ขึ้นชื่อว่าเป็นงานแฟร์ ก็ต้องเต็มไปด้วยผู้ประกอบการที่หลากหลาย พร้อมขาย พร้อมรับลูกค้าแบบสะใจกันไปเต็มที่แน่นอน เรียกว่า มาครั้งแรกใครที่ไม่เคยเห็นงานแฟร์จีนก็คงต้อง”อึ้งบ้าง”เพราะแน่นขนัดไปด้วย “บูธที่มีทั้งการขายความล้ำเพื่อให้ทำตามได้เพราะมาทำให้ดู”จากหัวเมืองต่างๆของประเทศจีน มหาวิทยาลัย และ “บูธที่มาขายนวัตกรรม ขายของ”ที่มีการจัด3งานพร้อมๆกัน ในรอบเดียวทำให้การเดินงานเต็มอิ่มกันไป ในแบบทั้งชม ช้อป และ ใช้หัวในการรับฟังสัมนาดีๆ ตลอด4วันเลยเชียว
มายังไงใครจัดใหญ่เบอร์นี้?
ปูให้ฟังก่อนว่า งาน InnoEX ครั้งแรกนี้เป็นการร่วมกันโดยรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) และสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ซึ่งจัดร่วมกับงาน HKTDC Hong Kong Electronics Fair และ HKTDC Hong Kong International Lighting Fair งานแสดงเทคโนโลยีทั้งสามงานเปิดตัวที่ Hong Kong Convention and Exhibition Centre (HKCEC) บนความตั้งใจดึงดูดผู้แสดงสินค้าเกือบ 3,000 ราย จาก 20 ประเทศและภูมิภาคทั่วฮ่องกง แผ่นดินใหญ่ เอเชีย ยุโรป และอเมริกา และแสดงบทบาทของฮ่องกงในฐานะนวัตกรรมระดับโลก ศูนย์กลางและศูนย์แสดงสินค้า คอนเซปต์รอบนี้คือ “เชื่อมต่อโลกด้วยนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” โดยกลุ่มคณะกรรมการนวัตกรรมและเทคโนโลยีนำเสนอโครงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ที่ดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการวิจัย 14 แห่ง ยังจับมือกับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกภายใต้โครงการ InnoHK ของรัฐบาล HKSAR
บอกได้ว่า เข้าธีมการ “เชื่องโยง”จริงๆเพราะว่า ทีมงานหอการค้าทำงานกันแข็งขันและร่วมมือกันแบบสุดๆ
ออนไลน์ก็ให้ประสบการณ์ที่ต่างกัน
งานแสดงสินค้าจัดขึ้นเป็นเวลาสี่วันติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 15 เมษายน ในขณะที่ผู้แสดงสินค้าระดับ
โลก ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้ซื้อสามารถมารวมตัวกันผ่านแพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจอัจฉริยะ Click2Match ได้จนถึงวันที่ 22 เมษายนหรือหลังงานจริงจบ งานออนไลน์ก็ไปคุยกันต่อเพื่อจบการขาย หรือคนที่ไม่ได้มา หรือมาแล้วบูธที่คลาดสายตาไปก็ไปเจรจาการค้า กันต่อออนไลน์บอกได้ว่า “ปั้นเวบไซด์มาแบบคิดมารอบคอบ”เพื่อการใช้งาน จากโลกออฟไลน์สู่ออนไลน์ต้องได้ประสบการณ์ที่ดี
เป้าหมายของงานนี้ คืออะไร?
