์นั้นก็จะหายไปเลย
งานนี้อุตสาหกรรมเพลงดิจิตอลจะได้รับผลกระทบหรือเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนก็ต้องมารอดูกันค่ะ
VIA Newscientist