ดีลใหญ่! สร้างยูนิคอร์นตัวใหม่ข้ามคืน 17,850 ล้าน กลับกันเป้าใหม่ของ SCB ในการทำเรื่องเงินดิจิทัลที่น่าจับตามองมากที่สุด ตรงนี้การที่ scb เข้าซื้อหุ้น 51% ของ bitkub online ที่เป็น Platform อันดับหนึ่งในประเทศไทย พร้อมร่วมเป็นพันธมิตรวางรากฐานธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาว เตรียมพร้อมสู่โลกการเงินอนาคต แต่ทำไมกลุ่ม SCB X ถึงเลือกซื้อ Bitkub ลองมาดูกันค่ะ

SCBX คืออะไร? อ่านที่นี่

อ่านข่าว SCBX ซื้อหุ้น Bitkub 

1. ไม่ต้องสร้างฐานลูกค้าใหม่

การเข้าลงทุนใน Bitkub “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” ถือว่าได้สร้างฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มลูกค้าที่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จากเดิมกลุ่มลูกค้า SCB จะมีแค่เพียงกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งฐานผู้ใช้งานบิทคัพนั้นมีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน ทำให้ SCBS ประหยัดต้นทุนเวลาในการสร้างฐานลูกค้ากลุ่มคริปโตฯ และ Bitkub ยังเป็นผู้นำด้านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ของประเทศไทย (Digital Asset Exchange) แถมยังมีโอกาสเติบโตมากกว่านี้ หากมีการกำกับดูแลที่ดี เช่นกรณีนี้อย่าง SCB ที่เป็นสถาบันทางการเงินที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 114 ปี ได้มืออาชีพเข้ามาช่วยกำกับดูแล นอกจากนี้ Bitkub และ กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ มีการแชร์เป้าหมาย Vision ที่เหมือนกันว่า Digital Asset มีความสำคัญต่อการพัฒนาของเศรษฐกิจต่อประเทศไทยในระยะยาว

นอกจากนั้นฐานลูกค้าของ Bitkub มีความสามารถในการพึ่งพาตัวเองสูง และต้องการการดูแลตํ่า ใช้ต้นทุนน้อย ขณะที่การขายสินทรัพย์ทางการเงินในปัจจุบันต้องผ่านผู้ดูแลความสัมพันธ์ (RM) หรือที่ปรึกษาการลงทุน (IC) ที่มีต้นทุนสูงกว่า และการเพิ่มขนาดธุรกิจ(scale up) ทำได้ยากและช้ากว่า

2. Bitkub เติบโตเร็วแบบก้าวกระโดด

หลังจากที่บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด เปิดให้บริการนับแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 และบริษัทมีผลประกอบการทั้งด้านผู้ใช้งานและรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศที่ไว้วางใจเปิดบัญชีซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอันดับหนึ่ง ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 90% ในประเทศไทย และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาริมาณการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของ Bitkub คิดเป็น 6.5% ของปริมาณการ ซื้อขายหุ้นไทย กำไรของ Bitkup สูงกว่าบริษัทหลักทรัพย์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดใกล้กัน และใกล้เคียงบริษัทหลักทรัพย์อันดับ 1-2 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1-2 (รวมกำไรธุรกิจวาณิชธนกิจ) แต่ถ้ามองเฉพาะกำไรจากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ผลการดำเนินงานของ Bitkub จะสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

นายจิรายุส Group CEO Bitkub กล่าวว่า

“ในการร่วมมือกันครั้งนี้ การที่ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” โดยบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เข้ามาซื้อหุ้นทั้งหมด 51% ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ที่จำนวน 17,850 ล้านบาท ที่มูลค่าบริษัททั้งหมด 35,000 ล้านบาท จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งอันนี้เป็นการประทับตรา “ยูนิคอร์น” อีก 1 ตัวให้คนไทยทุก ๆ คนได้ภาคภูมิใจ”

3. Bitkub ได้ License จาก กลต.

Bitkub นั้นไม่ได้เป็นบริษัทการเงินออนไลน์อิสระ เหมือนสถาบันการเงินออนไลน์ทั่วไป แต่ถูกควบคุมด้วย ​คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลตลาดทุนในภาพรวม ตลอดจนวางนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนา โดยภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีความน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ เป็นสากล โปร่งใส และเป็นอิสระ

