วันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา Chery Group ส่งแบรนด์ OMODA จัดงานปั่นจักรยานเพื่อการกุศลแสดงสปิริตรักสิ่งแวดล้อม สนับสนุนนโยบายการลดก๊าซคาร์บอน – ทั้งทันสมัยและขับเคลื่อนด้วยภารกิจ
OMODA “Charity Ride” เปิดงานด้วยสโลแกน “New Journey New Life — Ride Green Life” OMODA ซึ่งเป็นตัวแทนของไลฟ์สไตล์คาร์บอนต่ำ จะร่วมกันบุกเบิกยุคใหม่แห่งการเดินทางสีเขียวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมร่วมกับผู้ใช้ แม้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมนี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การเดินทางของผู้ใช้ได้ แต่วัฒนธรรมของแบรนด์และการพัฒนาระบบนิเวศก็หลอมรวมผู้ใช้ที่มีความคิดเหมือนกันให้กลายเป็นพลังที่น่าเกรงขาม รูปแบบการใช้ชีวิตที่ทันสมัยและกระฉับกระเฉงของคนหนุ่มสาวสอดคล้องกับพันธกิจของแบรนด์ OMODA อย่างสมบูรณ์แบบ “Charity Ride” มีลักษณะคล้ายกับ “แฟชั่นแฟลช” ซึ่งร่วมกันจัดทำโดย OMODA และผู้ใช้รุ่นเยาว์ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่จะแสดงโฉมหน้าใหม่ของการใช้ชีวิตแบบคาร์บอนต่ำในรูปแบบที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และมีอิทธิพลต่อผู้ชมในวงกว้าง การขับขี่ทุกครั้งย่อมมีเส้นชัย แต่พลังที่ OMODA ใช้ภายใต้แบรนด์เพื่อไลฟ์สไตล์แบบคาร์บอนต่ำจะขับเคลื่อนเพื่อนร่วมโลกให้เดินทางไกลยิ่งขึ้นไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน พิมพ์เขียวใหม่สำหรับระบบนิเวศการขับขี่สีเขียว: จักรยานที่ใช้ในการปั่นการกุศลครั้งนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ต่อพ่วงเปิดตัวของ OMODA อีกด้วย ผลงานชิ้นเอกนี้ จะจุดประกายไลฟ์สไตล์สีเขียว และถูกนำเสนอใน “นิทรรศการผลิตภัณฑ์ระบบนิเวศ” ในระหว่างงานอีเว้นท์ระดับโลกของ Chery Group
การปั่นจักรยานเพื่อการกุศลและผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำเพียงหนึ่งเดียว OMODA จะปลดปล่อยอิทธิพลและความคิดเชิงบวกที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้พิมพ์เขียวสำหรับระบบนิเวศการขนส่งสีเขียวมีความชัดเจนมากขึ้น
สภาพแวดล้อมของโลกเราต้องการการปกป้องมากขึ้นกว่าเดิม ระบบนิเวศของโลก ตั้งแต่ป่าไม้เขียวชอุ่มไปจนถึงมหาสมุทรต่างก็กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำอีกต่อไป ณ เวลานี้ การปกป้องสิ่งแวดล้อมถือเป็นสิ่งจำเป็น ถึงเวลาสำหรับการทำงานร่วมกันระดับโลก และนั่นคือพันธกิจที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง OMODA ทุ่มเทให้กับการพัฒนา โดยเรียกร้องให้มีโหมดการคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชาญฉลาดผ่านระบบอัจฉริยะและเทคโนโลยี ด้วยจิตวิญญาณของการดำเนินการร่วมกันนี้ การประชุม User Ecoological Co-creation Conference ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงพร้อมที่จะสร้างผลกระทบที่สำคัญ การประชุมนี้สร้างขึ้นจากกองทุนสวัสดิการสาธารณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเปิดตัวที่งาน Shanghai Auto Show โดยเน้นไปที่การสร้างความร่วมมือเพื่อความเติบโตของธรรมชาติ เหตุการณ์สำคัญอย่างหนึ่งคือพิธีลงนามสวัสดิการสาธารณะกับสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ซึ่งได้จัดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคม พิธีนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของ OMODA ในการกำหนดอนาคตตามหลักการสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในขณะเดียวกันก็ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างแข็งขัน
โครงการที่แบรนด์ OMODA ร่วมมือกับ IUCN มีรหัสว่า โครงการ 8023 ไม่ใช่แค่โครงการริเริ่มขององค์กรอีกโครงการหนึ่งเท่านั้น เป็นแผนที่มีวิสัยทัศน์ที่ถูกนำมาปฏิบัติจริงในระหว่างงาน Shanghai Auto Show กลยุทธ์ 8023 ถือเป็นคำกระตุ้นการตัดสินใจระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่จะรวมองค์กรพัฒนาเอกชนระดับโลก 80 แห่งและองค์กรอย่างเป็นทางการเข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม โครงการริเริ่มนี้มุ่งหวังที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนผ่านความพยายามในการปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ในระดับท้องถิ่นเท่านั้น แต่ในระดับโลก เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างโลกใหม่ “โลกแห่งออกซิเจน” ที่ซึ่งหลักการ ESG ฝังแน่นอยู่ในทุกขั้นตอนการทำงาน ตั้งแต่การบรรเทาภัยพิบัติไปจนถึงการอนุรักษ์ป่าไม้ มหาสมุทร พื้นที่ชุ่มน้ำ และสัตว์ป่า นี่เป็นแนวทางที่ครอบคลุมในการปกป้องแก่นแท้ของโลกของเรา
