เรียกว่า Apple Vision Pro เป็นแว่นตาที่ล้ำที่สุดตอนนี้ แต่ในเรื่องของฮาร์ดแวร์เอง ทาง Apple ก็เผยข้อมูลออกมาน้อยมาก ยังไม่มีรายละเอียดของน้ำหนัก มีกล้องและเซนเซอร์ทั้งหมดกี่ตัว เราลองไปดูข้อมูลเท่าที่ในตอนนี้ว่าชิ้นส่วนด้านในมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
แว่นด้านหน้า
- กระจกลามิเนตขึ้นรูปแบบสามมิติส่วนโครงด้านข้างเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยที่แข็งแรงทนทาน
- มีระบบระบายความร้อนที่ช่วยกระจายลมให้ไหลผ่าน Vision Pro เพื่อลดความร้อน ให้ประสิทธิภาพการทำงานไม่ตก
หน้าจอ
- ด้านในเป็นจอ micro-OLED สองจอ แยกซ้ายขวา มีขนาดเท่าสแตมป์ ความละเอียด 23 ล้านพิกเซลซึ่ง Apple เคลมว่าความละเอียดมากกว่าจอ 4K
- เลนส์นั้นจะประกอบด้วยองค์ประกอบสามชิ้นทำให้มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีหน้าจออยู่ที่ที่ที่คุณมอง
- หน้าจอด้านนอกมาพร้อมฟีเจอร์ “EyeSight” สามารถโปร่งแสงให้เห็นดวงตาของคนใส่ได้ เวลาที่เราไม่ได้ใช้งาน immersive augmented reality หรือทึบแสงเพื่อบอกว่าเราใช้งาน immersive แบบเต็มตัว นอกจากนั้นยังมีไฟแสดงสถานะว่าเรากำลังบันทึกภาพหรือวิดีโออยู่
- หน้าจอมีรีเฟรชเรทที่ 90Hz พร้อม a special 96Hz ในการแสดงผลวิดีโอ 24fps
- ส่วนคนที่ใใส่แว่นนั้นจะมี Zeiss Optical Inserts เพื่อติดเลนส์สายตาภายในกับแม่เหล็ก
กล้อง
- Vision Pro ให้กล้องมา 12 ตัว และเซนเซอร์อีก 5 ตัว เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือ/ศีรษะ สร้างแผนที่ของสภาพแวดล้อมแบบ real-time มีข่าวลือว่าสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของขาได้ด้วย กล้อง 2 ตัวสามารถส่งสัญญาณภาพไปยังหน้าจอได้มากกว่า 1,000 ล้านพิกเซลต่อวินาที เพื่อให้เราเห็นภาพรอบตัวได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังมีอินฟราเรด ช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือในสภาพแสงน้อย
- กล้องสามารถถ่ายภาพและวิดีโอสามมิติได้.
- มีเซนเซอร์ LiDAR วัดระยะความลึกเพื่อ วัดขนาดและตำแหน่งของวัตถุต่างๆรอบตัว รวมถึงใช้สแกนใบหน้าเพื่อเพื่อสร้าง digital Persona เพื่อใช้กับ FaceTime
- ด้านในมาพร้อมกล้องอิฟราเรด 4 ตัวพร้อมไฟ LED โดยจะฉายแสงที่มองไม่เห็นไปยังดวงตาแต่ละข้าง ซึ่งในในการสแกนดวงตาเพื่อยืนยันตัวตน รวมถึงติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตาเพื่อให้รู้ว่าเรากำลังจ้องมองอะไรอยู่
สายคาด
- มีสาย Audio ที่ทั้งสองฝั่ง มาพร้อมลำโพงที่รองรับ spatial audio ซึ่ง Apple บอกว่ามันคือ dual-driver audio pods ที่อยู่ข้างหูทั้งสองข้าง มาพร้อมความสามารถในการวิเคาะห์คุณสมบัติของเสียงในห้องเพื่อปรับเสียงให้เข้ากับพื้นที่ .
- สายด้านหลังมาพร้อมปุ่มไดอัลเพื่อปรับขนาดได้
- มี magnetic Light Seal มาในหลายขนาดและรูปทรงเพื่อยึดกับใยบหน้าและป้องกันไม่ให้แสงจากภายนอกเข้ามา
ปุ่ม
- ปุ่ม Digital Crown อยู่ที่ด้านขวาบน เมื่อกดก็จะเข้าสู่หน้าโฮม หากหมุนก็จะปรับระดับของ Immersion ว่าอยากใช้งานแบบ VR หรือ AR
- ปุ่มมุมซ้ายใช้ถ่ายภาพและวิดีโอ
สาย
- สายรัดเป็นแบบสายถักเส้นเดียว ติดกับคลิปแม่เหล็กที่อยู่ด้านซ้ายของแว่น สายเคเบิลสามารถติดกับแหล่งพลังงานหรือแบตเตอรีภายนอกเพื่อใช้งานระห่างเดินทางได้
- ตัวแว่นต่อสายกับแบตเตอรีภายนอก ซึ่งสามารถเก็บใส่กระเป๋าได้
ชิปประมวลผล
- Apple Vision Pro มาพร้อมชิป 2 ตัว ตัวแรกคือ M2 ซึ่งเป็นชิปแบบเดียวกับ Mac รับหน้าที่ประมวลผล ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น visionOS ทำงาน computer vision algorithms และกราฟิก
- ชิปตัวที่วองคือ R1 ทำหน้าที่รับข้อมูลทั้งหมดจากกล้อง เซนเซอร์ และไมโครโฟน สามารถสตรีมภาพไปยังหน้าจอ ในเวลาแค่ 12 มิลลิวินาที ทำให้ไม่เกิดอาการ lag
ที่มา https://www.macrumors.com/2023/06/07/apple-vision-hardware/