ภายในปี 2017 ปริมาณขยะอิเลคทรอนิกส์อย่างทีวี, ตู้เย็น, มือถือ, คอมพิวเตอร์ ,จอมอนิเตอร์จะมีน้ำหนักเทียบเท่าตึก Empire State 200 ตึกทีเดียว

การพยากรณ์ครั้งนี้เกิดจากการนำข้อมูลขององค์กรสหประชาชาติ  (United Nations), รัฐบาลและองค์กรต่างๆภายใต้ความร่วมมือชื่อว่า “Solving the E-Waste Problem (StEP) Initiative,” ภายในอีก 5 ปีข้างหน้าขยะอิเลคทรอนิกส์จะเพิ่มขึ้นมากโดยมีอเมริกาและจีนเป็นประเทศที่ผลิตขยะมากสุด โดยทาง StEP Initiative จะเริ่มสร้างแผนที่ของขยะอเลคทรอนิกส์ทั่วโลกพร้อให้ผู้ที่สนใจเข้าไปดูผ่านอินเตอร์เน็ตได้

ถึงตอนนี้ ข้อมูลรวมของขยะอิเลคทรอนิกส์ทั้งโลกนั้นยากที่จะรวบรวมได้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะแต่ละประเทศก็จำกัดคำนิยามของขยะประเภทนี้ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น อเมริกาจะนับแค่สินค้าที่จับต้องได้อย่าง ทีวี คอมพิวเตอร์ มือถือ แต่ในยุโรปจะนับรวมทุกอย่างตั้งแต่แบตเตอรี่ รวมถึงสายไฟ การสร้างแผนที่  e-waste จึงเป็นครั้งแรกที่นำเสนอขัอมูลที่เปรียบเทียบได้ แถมยังระบุความรุนแรงของปัญหาในแต่ละประเทศได้ด้วยเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหาวิธีดำเนินการต่อไป

แผนที่  e-waste  แบบอินเตอร์แอคทีฟนี้จะแสดงข้อมูลจาก 184 ประเทศโดยประเมินจากจำนวนของอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่วางขายในตลาด ตีออกมาเป็นปริมาณขยะ ข้อมูลตรงนี้ถือว่ามีประโยชน์มากสำหรับรัฐบาลและบริษัทผู้ผลิตใช้บริหารจัดการขยะได้อย่างเหมาะสม

เมื่อปีที่แล้ว ทั่วโลกผลิตขยะอิเลคทรอนิกส์เกือบๆ 54 ล้านตัน เฉลี่ยคนนึงสร้างขยะคนละ 20 กิโลกรัม ทาง StEP ยังได้คาดการณ์ถึงขยะในปี 2017 ว่าจะเพิ่มขึ้น 33% หรือคิดเป็น 72 ล้านตันหรือหนักกว่าพีระมิดกิซ่าถึง 11 เท่า ปัจจุบันจีนเป็นผู้นำด้านการผลิตสินค้าอิเลคทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงไม่น่าแปลกเลยที่จีนจะสร้างขยะอิเลคทรอนิกส์สูงที่สุดในโลก เมื่อปี 2012 จีนสร้างขยะอิเลคทรอนิกส์ถึง 12.2 ล้านตัน ตามมาด้วยอเมริกาที่ 11 ล้านตัน

VIA mashable