ร้ฐบาลเวียดนามเตรียมสั่งปรับเงิน 100 ล้านดอง ทุกคนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลบนสื่อสังคมออนไลน์ ภายใต้อำนาจของกฎหมายฉบับใหม่ที่ออกในสัปดาห์นี้
นี่ถือเป็นกฎหมายฉบับล่าสุดเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษในวงกว้างที่ออกโดยพรรคคอมมิวนิสต์ ถึงการแสดงความคิดเห็นบางอย่างที่ไม่ผิดต่อกฎหมายอาญา แต่เข้าข่ายการปล่อยข่าวลือหรือโฆษณาชวนเชื่อให้ต่อต้านรัฐบาล ก็ถือว่ามีความผิดโดยปรับเงินตามกฎหมายฉบับใหม่ที่ลงนานโดยนายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง
เวียดนามได้ใช้มาตรการหนักรวมถึงจำคุกเหล่าบล็อกเกอร์ที่วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ซึ่งจำนวนคนที่ทำผิดและถูกจับในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมาก แต่กฎหมายฉบับใหม่นี้ยังใช้คำที่กำกวม ไม่ชัดเจน รวมถึงไม่ได้บอกว่าการคอมเม้นท์แบบไหนเข้าข่ายการทำผิดรุนแรงถึงโทษจำคุก หรือมีโทษขั้นเบาแค่ปรับเงินเท่านั้น
อัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเวียดนามมีประชากร 90 ล้านคน โดยข้อมูลในเดือนกันยายนที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตคิดเป็นประชากรหนึ่งในสาม หรือประมาณ 30 ล้านคน โดย 20 ล้านคนจะมีบัญชีเฟซบุ้คเป็นของตัวเอง ผู้ใช้เฟซบุ้คในเวียดนามคนนึงได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางในการสร้างแคมเปญออนไลน์เพื่อกดดันให้รัฐบาลปล่อยพี่ชายที่ถูกจำคุกเนื่องจากวิจารณ์รัฐบาลก็ถูกตัดสินให้มีความผิดตามกฎหมายใหม่นี้โดยมีโทษกักบริเวณห้ามออกนอกบ้านเป็นเวลา 15 เดือน
กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและรัฐบาลต่างชาติได้แสดงความผิดหวังต่อกฎหมายไซเบอร์ฉบับใหม่ที่ออกโดยรัฐบาลเวียดนาม รวมถึงสหรัฐอเมริกาที่ออกมาบอกว่าเวียดนามควรปรับปรุงกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อทำให้การค้าระหว่างสองประเทศแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงผู้สื่อข่าวอิสระจากแคมเปญ “ReportersWithout Borders” ถึงกับขนานนามประเทศเวียดนามว่าเป็น “ศัตรูของอินเตอร์เน็ต”
กฎหมายฉบับนี้ถือว่าสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในเวียดนามเป็นอย่างมาก โดยนักเคลื่อนไหวบนอินเตอร์เน็ตบอกว่า “รัฐบาลจะถูกทำลายโดยการวิจารณ์และแชร์ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์ส่วนตัวได้ยังไง?”
นอกจากนี้ในกฎหมายยังระบุความผิดคนที่โพสต์แผนที่ประเทศเวียนนามลงบนโลกออนไลน์โดยไม่ตรงกับแผนที่จริงก็เข้าข่ายมีความผิด ต้องถูกปรับเงินด้วย นี่ถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวมากๆ หลังจากที่มีข่างเรื่องการบุกรุกอาณาเขตของจีนซึงรัฐบาลพยายามแก้ปัญหานี้เช่นกัน
เราก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่ากฎหมายฉบับใหม่นี้จะแก้ปัญหาหรือทำให้คนต่อต้านมากขึ้นกันแน่
VIA reuters