IUCN ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 เป็นเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก ด้วยรัฐสมาชิก หน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน และทีมนักวิทยาศาสตร์มากกว่า 1,400 ประเทศจาก 160 ประเทศ อิทธิพลของ IUCN ต่อนโยบายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศจึงมีมากมาย ภารกิจที่ชัดเจน คือการปกป้องธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยการดำเนินโครงการภาคสนามทั่วโลก โดยได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างโลกแห่งความยุติธรรมที่เคารพและปกป้องความหลากหลายของธรรมชาติ ความร่วมมือระหว่างแบรนด์ OMODA และ IUCN มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางการอนุรักษ์ ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงวาทศาสตร์เท่านั้น แต่เป็นการลงมือทำ วิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันของพวกเขาคือการเปิดรับวิธีแก้ปัญหาจากธรรมชาติ เพื่อนำไปสู่ยุคแห่งคุณประโยชน์จากธรรมชาติ วัตถุประสงค์หลักคือการร่วมกันพัฒนาแบบจำลองที่ก้าวล้ำสำหรับการปกป้องและฟื้นฟูป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ และมหาสมุทร
นอกจากนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงขอบเขตท้องถิ่นเท่านั้น แต่คือความพยายามระดับโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ควบคุมประโยชน์จากธรรมชาติ และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับโลก เป็นความมุ่งมั่นของแบรนด์ OMODA ในการสร้างโลกที่ธรรมชาติและมนุษยชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ในขณะที่สิ่งแวดล้อมเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บทบาทของบริษัทขนาดใหญ่ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย ความร่วมมือครั้งนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดว่าบริษัทที่มีอิทธิพลสามารถเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกได้อย่างไร ถือเป็นการสร้างแบบอย่าง ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับผู้นำอุตสาหกรรมรายอื่นๆ ในการก้าวขึ้นมาและดำเนินการเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นเครื่องเตือนใจว่าเส้นทางสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนยิ่งขึ้น คือเส้นทางที่เราต้องปูทางร่วมกัน จับมือกัน ในขณะที่แบรนด์ OMODA ใช้เส้นทางนี้ไปสู่ความเจริญของธรรมชาติ โปรดจำไว้ว่าไม่ใช่แค่การสร้างความแตกต่างเท่านั้น แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้คำมั่นสัญญาที่จะรับผิดชอบดูแลโลกที่สวยงามของเรา ด้วยการร่วมมือกับ IUCN แบรนด์ OMODA ปรารถนาที่จะเพิ่มผลกระทบของแบรนด์รุ่นใหม่นี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและล้ำสมัย ซึ่งปูทางไปสู่ประสบการณ์การเดินทางที่ล้ำสมัยสำหรับผู้ขับขี่ที่มีความคิดก้าวหน้า
ผู้นำการขนส่งแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ในการประชุม Global User Ecosystem Summit OMODA จะรวบรวมความเชื่อมั่นในการร่วมสร้างระบบนิเวศที่สดใหม่และสนุกสนานร่วมกับผู้ใช้ผ่านการปั่นจักยานการกุศล หรือ “Charity Ride” และความเชื่อนี้จะแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นในผลิตภัณฑ์ของบริษัท OMODA มุ่งเน้นที่นวัตกรรมเทคโนโลยีทางนิเวศวิทยาและการอัปเกรดผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยแสวงหาระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ใช้วัสดุที่ยั่งยืน และใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการใช้ทรัพยากร เพื่อตอบสนองความต้องการการเดินทางที่หลากหลายของผู้บริโภค OMODA จะนำเสนอโซลูชั่นการเดินทางที่หลากหลาย รวมถึงตัวเลือกไฟฟ้าและไฮบริด ขณะเดียวกันก็เพิ่มเทคโนโลยีอัจฉริยะเป็นสองเท่าเพื่อเป็นหัวหอกในระบบนิเวศของยานยนต์แห่งอนาคต ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว OMODA 5 EV มาพร้อมกับฟีเจอร์อัจฉริยะที่ใช้งานได้จริงมากมายเหลือเฟือ นอกจากการควบคุมด้วยเสียงแล้ว ยังมีระบบ ADAS เจเนอเรชั่นถัดไปและห้องควบคุมอัจฉริยะแบบหน้าจอคู่ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ชาญฉลาดและสะดวกสบาย ในยุคแห่งการใช้พลังงานไฟฟ้าและการเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญา OMODA ก้าวไปข้างหน้าด้วยจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกและความกล้าหาญทางเทคโนโลยีที่มองไปข้างหน้า
