ทางทีมงาน Dailygizmo และ Ceemeagain ได้รับเชิญจาก OPPO ให้ไปเยือนสำนักงานใหญ่ที่ประเทศจีน รวมถึงได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษคุณ Billy Zhang ผู้บริหารฝ่าย Director of Software Design, OPPO ในเรื่องของสมาร์ตโฟนจอพับ
จากข้อมูลของ CINNO Research เมื่อเดือนมกราคม 2023 ที่ผ่านมา OPPO ครองส่วนแบ่งในจีน 30% เพิ่มขึ้นจากเดิม 22.1% แซงหน้า Huawei และ Samsung ซึ่งความสำเร็จส่วนหนึ่งต้องยกให้ Find N2 Series ก็เป็นรุ่นที่ครองความนิยมเป็นอย่างมาก
คุณ Billy Zhang บอกว่า หนึ่งในความสำเร็จคือ เขาให้ความสำคัญกับ R&D สุดๆ ใช้ทีมวิจัยมากกว่า 200 คน สิทธิบัตรกว่า 1,000 ฉบับ ใช้เวลาถึง 4 ปี พัฒนารุ่นต้นแบบถึง 6 รุ่นกว่าจะได้รุ่นที่ออกมาวางขายจริง เรียกว่าถ้าไม่ดีพอก็ไม่ยอมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ออกมาขายเพื่อเอากระแส แต่ไม่สนว่าใช้งานจริงแล้วจะเป็นอย่างไร

ทาง OPPO มองว่าตลาดสมาร์ตโฟนจอพับนั้นยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แบ่งเป็นหลายประเภท หลายขนาดหน้าจอ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่นำมาใช้ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ทำให้มีราคาสูงอยู่ แต่เทรนด์ของตลาดก็มีทิศทางที่ดี คาดการณ์ว่าในปี 2026 สมาร์ตโฟนจอพับจะขายได้มากกว่า 40 ล้านเครื่อง ซึ่งจะทำให้เกิด Economy of Scale ราคาขายลดลงมาในระดับที่คนซื้อหากันได้ OPPO มองว่าสิ่งสำคัญตอนนี้คือ การพัฒนาตัวเครื่องให้เบาและบางก่อน เพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับสมาร์ตโฟนทั่วไปได้
เมื่อมาดูเรื่องของรูปแบบของสมาร์ตโฟนจอพับจะมีดีไซน์ทั้งแบบแท่งและแบบฝาพับ ซึ่งจะตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกัน ซึ่งแบบแท่งจะเหมาะกับการใช้งานจริงจัง ได้ได้จอใหญ่ทำงานได้เต็มตา ส่วนฝาพับจะเน้นไลฟสไตล์พกพาสะดวก

สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากคือประสบการณ์ผู้ใช้ โดยเฉพาะบานพับจอด้านใน ที่มีความแข็งแรงด้วยการเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน ขนาดเล็กกว่าแบรนด์อื่นในตลาด ส่งผลให้พับเข้าพับออกได้มากกว่า 400,000 ครั้ง ซึ่งรอยพับตรงกลางจอ ถ้าไม่สังเกตดีๆก็เรียกว่าแทบจะมองไม่เห็นเลย นอกจากนั้นการที่บานพับมีขนาดเล็กลงก็ทำให้เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ใช้งานได้นานขึ้นด้วย รวมถึงตัวบานพับยังมาพร้อมคุณสมบัติกระจายความร้อนจากด้านในไปสู่ด้านนอก ทำให้ประสิทธิภาพไม่ตกเวลาที่ใช้งานนานๆ

อย่าง Find N2 นั้นมีน้ำหนักแค่ 233 กรัม เบากว่า iPhone แต่เบื้องหลังคือเทคโนโลยีการออกแบบโครงสร้าง การใช้วัสดุใหม่ทำให้ไปถึงจุดนั้นได้ แต่เบาอย่างเดียวไม่พอต้องผ่านมาตรฐาน Drop Test เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานด้วย
ในส่วนของซอฟท์แวร์เองก็ได้ศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งหลายคนมองว่าจอนอกของมือถือฝาพับนั้นไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อย ส่วนใหญ่จะดูการแจ้งเตือนต่างๆ ทาง OPPO เลยสร้างความแตกต่างด้วยการออกแบบจอภายนอกของ OPPO Find N2 Flip ให้เป็นแนวตั้ง สามารถโต้ตอบกับการแจ้งเตือนต่างๆด้วย Smart Widgets ที่เข้าใจง่าย ใช้งานได้สะดวก
รวมถึงอัปเดตให้รองรับแอป third-party มากขึ้นในอนาคต พร้อมอัปเดตความสามารถใหม่ๆเข้าไป

