กระแสของ Samsung Galaxy S23 Series มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของทางซัมซุงร้อนแรงมากในโลกโซเชียลล่า สุดทีมงาน Ceemeagain ได้มีโอกาสได้เดินทางไปกัวลาลัมเปอร์เพื่อสัมภาษณ์ท่านประธานธุรกิจด้านมือถือโดยเฉพาะ เพื่อสอบถามถึงผลิตภัณฑ์ใหม่และกลยุทธ์การตลาดอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง

แต่ก่อนอื่นที่จะมาเล่าว่าท่านผู้บริหารให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอะไรบ้าง ทีมข่าวของขอแชร์เรื่องราวความประทับใจที่ทางคุณทีเอ็ม โรห์ ให้สัมภาษณ์ถึงผู้ใช้ในประเทศไทยไว้ว่า

ลูกค้าในไทยอยากได้มือถือที่มีกล้องที่ดีการเล่นเกมที่ดีขึ้นรวมถึงประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลซึ่งทั้งหมดนี้ผมก็ได้ศึกษาและนำมาพัฒนาอยู่ใน S23 ของเราแล้วเพื่อให้ลูกค้าได้มีสินค้าที่ดีขึ้นในการใช้งาน

แน่นอนว่านี่คือหนึ่งกลยุทธ์หลักของเขา การที่แบรนด์จะสามารถเขาไปนั่งในใจผู้บริโภคได้ จุดที่สำคัญที่สุดคือคุณจะต้องเข้าใจความต้องการของเขาก่อน ภายใต้ปีที่โลกเราเจอกับสถานการณ์โรคระบาด เศรษฐกิจมีความยากและมีความท้าทายมากเป็นพิเศษ แน่นอนว่าผู้บริโภคทุกคนใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น ลูกค้าจะเลือกซื้อเฉพาะสินค้าที่เขามี ‘ความเชื่อ’ เท่านั้น แต่นี่ไม่ใช้อุปสรรคของทางซัมซุงแต่อย่างใด เขากลับมองว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะสามารถทำความเข้าใจความต้องการลูกค้าและทำให้ลูกค้าเชื่อ นั้นเลยเป็นที่มาที่ทำให้ ยอดจองของ Samsung Galaxy S23 Series กลับสูงขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย จะว่าไปสูงกว่ายอดจอง S22 เมื่อปีที่แล้วเสียอีก

คุณทีเอ็ม โรห์ บอกเลยว่าเขามั่นใจในความสำเร็จที่ทาง Samsung ได้นำประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกล้อง เกม การเชื่อมต่อ และความปลอดภัยในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว 

หากถามถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Samsung Galaxy S23 Series เขามั่นใจเลยว่าแฟน ๆ จะต้องประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Nightography หรือการถ่ายรูปตอนกลางคืน ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นแล้ว เรื่องของการประมวลผล ทางซัมซุงได้ทำชิปเซ็ตพิเศษ Snapdragon for Galaxy ชิปเซ็ตที่ดีที่สุดที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานของ Samsung Galaxy

สิ่งสำคัญของทาง Samsung คือการสร้าง Ecosystem ที่ตอบโจทย์และครบวงจร

หลังจากที่ทีมข่าวเราได้รับเชิญไปที่ประเทศสิงคโปร์ร่วมงาน Galaxy Unpacked 2023 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเขามีการจัดโชว์โซน SmartThings การเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดของอุปกรณ์ Samsung ไม่ว่าจะเป็น มือถือ แท็บเล็ต ทีวี นาฬิกาและอุปกรณ์ IoT ทั้งหลาย ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลื่นไหล นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทางซัมซุงให้ความสำคัญอย่างมาก คุณทีเอ็ม โรห์เน้นย้ำว่าเขาจะพยายามปล่อยสินค้าที่ครบและตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม อย่าง Z series, A Series และ S Series ที่พึ่งปล่อยมา

และแน่นอน ‘มือถือ’ อย่างเดียวคงยังไม่ครบ Ecosystem ของเขา ดังนั้นทาง Samsung ยังมองถึง แทปเล็ต สมาร์ทว็อทช์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกด้วย เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อ ‘Connectivity’ ที่ครบวงจรอย่างแท้จริง โดยเขาจะมุ่งหน้าเดินตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้า เพื่อสร้างการเติบโตให้กับ Samsung ในปี 2023 นี้ นอกจากนี้คุณทีเอ็ม โรห์ยังได้พูดถึงเรื่องของสุขภาพอย่าง Digital Health ด้วย อุปกรณ์ของซัมซุงที่จะสามารถทำให้ผู้บริโภคทำอะไรได้มากขึ้น

“การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์เพียงอย่างเดียวสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการ ‘สร้างคุณค่า’ ให้กับผู้บริโภคหรือการสร้าง Ecosystem ที่ตอบโจทย์นั้นเองนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องใส่ใจ”

Samsung กับ AI

Samsung ให้ความสำคัญกับ AI อย่างมาก พลาดไม่ได้ที่ทีมข่าวเราจะขอถามคำถามเกี่ยวกับประเด็นร้อนในโลกเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT ทางคุณทีเอ็ม โรห์มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

อย่างที่เรารู้กันว่า Samsung มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของกล้อง ที่ทำให้ความสามารถของกล้องยกระดับขึ้นไปอีกขั้น การถ่ายรูปบุคคล การซูม การถ่ายภาพที่ชัดในตอนกลางคืน การที่มือถือสามารถมีประสิทธิภาพการประมวลผลที่ดีขึ้น แต่กินแบตน้อยลง AI ก็มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น

ส่วนเรื่องของ ChatGPT เขาก็มองเห็นถึงความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีนี้จะสามารถพัฒนามาอยู่บนอุปกรณ์มือถือได้เหมือนกัน ทาง Samsung เปิดรับเทคโนโลยี AI ใหม่ ๆ เสมอ ไม่ใช่เฉพาะกับ ChatGPT อย่างเดียว เขาก็กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับ Google, Microsoft, Meta รวมถึง Amazon ด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทาง Samsung เองก็มีศูนย์ R&D เกี่ยวกับ AI อยู่หลากหลายที ดังนั้นเราก็จะพยายามมองหาหาเทคโนโลยี AI ใหม่ๆมาใช้เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

นอกจากนั้นคุณทีเอ็ม โรห์ยังได้พูดเล่นกับสื่อด้วยว่า ตัวเขาเองก็ได้ลองแล้วนะ คำถามที่ได้ลองถาม ChatGPT คือ “มีวิธีไหนบ้างที่ทางซัมซุงจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งจากตลาดได้?” 

แต่มั่นใจได้เลยว่าในอนาคตทาง Samsung จะเดินหน้าศึกษาและพัฒนา AI ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์และมีประโยชน์กับผู้ใช้สูงสุดแน่นอน

Everyday Sustainability

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทาง Samsung เน้นย้ำมาตั้งแต่ต้นปีคือเรื่องของ ‘Sustainability’ สิ่งที่ทำให้ Samsung แตกต่างจากแบรนด์อื่นคือ นอกเหนือจากเขาพยายามใช้วัสดุรีไซเคิลแล้ว เขายังใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย อย่างตัว Samsung Galaxy S23 สีของมือถือก็เป็นสีจากธรรมชาติหรือแม้กระทั่งตัวฟิล์ม Gorilla Glass เองก็ผลิตจากของรีไซเคิล เป็นต้น

ในเรื่องของความยั่งยืน ทาง Samsung เขามุ่งเน้นไปที่ 3 ส่วนด้วยกัน

  1. เทคโนโลยี นวัตกรรม ที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถรีไซเคิลได้
  2. ประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงาน การประมวลผลที่ดีแต่กินแบตน้อยลง
  3. ระยะเวลาของการใช้งานสินค้า สินค้าต้องมีคุณภาพและสามารถใช้งานได้ในระยะยาว 

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการซ่อมด้วย การซ่อมแบบแยกชิ้นส่วน ทำให้สามารถ “ซ่อมได้ง่ายขึ้น” เพื่อยืดอายุการใช้งานและไม่สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก

ปิดท้ายนี้มีคำถามจากเพื่อนนักข่าวที่น่าสนใจ เขาถามถึง Technology ‘จอยืดหด จอพับ’ ที่ทาง Samsung เอามาโชว์ในงาน CES 2023 (Consumer Electronic Show) ด้วยว่าจะเกิดขึ้นจริงเมื่อไหร่

คุณทีเอ็ม โรห์ก็บอกเลยว่า เหมือนรถแหละ ก่อนจะมาก็ต้องออก Concept มาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าใช้เวลาให้การพัฒนาอีกสักพัก ซึ่งทาง Samsung ก็กำลังทำอยู่ แต่อยากให้เข้าใจว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่างมือถือจอพับ ที่ปล่อยออกมารุ่นแรกในปี 2019 เราก็ใช้เวลาเกือบ 8 ปีในการผลิต Protoype ขึ้นมา ซึ่งคุณทีเอ็ม โรห์ก็ปิดท้ายว่าให้อดใจรอสักนิด เพราะทางทีม R&D เองก็ไม่อยากผลิตเพียงแค่จอ Display ออกมาเท่านั้น เขาต้องการสร้างนวัตกรรมและผลิตเทคโนโลยีใหม่ออกมาที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากที่สุด