ระบบสั่งงานด้วยเสียงในรถยนต์นั้นถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับละสายตาจากถนนน้อยลง เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ แต่จริงๆแล้วมันอาจจะก่อปัญหามากกว่าที่คิด
ระบบให้ความบันเทิงในรถยนต์รุ่นใหม่ๆนั้นจะมาพร้อมกับระบบสั่งงานด้วยเสียงสำหรับเปลี่ยนคลื่นวิทยุ, เชื่อมต่อกับมือถือเพื่อโทรออก/รับสาย ส่งข้อความ เพื่อให้สายตาของคนขับมองไปยังที่ถนน แต่ปัญหาก็คือระบบเหล่านี้สามารถผิดพลาดได้ หรือไม่ก็มีความซับซ้อนเกินไปทำให้ผู้ขับต้องหันมาสนใจกับมันมากขึ้น
จากผลการศึกษาของ AAA Foundation for Traffic Safety และ University of Utah ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทดสอบสองเรื่องคือ หนึ่งระบบให้ความบันเทิงในรถที่ค่ายรถทั่วไปใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น Chevrolet, Chrysler, Ford, Hyundai และ Mercedes สองคือ การทดสอบระบบสั่งงานด้วยเสียงอย่าง Siri ในการสั่งการ, ส่งข้อความ, การโพสต์เฟสบุ้ค/ทวิตเตอร์, การเตือนปฏิทินโดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดู (Apple และ Google ต่างก็ร่วมมือกับค่ายรถยนต์ในการผนวกมือถือเข้าไปในรถยนต์)
ในส่วนของระบบสั่งงานด้วยเสียงนั้นจะวัดการหันเหความสนใจเป็นสเกล 1 – 5 โดยเลข 1 หมายถึงไม่หันเหความสนใจเลย ส่วน 5 คือหันเหความสนใจมากสุด ในการทดสอบเค้าใช้กลุ่มตัวอย่างนักศึกษามหาวิทยาลัย 162 คน และอาสาสมัครอีก 3 คน ทำการทดสอบในสามสถานการณ์คือ ในห้องทดลอง, เครื่องจำลองการขับรถและการขับรถจริงบนถนน Salt Lake City
สิริของแอปเปิ้ลนั้นทำคะแนนถึง 4.14 เมื่อใช้งานบนถนนจริง สูงเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับใช้สิริขณะขับเครื่องจำลองการขับรถ ในส่วนของเครื่องเสียงในรถยนต์นั้น MyLink ของ Chevrolet นั้นได้คะแนนแย่สุดที่ 3.7 ส่วนของอีกสามค่ายอย่าง Mercedes, Ford และ Chrysler ถือว่าเบี่ยงเบนความสนใจมากกว่าการต่อมือถือคุยผ่านสมอลทอร์คซะอีก ส่วนระบบที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ Entune ของโตโยต้าที่ได้คะแนน 1.7 รองลงมาก็คือ Blue Link Telematic System ของฮุนไดที่ได้คะแนน 2.2
เครื่องเสียงที่ได้คะแนนแย่สุดนั้นมันจะทำงานผิดพลาดได้แม้คนขับจะออกคำสั่งเสียงที่เสียงดังฟังชัด ผู้ใช้ก็เลยต้องตั้งใจคิดและเลือกคำสั่งเสียงที่ต้องการใช้เพื่อให้ระบบสามารถทำตามคำสั่งได้ถูก ส่วนสิรินั้นก็มีปัญหาฟังเบอร์โทรผิด ทำให้ข้อความหรือโทรออกไปยังคนที่ไม่ได้ต้องการเลย นอกจากนั้นยิ่งถ้าเราสั่งงานมันยากขึ้นอย่างส่งข้อความ, โพสต์เฟสบุ้ค/ทวิตเตอร์ จึงทำให้เราหันเหความสนใจมาใส่ใจมันยิ่งขึ้น จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นตามไปด้วย
ข้อมูลจากการศึกษาครั้งนี้ถือว่าต่างจากคำโฆษณาของค่ายรถยนต์ที่บอกว่าระบบเหล่านี้ช่วยให้ขับรถปลอดภัยยิ่งขึ้น ผู้ซื้อหลายๆคนก็เลยมั่นใจไปว่าระบบปลอดภัยจริง แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยจริงคืองดใช้มือถือขณะขับรถดีที่สุดค่ะ
VIA driving.ca