InnoEX มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมในทุกภาคส่วน ข้ามสายงานได้ ตลอดจนการทำงานร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อต่อยอดธุรกิจใหม่ สินค้าขึ้นหิ้งตั้งใจจะขึ้นห้าง
ซึ่งรวมถึงธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) รัฐบาลกับรัฐบาล (G2G) และความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับธุรกิจ (G2B) งานนี้จะขับเคลื่อนการแปลนวัตกรรมสู่การค้าผ่านตลาด ซึ่งท้ายที่สุดจะขยายการเข้าถึงขององค์กรไปสู่เวทีระดับโลก
คุยกับผู้จัดงานซักนิด เสพความคิดอีกสักหน่อย
สุภาพสตรีวงการไอทีฮ่องกงท่านนี้ น่ารักมากค่ะ คุณ โซเฟีย ชอง รักษาการผู้อำนวยการบริหาร HKTDC ได้กล่าวเปิดนิทรรศการและฟอรัม InnoEX เมื่อในงานวันแรกว่า “InnoEX ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจชั้นนำที่นำเสนอโซลูชั่นอัจฉริยะแห่งยุคหน้าและเทคโนโลยีล้ำสมัย รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีผู้ทรงอิทธิพล องค์กรต่างๆ ผู้นำทางความคิดและนักลงทุนจากภูมิภาคและนอกภูมิภาคเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือข้ามภูมิภาคและข้ามภาคส่วน และสำรวจโอกาสทางธุรกิจในทุกด้าน” นอกจากนี้ได้แสดงความเชื่อมั่น และความพร้อม ในการสร้างความมั่นใจกับสื่อมวลชนว่า “หน่วยงานและรัฐบาลฮ่องกงพร้อมเดินหน้าในการผลักกันเต็มแรงเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจ การค้า และการพัฒนาซึ่งเป็นหัวใจหลักของฮ่องกงให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง”
ทั้งนี้ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับ ศาสตราจารย์ Sun Dong เลขาธิการฝ่ายนวัตกรรม เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม อีกบุคคลสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนงานนี้
“รัฐบาลชุดปัจจุบันมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเป็นแรงผลักดันที่แข็งแกร่งต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และจัดการกับความกังวลเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของผู้คน โดยปี 2021 มีการเปิดเผย’พิมพ์เขียวนวัตกรรมและเทคโนโลยีฮ่องกง’ ซึ่งกำหนดแผนกลยุทธ์สำหรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีในอีก 5-10 ปีข้างหน้าที่ส่งเสริมทิศทางสำคัญ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ” โดยตอนนี้ กำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยการตรวจสอบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีจุดประสงค์ เพื่อดำเนินการริเริ่มด้านดิจิทัล 100 รายการโดยแผนกต่างๆ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, บล็อกเชน และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ภายในปี 2568 สิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของเราด้วยความสะดวกสบายมากขึ้นอย่างแน่นอน และช่วยให้ พลเมืองจะสัมผัสกับประโยชน์ของเมืองอัจฉริยะและ IoT ในชีวิตประจำวันที่ก้าวหน้า”
ปูพื้นฮ่องกงด้วย แนวคิด “สีจิ้นผิง”
ศาสตราจารย์จาง กวงจุน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวในการปราศรัยบนเวทีว่า “ฮ่องกงเป็นสถานที่รวบรวมองค์ประกอบนวัตกรรมระดับโลกที่สำคัญ และเป็นศูนย์กลางสำคัญในเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลก ด้วยความได้เปรียบจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของมาตุภูมิและการเชื่อมต่อกับโลก ทำให้ฮ่องกงจึงมีบทบาทสำคัญและขาดไม่ได้ในโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมของประเทศ
ดังนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเพื่อปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่สำคัญของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี และการส่งเสริมการพัฒนาที่เจริญรุ่งเรืองของฮ่องกง และนำไปสู่การปฏิบัติข้อตกลงระหว่างแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง โดยพร้อมเร่งพัฒนาฮ่องกงให้เป็นศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีนานาชาติ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีในฐานะกลไกใหม่สำหรับการพัฒนาธุรกิจและเมือง”
เรียกว่า แทบจะเก็บเกี่ยวความรู้มาไม่หมด เพราะว่า ได้รับฟังหลากหลายหัวข้อที่เปิดประเด็นทางความคิดเรื่อง การประยุกต์ใช้ นวัตกรรมด้านต่างๆเพื่อสร้างระบบให้กับ การบริหารจัดการหลายสานมากจริงๆ ลองคิดดูว่า เจ้าหน้าที่หลายคนจะเข้าร่วมการประชุมพูดคุยหารือ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะของอาเซียน มาแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะกับตัวแทนจากรัฐบาลฮ่องกงและผู้แสดงสินค้าจากภูมิภาคต่างๆสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จากที่ต่างๆ เพื่อสร้างความร่วมมือ พร้อมต่อยอดการลงทุน และสำรวจโอกาสทางการค้า ปิดช่องโหว่ ลดช่องว่างกันอย่างแข็งขันมากค่ะ มาที่นี่รู้สึกว่า ได้เสพ”ความรู้สึกกระตุ้นการเติบโตไปด้วยเลย”
หลังโควิดฮ่องกงเตรียมอะไรมา?
