ถ้าจะพูดถึงความสมจริงที่แว่นตา Vision Pro สวมเข้าไปแล้วให้เราได้ คือ คุณอาจจะช็อคตาย หรือ ร้องไห้อยู่กับความทรงจำไม่รู้จบด้วยแว่นตานี้ APPLE VISION PRO
อีกนานค่ะถึงจะมีการเปิดตัวแว่นตานี้ในประเทศไทย ถ้าเป็นไปได้ คาดว่าอย่างเร็วคือ สิ้นปี 2024 นี้
Apple เริ่มพัฒนาแว่นตา VR มาตั้งแต่ 25 ปีก่อน ช่วงปลายปี 90s ในสมัยที่ Steve Jobs ยังเป็นผู้บริหารอยู่ แว่นตาที่ใส่ชิปประมวลผล Apple M2 คู่กับชิป R1 ไม่มีความหน่วง และใช้สิทธิบัตรอีกกว่า 5,000 ฉบับ บอกเราว่า แอปเปิ้ลคิดมานานแล้ว และ มันเป็นอนาคตของแอปเปิ้ล
ถ้าคุณถามหาไอโฟนแห่งอนาคตจะเป็นยังไง ก็คงจะได้เห็นแล้ว คำตอบคือแว่นตัวนี้ สั้นๆเลยนะ
มันเหมือนไอโฟนในรูปแบบของแว่นตา ครอบตาเราเข้าไปในโลกอีกใบทันที Apple เขาบอกว่า Vision Pro คืออนาคตของคอมพิวเตอร์ยุคต่อไป ตั้งชื่อเท่ๆว่า Spatial Computing ที่จะยกคอมพิวเตอร์มาอยู่ที่ดวงตาของเราทำให้เกิดรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ ที่ต่างไปจากการใช้งานมือถือ แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์
พอบอกว่าคือสวมแล้วเข้าอีกโลก แปลว่าประสาทสัมผัส หูตาเราแทบจะถูกปิดซะเป็นส่วนใหญ่
การเปิดตาก็เป็นตาปลอมบนจอ และ เห็นผ่านกล้องข้างหน้าเลนส์แว่นยิงเข้าตาอีกที มันเก่งมากที่หลอกตาเราได้แบบใส่เดิน หยิบของ ล้วงเหรียญเห็นเหมือนไม่ได้ปิดตา
VISION PRO เป็นอนาคตของสินค้าแอปเปิ้ล และ มันไม่ใช่ของแฟชั่นฉาบฉวย สื่ออื่นอาจทำให้คุณคิดว่า แว่นตานี้เป็น อุปกรณ์รับชมคอนเท้นท์ชั้นดี แต่ซีจะเรียกว่า “แว่นว้าป” เราไม่ได้ดู เราหลุดเข้าไปในสถานที่หนึ่งตอนสวมมันไว้ ซี ขอสปอตไลท์มุมมองซี ไว้ในคลิปแรกที่ซีจะได้รีวิวเต็มนี้ ว่ากล้องของแว่นตานี้ คือ TIMECAPSULE ที่ดีที่สุดในยุคสมัย…เพราะใช้ไอโฟนถ่ายก็ไม่เท่าถ่ายด้วยแว่นตาเอง
ระยะมันมหัศจรรย์มากเวลาถ่ายด้วยแว่นดูบนแว่น
มันจะเปิดประสบการณ์ใหม่ ทุกอย่างจะลอยอยู่ตรงหน้าเรา มีระยะชัดลึกชัดตื้นสมจริงมากขึ้น เราสามารถโต้ตอบกับทุกอย่างได้เหมือนในโลกแห่งความจริง จริงๆแล้วหลายคนอาจจะจัดประเภทอยู่ในหมวดหมู่เดียวกับแว่นตา VR แต่ Apple บอกว่าเทคโนโลยีของเขาล้ำกว่านั้นไปไกลมาก
