หลังจากที่ Google เปิดโครงการ self-repair เพื่อให้เราสามารถซื้ออะไหล่มาซ่อมเองได้ ล่าสุดก็เตรียมอัปเดตระบบปฏิบัติการ ให้ผู้ใช้รู้ได้ว่าควรจะเปลี่ยนแบตเตอรีเมื่อไหร่

ปกติแล้วแบตเตอรีของสมาร์ตโฟนนั้นจะมีการเสื่อมลงไปเรื่อยๆ ยิ่งเราใช้นานจะทำให้ความจุสูงสุดของแบตเตอรีลดลง แต่หลายคนไม่แน่ใจว่าควรจะเปลี่ยนแบตตอนไหนดี เพราะเราแทบจะไม่รู้เลยว่าความจุที่แท้จริงตอนนี้เป็นเป็นเท่าไหร่แม้จะมีแอปช่วยแต่ก็เป็นการประเมินคร่าวๆเท่านั้น เพราะการเก็บข้อมูลตัวเลขที่แท้จริงนั้นนั้นต้องเก็บเป็นเวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ถึงจะรู้ตัวเลขได้อย่างแม่นยำ

แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการ Android นั้นมีการเก็บข้อมูลเหล่านี้อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ตั้งแต่เราเปิดเครื่องครั้งแรกซึ่งจะละเอียดกว่าแอป third-party ซึ่งทาง Google ก็พัฒนาฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องมาตลอด เช่น Android 14 นั้นจะเพิ่มการติดตามสุขภาพของแบตเตอรี แต่ใน Android 15 นั้นจะนำข้อมูลเหล่านี้มาให้ผู้ใช้

เดือนธันวาคม 2023 ในสมาร์ตโฟน Pixel มีการเพิ่ม “ข้อมูลแบตเตอรี (battery information)” อยู่ในหน้าการตั้งค่า > About phone ซึ่งจะบอกรายละเอียดวันที่ผลิตและจำนวน cycle ที่ชาร์จไป ซึ่งดึงข้อมูลผ่าน API ที่เริ่มใช้ใน Android 14

นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดอื่นๆ เช่น วันที่ใช้งานครั้งแรก, นโบายการชาร์จ, สถานะการชาร์จ และ สถานะสุขภาพ โดยเฉพาะสถานะสุขภาพนั้นเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ซึ่งจะประเมินความจุสูงสุดในปัจจุบัน แสดงเป็นเปอร์เซ็น ยกตัวอย่างเช่น Pixel 8 สุขภาพแบตเตอรีอยู่ที่ 90% นั่นหมายความว่าเมื่อชาร์จเต็มความจุอยู่ที่ 4118mAh (จากความจุสูงสุด 4575mAh).

ในด้านของการตั้งค่าปัจจุบันนั้น จะไม่โชว์สถานะสุขภาพ แต่ในอนาคตจะมีการอัปเดต OS ในอนาคต ซึ่งใน Android 14 QPR2 Beta 2 จะพบว่ามี “battery health” ในหน้าการตั้งค่าเพิ่มเข้ามา Android 14 QPR2 Beta 2 Battery Health settings

Mishaal Rahman / Android Authority

เรื่องสุดท้ายคือ ทาง Google กำลังพัฒนาเพิ่มข้อมูลแบตเตอรีให้มากขึ้น เช่น สถานะของชิ้นส่วน และ serial number ซึ่งสถานะของชิ้นส่วนนั้นจะแบ่งเป็น 3 สถานะคือ UNSUPPORTED (ไม่สามารถแยกแบตเดิมกับแบตที่ถูกเปลี่ยนได้) , ORIGINAL (แบตเดิมที่มาจากโรงงานผลิต) และ REPLACED (แบตเตอรีถูกเปลี่ยนมา) ซึ่งข้อมูลนี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่ซื้อเครื่องมือสอง

ที่มา androidauthority