สื่อสังคมออนไลน์ที่มีคนนิยมใช้ทั่วโลกอย่างเฟสบุ้ค จึงเป็นเรื่องง่ายมากถ้าใครสักคนจะแอบติดตามคุณบนโลกออนไลน์

ข้อมูลบนเฟสบุ้คถือว่ามีมหาศาลมาก แต่สิ่งที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณก็คือ การตั้งค่าความปลอดภัยในหน้าการตั้งค่า (settings) ซึ่งผู้ใช้หลายคนยังไม่เคยรู้จักหรือเข้าไปตั้งค่าเลย ฟังก์ชั่นนี้มีชื่อว่า “Who can look up my timeline by name?” แต่ปัญหาก็คือทางเฟสบุ้คกำลังจะนำมันออกไปแล้ว

การถอดการตั้งค่าส่วนนี้ออกไป เค้าให้เหตุผลว่ามีจำนวนผู้ใช้น้อย โดยมีแผนการริเริ่มประกาศมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงไม่ส่งผลกระทบคนที่ไม่เปิดฟังก์ชั่นนี้ ส่วนคนที่เปิดฟังก์ชั่นนี้ไว้แล้วจะเห็นข้อความเตือนว่า ฟีเจอร์นี้จะถูกถอดออกในสัปดาห์หน้า

การตั้งค่านี้ถูกสร้างขึ้นตอนที่เฟสบุ้คยังเป็นแค่ที่รวบรวมโปรไฟล์ของคน แต่เมื่อมีเครื่องมืออย่าง Graph Search เข้ามาทำให้การค้นหาสิ่งที่ต้องการหีือแอบติดตามใครบนเฟสบุ้คจึงทำได้อย่างง่ายดาย จึงมีความจำเป็นในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่มากกว่า “Who can look up my timeline by name?” เพื่อหยุดไม่ให้คนอื่นติดตามคุณได้ โดยเปลี่ยนไปให้ผู้ใช้เป็นผู้กำหนดว่าใครสามารถเข้ามาดูไทม์ไลน์ของคุณบ้างผ่านทางการตั้งค่า Privacy Settings and Tools

Facebook บอกว่าผู้ใช้ไม่มีความจำเป็นต้องไปตั้งค่าอีกต่อไปเพราะยังไงคุณก็หนีพลังการค้นหาของ Graph Search ไม่พ้น เพราะถึงคุณจะตั้งค่าห้าเพจแบบเป็นส่วนตัว แต่ข้อมูล check-ins และพิกัดยังเป็นสาธารณะ นั่นหมายความว่าถ้ามีใครค้นหา “People in Austin,” แล้วคุณเคยไปเช็คอินที่นั่น บัญชีของคุณก็จะปรากฎขึ้นมาแม้จะตั้งบัญชีเป็นส่วนตัว

ทางเฟสบุ้คเลยให้ผู้ใช้ตั้งค่าให้แต่ละโพสต์ว่าคุณอยากห้ใครเห็นบ้างด้วยตัวเอง ถ้าคุณมีโพสต์ที่อนุญาตให้คนทั่วไปเห็น คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนให้รู้ว่าโพสต์ของคุณจะถูกเห็นโดยคนที่คุณไม่รู้จัก รวมถึงบอกวิธีเปลี่ยนแปลงคนที่จะเห็นแต่ละโพสต์ (ถ้าสิ่งที่คุณโพสต์มีไอคอนรูปโลกอยู่ข้างๆ นั่นหมายความว่าโพสต์นั้นเป็นแบบสาธารณะ คุณสามารถเปลี่ยนได้โดยคลิกที่ไอคอนนี้ เลือกคนที่คุณอยากให้เห็น เช่น เฉพาะเพื่อนของคุณ ดูเป็นตัวเลือกที่น่าจะปลอดภัยที่สุด)

VIA digitaltrends