เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วค่ะกับ Apple Watch แต่ที่หลายคนผิดหวังก็คืออายุการใช้งานแบตเตอรี่นี่แหละค่ะ ที่ชาร์จแค่ครั้งเดียวจะใช้งานได้แค่ 18 ชั่วโมงเท่านั้นscreen-shot-2015-03-09-at-2-50-15-pm

ส่วนเรื่องราคานั้นต้องขอบอกว่า แม้จะมีรุ่นหลักๆในเลือก 3 รุ่น Apple Watch, Apple Watch Sport, และ Apple Watch Edition แต่ก็มีการซอยออกเป็นรุ่นย่อยๆ เยอะมาก โดยราคาขายเริ่มต้นรุ่นถูกสุดจะอยู่ที่  $349 หรือประมาณ 12,000 บาท จนไปถึงรุ่นแพงสุดคือ ทองคำ 18k ราคาอยู่ที่ $17,000 หรือ 544,000 บาท

ราคาของ Apple Watch collection นั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าปัด ( มีสองขนาดให้เลือกคือ 38mm และ 42mm) และชนิดของสายรัดข้อมือ (สายยาง,สายหนัง,สายโลหะ)

  • Sport band $549/$599
  • Classic Buckle $649/$699
  • Milanese Loop $649/$699
  • Modern Buckle $749 (38mm only)
  • Leather Loop $699 (42mm only)
  • Stainless steel link bracelet $949/$999
  • Space Black stainless steel link $1049/$1099

screen-shot-2015-03-09-at-2-49-05-pm

ส่วน Apple Watch Edition ก็เช่นกัน แต่จำนวนที่วางขายนั้นจะมีจำนวนจำกัดและวางขายเฉพาะร้านเท่านั้น

  • 38mm 18k rose gold w/ black white band $10,000
  • 42mm 18k rose gold w/ black white band $12,000
  • 38mm 18k yellow gold w/ black sport band $10,000
  • 42mm 18k yellow gold w/ black sport band $12,000
  • 38mm 18k rose gold w/ rose gray modern buckle $17,000
  • 42mm 18k yellow gold w/ black classic buckle $15,000
  • 38mm 18k yellow gold w/ bright red modern buckle $17,000
  • 42mm 18k yellow gold w/ midnight blue classic buckle $15,000

Apple2

ในส่วนของการใช้งานแบตเตอรี่ แอปเปิ้ลเคลมว่า Apple Watch สามารถใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง พร้อมเพิ่มหน้าเพจ ผลทดสอบใช้งานแบตเตอรี่ โดยขนาดหน้าปัด 38mm และ 42mm ก็จะใช้งานได้นานไม่เท่ากันด้วย โดยรุ่น 42mm จะใช้งานได้นานกว่า แต่ผลการทดสอบนั้นจะเป็นการนำรุ่น 38mm มาทดสอบ เราจึงไม่ทราบแน่ชัดว่าเวลาในการใช้งานต่างกันแค่ไหน

milanese-loop

การใช้งาน 18 ชั่วโมงนั้นจะประกอบไปด้วยการใช้งานดูเวลา, รับการแจ้งเตือนจากไอโฟน, การใช้แอปและการออกกำลังกายเป็นเวลา 30 นาที โดยใน 18 ชั่วโมงนี้จะแบ่งเป็น การดูเวลา 90 ครั้ง (ดู 5ครั้ง/ชั่วโมง), 90 notifications ( 5 ครั้งต่อชั่วโมง), ใช้แอป 45 นาที และออกกำลัง 30 นาที พร้อมฟังเพลงผ่านบลูทูธ  นอกจากนั้น Apple Watch แยกทดสอบการใช้งานเฉพาะอย่าง เช่น ใช้คุยโทรศัพท์ต่อเนื่องได้นาน 3 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อกับไอโฟน, เล่นเพลงได้ 6.5 ชั่วโมงผ่านบลูทูธและ วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ 7ชั่วโมง ส่วนการสแตนบายนั้นสามารถอยู่ได้สูงสุด 72 ชั่วโมงขึ้นกับเงื่อนไข ในการชาร์จแบตจาก 0% ถึง 100% นั้นจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนการชาร์จ 80% นั้นจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนที่ชาร์จแบบไร้สายจะมีสองขนาดคือความยาว 1 เมตรและ 2 เมตร 

screen-shot-2015-03-09-at-1-31-22-pm1

นอกจากนั้น Apple Watch สามารถกันน้ำได้ระดับ IPX7 นั่นคือกันน้ำกระเด็นใส จึงทำให้ใส่เล่นกีฬา ใส่ล้างมือหรือใส่อาบน้ำได้ แต่ไม่สามารถเข้าไปดำน้ำได้นะ Apple Watch พร้อมวางขายในวันที่ 10 เมษายนนี้โดยสามารถเข้าไปสั่งจองล่วงหน้าในเว็บของแอปเปิ้ลได้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมนี้ กลุ่มประเทศแรกที่จะได้เป็นเจ้าของก่อนก็คือ อเมริกา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ฮ่องกงและญี่ปุ่น นอกจากนาฬิกาแล้วแอปเปิ้ลยังเปิดขายอุปกรณ์เสริมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสายรัดข้อมือชนิดต่างๆสำหรับเปลี่ยนจนไปถึงที่ชาร์จ

VIA 9to5mac