Apple watch แย่งซีน iPhone 6 สุดๆ

หลังจากที่ลือกันมานานว่าแอปเปิ้ลจะทำนาฬิกาอัจฉริยะ ในที่สุดเมื่อคืนนี้ก็เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังขโมยความสนใจไปจากไอโฟ 6 ได้อีกด้วย

แอปเปิ้ลได้ยืนยันการมาของนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกในงานเปิดตัวเมื่อคืนนี้ แต่ชื่อนั้นมีการเปลี่ยนเป็น Apple watch เพราะ iWatch มีคนใช้ไปแล้ว เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างนาฬิกาของแอนดรอยด์นั้น แอปเปิ้ลถือว่ามีความเป็นแฟชั่น ไม่ได้ดู geek หรือเนิร์ดจนเกินไป ทำให้ใส่ในชีวิตประจำวันได้ง่ายกว่า รวมถึงคุณสมบัติที่น่าสนใจอีก 2-3 เรื่อง

ข้อมูลเบื้องต้นของ Apple watch ก็คือ มีหน้าจอเป็นกระจกแซฟไฟร์ป้องกันการขีดข่วนได้ดีเยี่ยบแบบเดียวกับที่นาฬิกาหรูๆใช้ทำหน้าปัดกันด้านหลังประกอบด้วยเซนเซอร์ 4 ชนิด, NFC, รองรับ Apple Pay ระบบจ่ายเงินแบบใหม่ของแอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลบอกว่านาฬิการุ่นนี้มีความแม่นยำสูงถึง 50ms และถือว่าเป็นอุปกรณ์ส่วนตัวมากที่สุดที่เคยสร้างสรรค์มา ตัวนาฬิกานั้นไม่ได้ออกแบบเหมือนนาฬิกาสไตล์ Swiss ทั้งหมด แต่ยังคงบางส่วนของการออกแบบไอโฟนเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นขอบโค้งหรือปุ่ม power ที่อยู่ด้านข้าง นอกจากนั้นยังมีปุ่มเม็ดมะยมใช้วิธีหมุนๆแบบเดียวกับนาฬิกาทั่วไปซึ่งแอปเปิ้ลเรียกมันว่า “Digital Crown” ซึ่งใช้ในการเลื่อนเมนู, ซูมรูปภาพเข้าออก, เรียกการใช้งานสิริและอีกหลายฟังก์ชั่น

ในส่วนของการทำงานนั้น นาฬิกาจะฉลาดขึ้น มันรู้ทันทีที่คุณยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา หน้าจอก็จะสว่างขึ้นโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆทั้งสิ้น (รวมถึงโชว์แอปบางตัวที่คุณอาจจะต้องการใช้งานด้วย) หน้าจอก็เป็นจอโค้งสามารถแบ่งแยกระหว่างการแตะและกดหน้าจอได้

ส่วนการชาร์จนั้นถึงแม้จะใช้การชาร์จแบบไร้สาย แต่ตัวอแดปเตอร์จะมีลักษณะคล้ายกับ MagSafe บน Macbook คือใช้หัวชาร์จแม่เหล็กติดไปที่ด้านหลังนาฬิกา

ตัวสายที่มีให้เลือกถึง 6 แบบ แบ่งเป็น 3 คอลเล็คชั่น คือ Apple Watch, Apple Watch Sport และ Apple Watch Edition ความแตกต่างก็คือตัววัสดุที่ใช้ทำตัวเรือน แยกเป็น อะลูมิเนียม,สแตนเลสและทองคำ 18 กะรัต

แน่นอนว่าการทำงานสามารถเชื่อมต่อกับไอโฟน ซึ่งจะต้องเป็นไอโฟน 5 หรือใหม่กว่านั้นถึงจะใช้งานได้ เพราะเค้าใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0 (ตัวนาฬิการองรับ WiFi ด้วย) Apple Watch สามารถแจ้งเตือนและข้อความได้โดยไม่ต้องหยิบไอโฟนขึ้นมาดู  โดยระบบปฏิบัติการที่ใช้นั้นจะมีพื้นฐานมาจาก iOS ซึ่งก็จะมีแอปบางส่วนติดตั้งมาให้แล้ว เช่น American Airlines, City Mapper และแอปของแอปเปิ้ลเอง เช่น  แผนที่พร้อมการนำทาง, Siri, Photos เป็นต้น

ในส่วนของการตรวจวัดสุขภาพและการออกกำลังกายถือเป็นอีกจุดขายสำคัญ มันสามารถทำหน้าที่เป็นทั้ง fitness tracker และนาฬิกาทรงสปอร์ตในตัว มีแอป “Activity” and “Workout” (แต่ถ้าใช้เก็บระยะทางต้องเชื่อมต่อกับ GPS ของไอโฟนถึงจะใช้งานได้) ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้เข้าใจร่างกายและสุขภาพตัวเองดีขึ้น ส่วนแอปจาก third party ก็สามารถลงเพิ่มได้

สนนราคาขายของ Apple watch อยู่ที่ $350 หรือประมาณ 11,200 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในต้นปีหน้าค่ะ ใครอยากได้ก็เก็บเงินรอไว้เลยค่ะ

VIA engadget