มาแล้วค่ะ ข่าวไอทีจาก DailyC3 มาอัปเดตให้ทุกคนได้ติดตาม ข่าวอะไรที่เจ๋ง ๆ ใหม่ ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีมีเหรอเราจะพลาด อย่าลืมติดตามกันนะคะ
องค์กร Urban Rivers ในสหรัฐอเมริกา พัฒนาหุ่นยนต์เก็บขยะ เพื่อแก้ปัญหาขยะในแม่น้ำ ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ได้จากทุกที่ทั่วโลก
ปัญหาขยะถือว่าเป็นปัญหาหลักๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยเฉพาะขยะในแม่น้ำลำคลองที่ล้วนเกิดจากฝีมือของมนุษย์ หลายประเทศมีวิธีจัดการและรับมือกับปัญหาขยะที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น องค์กร Urban Rivers ในเมืองชิคาโกของสหรัฐอเมริกา คิดค้นวิธีจัดการกับปัญหาขยะในเมือง คิดค้นนวัตกรรมที่มีชื่อว่า Trashbot เป็นหุ่นยนต์เก็บขยะ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการแก้ปัญหาขยะตามแม่น้ำลำคลองในเขตเมือง ในเบื้องต้นหุ่นยนต์ต้นแบบ Trashbot ได้ถูกนำไปทดลองใช้ในแม่น้ำชิคาโก ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้มีกล้องและเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตทำให้สามารถควบคุมการทำงานจากระยะไกลได้
และทีมผู้สร้างอย่าง นิค เวสลีย์ ปิ๊งไอเดียคิดเกมสนุกๆ ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “Trashbot Game” ที่ให้คนทั่วโลกได้ลองเป็นอาสาสมัครขจัดขยะในแม่น้ำ และช่วยบริจาคเงินเป็นค่าบำรุงรักษาหุ่นยนต์ ผู้ใช้สามารถบังคับหุ่นยนต์ Trashbot ให้นำขยะไปใส่ถังแล้วกลับเข้าฐานเพื่อชาร์จไฟ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถแจ้งการกระทำไม่เหมาะสม เช่น การทิ้งขยะในแม่น้ำลำคลองได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการพัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้ให้สามารถทำงานได้เองอัตโนมัติคือการที่หุ่นยนต์แยกแยะได้ว่าอะไรคือขยะและอะไรไม่ใช่ขยะ เนื่องจากขยะตามแม่น้ำลำคลองมีหลากหลายประเภทUrban Rivers หวังว่าจะพัฒนาโปรแกรมจดจำและจำแนกประเภทขยะให้หุ่นยนต์ตัวนี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อนำไปใช้ตามแหล่งน้ำต่าง ๆ ในเมืองอื่นต่อไป
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Baylor University พัฒนาแอปพลิเคชัน White Eye Detector ที่สามารถตรวจหามะเร็งในดวงตาได้อย่างแม่นยำ
Bryan Shaw นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Baylor University และทีมของเขาได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า White Eye Detector ความสามารถของแอปพลิเคชันนี้คือสามารถใช้ระบบ Machine learning ในการวิเคราะห์ตรวจหามะเร็งในดวงตาได้อย่างแม่นยำ โดย Bryan Shaw ได้ทดลองกับลูกชายของเขาและได้ตรวจพบโรค Retinoblastoma (มะเร็งจอประสาทตา) เมื่อตอนอายุ 4 เดือน แต่ในขณะที่แอปพลิเคชันสามารถตรวจพบสัญญาณในตาขาวตั้งแต่ตอนที่อายุเพียง 12 วันเท่านั้น ซึ่งผลการทดสอบพบว่าแอป White Eye Detector สามารถตรวจเจออาการได้เร็วกว่าที่หมอสะอีก
เขาจึงเริ่มพัฒนาแอปพลิเคชัน White Eye Detector ด้วยระบบ Machine learning ในการวิเคราะห์รูปถ่ายกว่า 53,000 รูป จากเด็ก 40 คน โดยที่ครึ่งหนึ่งในนั้นมีอาการทางตา จนค้นพบว่าหากมีจุดสีแดงในดวงตาแสดงว่าเด็กมีสุขภาพตาปกติ แต่ถ้าพบจุดสีขาว สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นโรคมะเร็งจอประสาทตา, จอประสาทตามีปัญหา, ต้อ หรือ Coats Disease (ที่เสี่ยงต่อการตาบอด)
Bryan Shaw ยังบอกอีกว่าส่วนใหญ่ผู้ปกครองมักจะชื่นชอบการถ่ายรูปลูกของตัวเองอยู่แล้ว Bryan Shaw หวังว่าแอปพลิเคชันของเขาจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถใช้มันในการตรวจสอบสุขภาพตาของลูกตัวเองได้ หากพบอาการผิดปกติ จะได้เริ่มรักษาได้ทัน แอปพลิเคชัน White Eye Detector สามารถดาวน์โหลดฟรีได้แล้ว บน iOS เข้าไปค้นหาใน App Store ได้เลยค่ะ