สัตว์เลี้ยงอย่างน้องหมาอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีในการป้องกันบ้านของคุณจากขโมยขโจร แต่คงไม่ดีแน่ถ้าเอาชื่อของมันมาตั้งเป็นรหัสผ่านป้องกันมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณ

เมื่อไม่นานมานี้ ทาง Google Apps ได้จัดทำการสำรวจคนกว่า 2,000 คนเพื่อศึกษาวิธีการในการเลือกรหัสผ่าน ผลการสำรวจแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงที่เลวร้าย เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเลือกรหัสผ่านจากข้อมูลที่ตัวเองมี จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หลายคนตั้งรหัสที่เดาง่ายมาก แฮคเกอร์จึงเจาะลัญชีผู้ใช้เหล่านี้ขโมยข้อมูลที่ต้องการแบบไม่ยากเย็นอะไร

แล้วรหัสผ่านที่คนทั่วไปนิยมนำมาใช้ตั้งกันมีอะไรบ้าง? ทางกูเกิลได้จัดอันดับ 10 รหัสผ่านสุดเห่ยเอาไว้ดังนี้ค่ะ

  1. ชื่อสัตว์เลี้ยง
  2. วันสำคัญอันเป็นที่จดจำ เช่น วันครบรอบแต่งงาน หรือวันเกิดของตัวเอง
  3. วันเกิดของคนในครอบครัว
  4. ชื่อลูก
  5. ชื่อของสมาชิกในครอบครัว
  6. สถานที่เกิด
  7. วันหยุดที่คุณโปรดปราน
  8. ชื่อที่เกี่ยวข้องกับกีฬาโปรดของคุณ
  9. ชื่อของคนรัก สามี/ภรรยา
  10. อันนี้เห่ยสุด คิดอะไรไม่ออกก็ตั้งรหัสผ่านว่า “Password” ง่ายๆเลย

ถ้าเกิดคุณใช้ชื่อข้างต้น 1 ใน 10 มาตั้งเป็นรหัสผ่าน ก็จำขึ้นใจไว้ว่าห่างไกลกับคำว่าปลอดภัยอย่างมาก เพราะข้อมูลเหล่านี้หลายๆคนมักจะเขียนลงโปรไฟล์บอกคนอื่นในเฟซบุ้ค แค่ใช้กูเกิลหานิดหน่อยก็เจอแล้ว

ซีก็ขอแนะนำว่าเวลาที่คุณใส่คำตอบของคำถามเพื่อความปลอดภัย (security questions) เพราะแฮคเกอร์อาจใช้ช่องทางนี้ในการขอรหัสใหม่โดยบอกว่าลืมรหัสผ่านอันเดิม ซึ่งคำถามที่เค้าถามก็มีแต่คำถามเบๆ อย่าง ชื่อเพื่อนสนิท ชื่อสัตว์เลี้ยง สถานที่เกิด เป็นต้น

ดังนั้นคุณเองก็ควรใส่คำตอบหลอกๆเข้าไปแทนเหมือนกัน คนอื่นจะได้แฮกได้ยากขึ้น แต่ที่สำคัญเองคุณต้องจำคำตอบที่ใส่ไปให้ได้นะ ไม่งั้นเวลามีปัญหา ลำบากแน่นอน

นอกจากนั้นการสำรวจนี้ยังเผยให้เห็นถึงนิสัยการตั้งรหัสผ่านที่ย่ำแย่ นั่นคือคนกว่า 48% มักจะชอบแชร์พาสเวิร์ดกับคนอื่นที่รู้จัก และมีคนถึง 3% ทีกลัวลืม เลยจดรหัสผ่านลงโพสต์อิท ติดไว้กับห้าจอคอมนั่นแหละ ถือว่าเสี่ยงมากๆเหมือนกับลืมล็อคประตูบ้านเลย

หากคุณเป็นคนนึงที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ถึงเวลาที่ต้องลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว อย่ารอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยมานั่งเสียใจที่หลัง ไม่คุ้มกันหรอกค่ะ

VIA techlicious