หลังจากที่แอปเปิ้ลตัดสินใจแบ่งไอโฟนเป็นสองรุ่นคือรุ่นไฮเอ็นด์กับสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ราคาถูกลง(นิดหน่อย) ทางบริษัทยังมีแผนการเพิ่มความถี่ในการออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ด้วย
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในเอกสารแจกนักลงทุน ทาง Morgan Stanley และ Katy Huberty นักวิเคราะห์ที่เฝ้าจับตาดูแอปเปิ้ลอยู่ ได้ขนานนามการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ของไอโฟนว่า เป็นสิ่งที่ไตร่ตรองมาอย่างดี หลังจากที่ได้พูดคุยกับ Tim Cook และ Peter Oppenheimer CFO ของแอปเปิ้ล ซึ่ง Huberty เชื่อว่าตอนนี้แอปเปิ้ลเครียมพร้อมสำหรับการออกวางจำหน่ายไอโฟนหลายๆรุ่นต่อปี แบบเดียวกับเมื่อปี 2012 ตอนที่แอปเปิ้ลเปิดตัวไอแพด 3 และไอแพด 4 ในเวลาที่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งปี
ความต้องการไอโฟนและไอแพดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งด้านความสนใจของผู้ซื้อและการใช้ทรัพยากรของแอปเปิ้ล นั่นจึงทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านวงจรผลิตภัณฑ์ จากเดิมที่ไอพอดจะเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนก็เปลี่ยนมาเป็นไอโฟนแทน ซึ่งไอพอดนี้ยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงอะไรที่โดดเด่นเลยในปีนี้
Huberty ยังมองอีกว่า “บริการ” เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะเพิ่มผลกำไรให้แอปเปิ้ล ปัจจุบันลูกค้าในมือของแอปเปิ้ลนั้นมีเกือบๆ 600 ล้านคนซึ่งคนเหล่านี้ถือเป็นลูกค้าระดับไฮเอ็นด์ ส่วนใหญ่มีการผูกบัตรเครดิตเข้ากับบัญชีผู้ใช้ เมื่อนำมาใช้ร่วมกับฮาร์ดแวร์ใหม่อย่าง Touch ID ระบบสแกนนิ้วมือก็จะสามารถสร้างบริการใหม่ๆที่สร้างรายได้มหาศาลได้
บริการส่วนใหญ่ของแอปเปิ้ลในปัจจุบันมักจะเป็นบริการฟรีหรือไม่ก็คิดค่าบริการในอัตราที่ต่ำ เช่น iTunes Match ที่ช่วยเก็บเพลงของผู้ใช้ในศูนย์ข้อมูล (data center) ของแอปเิ้ลเพื่อให้ดาวน์โหลดและฟังเพลงผ่านระบบสตรีมมิ่งสำหรับฟังผ่านอุปกรณืเครื่องไหนของผู้ใช้ได้ โดยค่าบริการก็ถูกมากแค่ปีละ $25 หรือประมาณ 790 บาทเอง
นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่ายังอยู่ในช่วงวางกลยุทธ์ในการนำ Touch ID และบลูธูทของ iOS 7 ในการสร้างระบบจ่ายเงินผ่านมือถือในรูปแบบใหม่ ถ้าหากสำเร็จเมื่อไหร่ก็จะเป็นแหล่งทำเงินแห่งใหม่ของแอปเปิ้ลอย่างแน่นอน
VIA Appleinsider