Bloombrg ได้ทำการประกาศรายชื่อประเทศที่ติดอันดับดัชนีนวัตกรรม (Innovation Index) อันดับหนึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน อเมริกานั่นเอง ส่วนเอเชียเกาหลีใต้คว้าอันดับที่สองมาครอง ส่วนญี่ปุ่นได้อันดับที่ 6

ดัชนีนี้แสดงให้เห็นว่าเกาหลีกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นเคยโดดเด่นมาก่อน อย่าง สินค้าอิเลคทรอนิกส์, อุปกรณ์สื่อสารและรถยนต์ จึงไม่น่าแปลกใจที่อันดับของเกาหลีจึงอยู่สูงกว่าญี่ปุ่น

เมื่อลองมาดูรายงานที่จัดทำขึ้นโดย INSEAD และองค์กรทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization) ที่จัดทำ Global Innovation Index พบว่าเกาหลีอยู่ในอันดับที่ 21 ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 25 ส่วนสิงค์โปร์อยู่ในอันดับ 7 ของ Bloomberg และอันดับ 3 ใน INSEAD

เมื่อพูดถึงคำว่านวัตกรรมของประเทศ ย่อมแตกต่างจากการวัดในระดับบริษัท เพราะต้องมีมาตรวัดที่ชัดเจนโดยไม่ให้มีอคติส่วนตัวเข้ามาเจือปน โดย Bloomberg ได้พิจารณาประเทศทั้งหมดที่เข้าร่วมด้วยปัจจัยหลักๆ 7 ประการโดยให้คะแนนแบบถ่วงน้ำหนักต่างๆกัน คือ

1 ปริมาณของการวิจัยและพัฒนา (20%), 2 ผลผลิต (20%), 3 ระดับของความไฮเทค (20%), 4 การมีส่วนร่วมของนักวิจัย (20%), 5 ความสามารถในการผลิต (10%), 6 ประสิทธิภาพของพื้นที่ (5%), 7 การจดสิทธิบัตร (5%)

จากปัจจัยเหล่านี้ เกาหลีติดอันดับที่ 5 ด้าน R&D , อันดับ 3 ด้านความไฮเทค, อันดับ 3 ด้านการผลิต, อันดับ 4 ด้านประสิทธิภาพของพื้นที่และอันดับหนึ่งด้านการจดสิทธิบัตร ส่วนด้านผลผลิตกลับอยู่ในอันดับ 32  นั่นเพราะว่าคนเกาหลีทีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน จึงทำให้ผลงานที่ออกมาทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรเพราะหมดแรง

ส่วนญี่ปุ่นได้อันดับสองเรื่องจดสิทธิบัตร, ที่ 4 ด้าน R&D ที่ 6 เรื่องการมีส่วนร่วมของนักวิจัย ส่วนปัจจัยด้านอื่นๆก็มีอันดับต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเกาหลี

 

ทางฟากดัชนีของ INSEAD จัดอันดับจาก 141 ประเทส โดยมีหลักเกณฑ์ 5 อย่างในแง่ของเศรษฐศาสตร์ที่ผลักดันให้เกิดนวัตกรรม คือ (1) สถาบัน (2) ทรัพยากรมนุษย์และงานวิจัย (3) โครงสร้างพื้นฐาน (4) ความซับซ้อนของตลาด (5) ความซับซ้อนของธุรกิจ ส่วนหลักเกณฑ์อีก 2 อย่างวัดเกี่ยวกับผลลัพธ์ของนวัตกรรม คือ (6) องค์ความรู้และเทคโนโลยี (7) ความคิดสร้างสรรค์ ตารางด้านล่างเป้นการเปรียบเทียบคพแนนระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีค่ะ

 

จากข้อมูลทั้งสองเจ้าแสดงให้เห็นแล้วว่าเกาหลีเริ่มเหนือกว่าญี่ปุ่นใหลายๆด้านแล้ว โดยมีหัวขบวนอย่างซัมซุง, LG และฮุนได ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ส่งขายทั่วโลก ส่วนญี่ปุ่นเองก็ดูจะชะลอตัวไปเยอะ เน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก

VIA shifteast