ทำให้ Cover screen กลายเป็นสิ่งสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยการใช้งานที่หลากหลาย สร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน เมื่อมารวมกับราคาที่ค่อนข้างเป็นมิตร ทั้งหมดนี้ทำให้ Find N2 Flip ทำยอดขายได้ดีในหลายประเทศ เมื่อวางจำหน่าย
หนึ่งในสิ่งที่หลายคนสงสัยก็คือทำไมกล้องหลังถึงรองรับการถ่ายแค่ 1080p ทาง OPPO ให้เหตุผลเรื่องประสบการณ์ใช้งานเป็นหนัก เพราะมีการทดสอบถ่ายวิดีโอ 4K เป็นเวลา 1-2 ชั่วโมงนั้นจะทำให้เกิดความร้อน รวมถึงเปลืองแบตเตอรี่มาก ทำให้การใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งน้อยลงไปอีก ต้องคอยชาร์จบ่อยๆ นั้นจึงทำให้จำกัดให้ถ่ายได้ 1080p ซึ่งในรุ่นถัดไปนั้นจะเพิ่มระบบระบายความร้อน รวมถึงปรับปรุงซอฟท์แวร์ให้จัดการพลังงานได้ดีขึ้น ก็จะอัปเกรดให้ถ่ายวิดีโอ 4K ได้
ในอนาคตจะมีสมาร์ตโฟนจอพับในรูปทรงอื่นๆออกมาอีกหรือไม่
ทิศทางของตลาดสมาร์ตโฟนจอพับในปัจจุบันไม่ได้เน้นเรื่องของรูปทรง แต่จะเน้นไปที่การลดความหนาและน้ำหนักของตัวเครื่องมากกว่าเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายขึ้นซึ่งเป็นความท้าทายที่สุดในตอนนี้ นอกจากนั้นยังมีเทรนด์ของการขยายขนาดหน้าจอทั้งภายในและภายนอกให้ใหญ่ขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
ในอนาคตเราจะได้เห็น Concept Phone แบบอื่นๆตามมาอีก เช่น สมาร์ตโฟนจอม้วนได้ซึ่ง OPPO เองก็พัฒนาอยู่ แต่ประสบการณ์การใช้งานก็ยังไม่ถึงมาตรฐานที่วางไว้ หากปล่อยออกมาก็จะสร้างผลกระทบต่อแบรนด์ ก็เลยอาจจะยังไม่เห็นในเร็วๆนี้

ทาง OPPO มองว่าสมาร์ตโฟนจอพับจัดอยู่ในกลุ่มเรือธงด้วยราคาที่สูงกว่า ซึ่งเป้าหมายของเราคือ สร้างสมาร์ตโฟนจอพับให้มีประสิทธิภาพเทียเท่ากับสมาร์ตโฟนเรือธงที่วางขายในตลาด ดังนั้นฟีเจอร์ที่รุ่นเรือธงมี ต้องมีในสมาร์ตโฟนจอพับด้วย อย่างใน APAC นั้นจะเน้นเรื่องของการถ่ายภาพได้แบบมืออาชีพ ซึ่งในอนาคตเราจะได้เห็นฟีเจอร์ใน Find X6 มาอยู่ในสมาร์ตโฟนจอพับ แน่นอนว่าฝั่งของผู้ใช้เองก็อาจจะได้ได้อยากได้ทุกฟีเจอร์ก็ได้ ดังนั้นทิศทางในตอนนี้คือการพัฒนาตัวเครื่องให้เบาและบางเพื่อแข่งขันกับมือถือเรือธงได้
กลยุทธ์หลักในตลาด APAC
การแข่งขันในตลาด APAC นั้นค่อนข้างสูง เพราะคู่แข่งหลายแบรนด์ต่างก็เปิดตัวสมาร์ตดฟนจอพับมาชิงส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น แต่สิ่งที่ OPPO ย้ำและให้ความสำคัญที่สุด คือ การโฟกัสไปยังสิ่งที่ตัวเองมีก่อน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ เทคโนโลนี รวมถึงเงินทุนที่จะตอบสนองกับผู้ใช้ ทั้งหมดนี้ต้องไม่กระจัดกระจาย มีทิศทางมุ่งไปอย่างชัดเจน ซึ่งในกลุ่มไฮเอ็นด์จะเน้นไปที่สมาร์ตโฟนจอพับ เลือกตลาดที่เหมาะกับตลาดนั้นๆและโฟกัสไปที่การทำให้ลูกค้าพึงพอใจที่สุด
นอกจากนั้นจะมีการให้ความสำคัญกับเรื่องของสภาพแวดล้อม ซึ่ง OPPO มีวิสัยทัศน์ในเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ด้วย ผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ใช้วัสดุน้อยลง การพัฒนาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น จากเดิมที่รองรั[บการชาร์จ 800 Cycle ก็เพิ่มเป็น 1600 cycles ส่งผลให้ใช้งานได้นานขึ้นจาก 2 ปี เป็น 4 ปี ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมลพิษที่เกิดจากการรีไซเคิลสมาร์ตโฟน