OPPO เปิดตัวสมาร์ตโฟนจอพับ Find N3 ดีไซน์บางเฉียบ สเปกแรง แข็งแรงขึ้น กล้อง Hasselblad

ตัวเครื่องมีความบางเวลาพับอยู่ที่ 11.7mm กางออกมาจะอยู่ที่ 5.8mm น้ำหนักรวมอยู่ที่ 239 กรัม เน้นจับกระชับมือ Find N3 มาพร้อมหน้าจอที่คมชัดและสว่างทั้งจอด้านนอกและจอด้านใน ซึ่งเขาเคลมว่าเป็นจอที่ชัดและสว่างที่สุดในตระกูลจอพับ ซึ่งตัวเครื่องใช้งานสบายมือด้วยสัดส่วนแบบเดียวกับ Find N3 โดยจอด้านนอกมีขนาด 6.3 นิ้ว เมื่อพับเครื่องจะมีขนาดพอๆกับสมาร์ตโฟนทั่วไป ส่วนจอด้านในมีขนาด 7.8 นิ้ว

จอทั้งสองจอของ Find N3 จะมีความละเอียด 425 พิกเซล/นิ้ว ความสว่างสูงสุดที่ 2,800 nits มาพร้อมอัตรา PWM dimming อยู่ที่ 1440Hz เพื่อให้สบายตาเวลาที่ใช้งานต่อเนื่องนานๆ รีเฟรชเรตให้มาที่ 120Hz

นอกจากนั้นหน้าจอยังเพิ่มชั้นของ self-healing เพื่อลบรอยขีดข่วนเล็กๆได้ ส่วนจอด้านในนั้นแทบจะไม่เห็นรอยพับตรงกลางเพื่อให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี

OPPO Find N3  มาพร้อมบานพับ Flexion Hinge รุ่นที่ 3 ที่บางเบาและเล็กลง แต่ความทนทานเพิ่มขึ้น  พับได้กว่า 1 ล้านครั้งโดยการรับรองของ TÜV Rheinland นอกจากนั้นยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ IPX4 

กล้องระดับโปร

ส่วนกล้องหลังนั้นจะใช้ดีไซน์ Cosmos Ring แบบเดียวกับ Find X6 ประกอบด้วยกล้องหลังระดับโปร 3 ตัว เทียบเท่าระยะ 14mm, 24mm และ 70mm.

เซนเซอร์หลักเป็น LYTIA-T808 ของ SONY ความละเอียด 48 ล้าน ซึ่งจะเป็น CMOS แบบ two-layer stacked ทำให้รับแสงได้มากขึ้น, noise ลดลง, dynamic range กว้างขึ้น ทำให้เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

กล้องต่อมาคือ มุมกว้างพิเศษ ความละเอียด 48 ล้าน เซนเซอร์ใหญ่ขึ้นมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง มาพร้อม autofocus และ macro  ส่วนเลนส์ซูมนั้นจะเป็นเลนส์  periscope คามละเอียด  64 ล้าน รูรับแสง f/2.6 เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน อีกหนึ่งจุดขายคือ การถ่าย Portrait ด้วยโหมด Hasselblad Portrait ที่ให้คุณภาพสูง เป็นธรรมชาติ

ระบบปฏิบัติการเป็น Android 13 ครอบด้วย ColorOS 13.2 สามารถอัปเกรด OS ได้ 4 ปี ส่วนความปลอดภัยได้ 5 ปี 

ในส่วนของการใช้หน้าจอใหญ่ มีการเพิ่มฟีเจอร์ Global TaskBar, App Library และ File Pocket เพื่อให้เข้าถึงไฟล์และแอปต่างๆได้รวดเร็ว เหมือนทำงานบนคอมพิวเตอร์บนฝ่ามือ

ต่อมาคือ Boundless View ที่ใช้ประโยชน์จากจอ 7.8 นิ้ว สลับการทำงานระหว่าง 2 แอปที่เปิดทำงานแบบเต็มจอได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น Boundless View ยังสามารถยังเปิดทำงาน 3 แอปพร้อมกัน โดย 2 แอปแรกจะอยู่บนหน้าจอ ส่วนอีกแอปจะทำงานอยู่เบื้องหลัง  เพียงแค่แตะ off-screen app ก็จะดึงแอปที่ทำงานเบื้องหลังมาอยู่บนจอ

สเปกแรง

ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 8 Gen 2 ประสิทธิภาพดีขึ้น 35% ประหยัดพลังงานขึ้น 40% ส่วน RAM ให้ LPDDR5X มา 16GB ความจุ UFS 4.0  512GB มาพร้อม Dynamic Computing Engine ส่งผลให้แอปเบื้องหลังทำงานพร้อมกันได้ 40 แอป

OPPO ยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย ฟีเจอร์ Sound-Sealed Call ป้องกันไม่ให้คนข้างๆได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ ด้วยการใส่ชิปความปลอดภัยใหม่มาให้ โดยข้อมูลต่างๆในเครื่องจะเข้าถึงได้เฉพาะเจ้าของเครื่องเท่านั้น  

แบตเตอรีให้มา 4800mAh เพื่อให้ใช้งานได้ทั้งวัน รองรับการชาร์จไว  SUPERVOOC 67W ชาร์จได้ 80% ในเวลา 30 นาที ส่วนชาร์จเต็ม 100%ใน 42 นาที

ส่วนลำโพงให้มา 3 ตัวให้เสียงสเตอริโอไม่ว่าจะใช้งานเครื่องแนวตั้งหรือแนวนอน เสียงดังขึ้น 30% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เสียงเบสดีขึ้น 100% ทำให้ได้อรรถรสเต็มอิ่ม แถมสนับสนุน Spatial Audio จากลำโพงและหูฟังที่รองรับเพื่อให้ได้ประสบการณ์แบบ immersive

ตัวเครื่องมีสองสีให้เลือกคือ Champagne Gold (ด้านหลังเป็นกระจก) และ Classic Black (ด้านหลังจะเป็นหนังวีแกน) สนนราคาขายของ OPPO Find N3 มาพร้อม RAM 16GB ความจุ 512GB อยู่ที่ 2,399 ดอลล่าร์สิงคโปร์ ประมาณ 63,676 บาท