ทั้งนี้ การเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมีเงื่อนไขว่าผลการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ของ Bitkub ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจ และคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2565

4. ราคาซื้อขายไม่แพงเมื่อเทียบกับการเติบโต

ในการร่วมมือกันครั้งนี้ การที่ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” โดยบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เข้ามาซื้อหุ้นทั้งหมด 51% ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ที่จำนวน 17,850 ล้านบาท ที่มูลค่าบริษัททั้งหมด 35,000 ล้านบาท จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด นักวิเคราะห์ต่างมองว่า แม้ว่าดีลยักษ์ครั้งนี้จะมีมูลค่ามหาศาล แต่ถือว่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับโอกาสต่าง ๆในการเป็นผู้นำตลาด ในการซื้อขายสินทรัพย์และ ธุรกรรมดิจิทัล ใหม่ๆ

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที  จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อ SCB เพราะ Bitkub มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 92% และช่วยต่อยอดธุรกิจ Crypto Exchange Platform จากเดิมที่ TokenX ที่ทำได้แค่ออกเหรียญ ICO ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทั้งจากการขยายฐานลูกค้าจาก SCB รวมถึง Crypto Exchange เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมากในปัจจุบัน โดยคาดว่าแนวโน้มของกำไรสุทธิของ Bitkub จะเติบโตได้แบบก้าวกระโดด

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  SCB เข้าลงทุนสัดส่วน 51% ใน Bitkub Online ด้วยเงินลงทุน 1.78 หมื่นล้านบาท คิดเป็น PE 17-18 เท่า ซึ่งไม่แพง และจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในด้าน Fintech สำหรับ SCB เราประเมิน Upside ของกำไรปี 65 ราว 3-5%

5. ลดความเสี่ยงในการถูก Disrupt

ยุคนี้กระแสคริปโตดีขึ้ ผู้คนหันมาใช้มากขึ้น ทำให้เกิดบริษัทที่มีโอกาสเป็นคู่แข่งโดยเฉพาะกับธนาคารและสถาบันการเงินอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งลดความเสี่ยงในการถูก Disrupt คือ การจับมือกับมืออาชีพอันดับ 1 ด้าน Digital Assets อย่าง Bitkub น่าจะเป็นทางออกที่ง่ายและดีที่สุด

6. Ecosystem ใหม่

คำว่า Digital Assets ในที่นี้ อาจจะไม่ได้หมายถึงตัว Cryptocurrency ที่ถูกเทรดกันอย่างเดียว และด้วย Ecosystem ที่พร้อมเราอาจจะได้เห็นการซื้อหุ้นด้วยคริปโต ซื้อคริปโตด้วยหุ้น และรูปแบบการจ่ายเงินด้วยสกุลเงินคริปโตที่ดีขึ้นหรือการ Tokenized สิ่งต่างๆรอบตัว เช่น ชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือในตัวบุคคล เป็นต้น

แถมล่ากระแสตอบรับ Metaverse ดีมาก อาจจะเป็นอีกช่องทางที่เราสามารถเตรียมพร้อม ในส่วนของ NFT exchange ได้ด้วย เพราะสิ่งนี้ก็ถือเป็น Digital Assets จุดนี้เลยที่ Bitkub ได้ประโยชน์ที่ไปเต็มๆ เหมือนเป็นการทำลายกำแพงเดิม ที่มีเงื่อนไขจากหลายฝ่ายมากั้นไว้ อนาคตเราจะได้เห็นการลงทุน และผลิตภัณฑ์ที่ถูกเรียกว่าสินทรัพย์ ในรูปแบบใหม่แน่นอน

อีกอย่างในอนาคตที่น่าจับตามองเลยคือ บัตรเครดิตคริปโต SCBS หรือ บัตรเครดิต Bitkub  ก็เป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ไม่ยาก เพราะล่าสุดทางบัตรเครดิต Mastercard ก็ประกาศความร่วมมือกับ Bakkt  ด้วยการผนวกกระเป๋าเงินคริปโตของ Bakkt เข้าไปยังบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของ Mastercard