ฮ่องกงได้สร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับแผ่นดินใหญ่ ส่งผลให้มีพาวิลเลี่ยน 12 แห่งจาก 10 มณฑลและเมืองต่างๆ เข้าร่วม นิทรรศการของ InnoEx ได้แก่ Zhongguancun Beijing (บูธ:3E-A01), สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยปักกิ่งแห่งฮ่องกง (บูธ: 3E-B06), พาวิลเลี่ยนจาก Zhejiang (บูธ: 3E-D01) และหางโจว (บูธ: 3F-B01), พาวิลเลี่ยนจาก Jiangsu (บูธ: 3F-A02) และ Nanjing (บูธ: 3F-C03), Shangdong Qilu Software Park (บูธ: 3G-E04), G60 Shanghai Songjiang Science and Technology Innovation Corridor (บูธ: 3D-E01), ฮ่องกง/ Shanghai Data Cooperation Pavilion (บูธ: 3D-E02), Shenzhen Pavilion (บูธ: 3F-A01) และพาวิลเลี่ยนจากเซียะเหมิน (บูธ: 3E-B05) และเฉิงตู (บูธ: 3G-A03)
นอกจากนี้ ยังมี บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Huawei และ Hikvision และพาวิลเลี่ยนทั้งในและต่างประเทศ เช่น B4B Challenge, Cyberport, Hong Kong Science and Technology Park Smart City Consortium, พาวิลเลี่ยน So French So Innovative จากฝรั่งเศส (บูธ: 3G-B01) และแคนาดาพาวิลเลี่ยน (3G-C01) รวมถึงตัวแทนจากรัฐบาล อุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และชุมชนวิจัยจากทั่วโลกเข้าร่วมงานเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันของผู้แสดงสินค้าและสำรวจโอกาสในการจัดซื้อจัดจ้าง
มาดูของขายกันบ้างค่ะ
นอกจากที่มี InnoEx ยังมีงานที่จัดพร้อมกัน คืองาน Hong Kong Electronics Fair (Spring Edition) ซึ่งมีโซนพิเศษ 3 โซน ได้แก่ Hall of Fame, Startup Zone และ Tech Hall ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ ระบบช่วยในการขับขี่จากผู้แสดงสินค้าเกาหลี (บูธ: 3C-C22) ที่ใช้กล้องอัจฉริยะตรวจจับภาพถนน ยานพาหนะ และคนเดินถนน เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อเกิดอันตรายขึ้น
อุปกรณ์เฝ้าดูเด็ก (บูธ: N104-01) ที่คอยติดตามอุณหภูมิผิวหนัง อัตราการเต้นของหัวใจ และคุณภาพการนอนหลับของทารกแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ปกครองเข้าถึงข้อมูลสำคัญผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
ผู้แสดงสินค้าจากจีนเปิดตัวกระจกอัจฉริยะ (บูธ: 1CON-031) ที่ช่วยให้ผู้ใช้แข็งแรงโดยทำตามการเคลื่อนไหวของผู้สอนในกระจก ซึ่งจะติดตามการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยแนะนำและแก้ไขท่าทางด้วย เรียกว่าเป็นเหมือนกระจกอัจฉริยะเพื่อฟิตเนส
โซน Connected and Smart Lighting นำเสนอโซลูชั่นแสงสว่างล่าสุด รวมถึงงานวิจัยของผู้แสดงสินค้าในฮ่องกงเกี่ยวกับระบบไฟอัจฉริยะแบบ end-to-end (บูธ: 1C-A23)
ชุด Smart Deco ที่ปรับแสงตามจังหวะกลางวันและกลางคืน ( บูธ: 1B-C10)
นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานจากจีนจัดแสดงแสงอัจฉริยะต่างๆ ที่มุ่งเน้นคน และการพัฒนาที่ยั่งยืน ตัวอย่างหนึ่งคืองานวิจัยของผู้แสดงสินค้าในเซินเจิ้นเกี่ยวกับระบบแสงเชิงเส้นอัจฉริยะเพื่อปรับความสว่างโดยอัตโนมัติ (บูธ: 1A-D24) และยังมี ผลิตภัณฑ์แสงสว่างที่เป็นมิตรต่อสัตว์ป่า (บูธ: 1A-D02)
ดูเหมือนยาวเพราะคอนเท้นท์ในงานแน่นมากมาย
บอกได้ว่า มาแล้วคุ้ม อาจจะมีงานที่ขนาดพื้นที่ใหญ่กว่านี้ ในฮ่องกงที่จัดพร้อมกันแต่คนละสถานที่อย่าง “AsiaWorld – Tech” แต่ก็มีผู้เดินงานมืออาชีพจากไทย ให้ความเห็นว่า “คอนเทนท์งานนี้น่าสนใจกว่า”ขึ้นอยู่กับ ความต้องการคนเดินงานว่ากำลังมองหาอะไร
(ภาพบางส่วนจาก https://hkmb.hktdc.com/en/19AmMdIz/article/inaugural-innoex-launches?ref_source=Home_Article)