Entertainment Software Rating Board (ESRB) หน่วยงานจัดเรตติ้งเกม เตรียมยื่นเรื่องขออนุมัติ FTC เพื่อใช้เทคโนโลยีสแกนใบหน้า เซลฟี่เพื่อระบุอายุก่อนเข้าเล่นเกมที่จัดเรตติ้ง

ทาง ESRB, Yoti บริษัทด้าน digital identity firm และ SuperAwesome บริษัทด้าน youth digital media ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติกับ FTC เพื่อนำระบบ “Privacy-Protective Facial Age Estimation.” มาใช้งาน ซึ่งระบบนี้จะใช้เทคโนโลยี facial recognition เพื่อประเมินอายุของคนโดยใช้รูปแบบต่างๆบนใบหน้า เพื่อเป็นทางเลือกในการยืนยันตัวตนก่อนเข้าเล่นเกม

ระบบสแกนหน้าแบบใหม่นี้จะให้ผู้ใช้ถ่ายภาพเซลฟี่ จากนั้นจะแปลงเป็นกลุ่มตัวเลขเพื่อเทียบกับฐานข้อมูลของ Yoti เพื่อประเมินอายุ จากนั้นผู้ใช้จะได้รับคำตอบว่าอนุมัติให้ใช้งานหรือไม่ ซึ่งระบบจะให้ใช้เฉพาะรูปที่ถ่ายสดๆเท่านั้นเพื่อป้องกันการนำรุปคนอื่นมาใช้

เป้าหมายคือใช้เพื่อระบุอายุ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆที่อายุไม่ถึง เข้าเล่นเกมที่มีการจัดเรตติ้ง ระบุเกณฑ์อายุที่สามารถเล่นได้ เช่น E10+ ผู้เล่นต้องมีอายุมากกว่า 10 ปี หรือ M ต้องมีอายุมากกว่า 17 ปี ในกรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 13 สมัครใช้บริการใหม่ จะมีอีเมลส่งไปหาผู้ปกครองเพื่ออนุญาตให้เด็กสามารถสร้างบัญชีได้หรือไม่

ESRB เน้นว่าความเป็นส่วนตัวถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเมื่อสแกนใบหน้าแล้ว ภาพใบหน้านั้นจะไม่ถูกเก็บไว้ในระบบ รวมถึงไม่สามารถใช้เพื่อยืนยันอัตลักษณ์ของผู้ใช้ ไม่ใช้ฝึกสอน AI ไม่ใช้ด้านการตลาด รวมถึงแชร์กับบริษัทอื่นๆ

นอกจากนั้นยังมีเรื่องของความถูกต้องแม่นยำของระบบด้วย เพราะเคยมีการลองใช้ระบบสแกนใบหน้าที่อังกฤษและยุโรปนั้นพบว่า มีผู้ใช้ 35% ถูกปฏิเสไม่ให้ใช้งาน ซึ่ง ESRB เคลมว่าระบบของเขามีความปลอดภัยมากกว่าการยืนยันตัวแบบอื่น

การแสกนใบหน้านั้นมีการเริ่มใช้งานที่จีนมาตั้งแต่ปี 2021 โดย Tencent เริ่มใช้งานเป็นรายแรกๆเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ของจีนที่ห้ามเด็กเล่นเกมระหว่าง 4 ทุ่มถึง 8 โมงเช้า ซึ่งระบบนี้มีชื่อว่า “Midnight Patrol” ซึ่งเหนือกว่าระบบของ ESRB ที่สามารถสแกนหน้าระหว่างเล่นได้ด้วย

หลายประเทศเองก็เริ่มสนใจนำระบบนี้มาใช้ อย่างสหรัฐก็มีการผ่านกฎหมายใหม่ เด็กๆต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อนสมัครใช้เกมหรือบริการออนไลน์อื่นๆ ทำให้ภาครัฐสนใจในการใช้เครื่องมือยืนยันอายุมากขึ้น

ที่มา https://gizmodo.com/esrb-rating-face-scan-age-verification-1850674601