ถึงแม้จะมีขนาดและน้ำหนักพอๆกับแว่น VR ทั่วไปที่ขายในตลาด แต่ใส่เทคโนโลยีที่ล้ำกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นกล้อง เซนเซอร์ LiDAR หรืออินฟราเรดตรวจจับดวงตา ทำให้ค่าตัวราคาแพงขึ้นไปแตะถึง 122,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นเท่านั้นถ้าเพิ่มความจุก็จะแพงขึ้นไปอีก
Vison Pro ก็เหมือนกับคอมพิวเตอร์ในรูปทรงแว่นตา มาครบทั้งหน้าจอ ชิปประมวลผล กล้อง ไมโครโฟน ลำโพง พัดลมระบายอากาศในตัวเดียว หลายคนมองว่า Apple Pro เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มไม่น่าจะขายได้เยอะเท่าไหร่ แต่รู้มั้ยว่าแค่ช่วงพรีออเดอร์ 10 วัน ฟันยอดขายไปถึง 200,000 เครื่อง ทำไมถึงได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ ลองไปไขข้อสงสัยพร้อมๆกันค่ะ เรามาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่า
รีวิวนี้ ไม่ได้บอกว่ามันทำอะไรได้ แต่จะบอกคุณว่า มันจะ meaningful มีความหมายในชีวิตคุณด้วยวิธีไหน?
ความรู้สึกเมื่อเห็นตัวเครื่อง…
แอปเปิ้ลเรียกเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกนี้ว่า Spatial Computing เค้าออกแบบ VISION OS เป็นระบบปฏิบัติการเฉพาะของแว่นตาเพื่อ ยกแอพล้านกว่าแอพเข้าแว่น นั่งทำงานนั่งเล่นให้การมองเห็นในนี้ที่แปลกใหม่สุดๆ และอนาคตคอมพิวเตอร์จะกลายเป็นแว่นตาแบบนี้ เพราะมันสะดวกไม่ต้องซื้อจอ ซื้อเครื่องมาตั้งให้รกแต่อนาคตนะตอนนี้ ราคานี้ซื้อคอมตั้งโต๊ะได้หลายตัวเลย คอมพิวเตอร์ในรูปทรงแว่นตาตัวนี้ มาครบทั้งหน้าจอ ชิปประมวลผล กล้อง ไมโครโฟน ลำโพง พัดลมระบายอากาศในตัวเดียว ขายแหลก เห็นราคานี้แต่แค่ช่วงพรีออเดอร์ 10 วัน ขายไป200,000 เครื่องแล้ว
ความโหดของมันคือ สวมเข้าตาเราจะเห็นเหมือนมองจอ Micro OLED 4K ที่ชัดจนเหมือนว้าปไปไหนต่อไหนจริงแบบไม่หน่วง สเปคโหดจัดแบบ กล้อง 12 ตัว, เซนเซอร์ 5 ตัว และไมค์ 6 ตัว ใช้เวลาประมวลผลแค่ 12 มิลลิวินาที สามารถทำให้คุณอุทานด้วยความประทับใจกับมันได้ในไม่กี่วินาทีที่คุณใส่ เริ่มจาก การสั่งงาน”กลอกตา”(อันนี้ใช้อินฟาเรดด้านในแว่นมันเป๊ะมาก) เพื่อมองแอพแล้วสั่งเปิดแอพด้วยการจีบนิ้ว จะซ้ายหรือขวาก็ได้ ไม่ต้องมือเดียว
จริงๆ ซียังค่อนข้างกังขากับวัสดุ เพราะถึงมันจะดูหรูหราสมราคา งานเนี้ยบทุกดีเทล กระจกชิ้นเดียวจอโค้ง โครงแว่นหลักทำจากอะลูมเนียมชิ้นเดียว สมูทอ่ะ แต่เรื่องความทนทานนี่ไม่แน่ใจว่าสะเทิ้นโลกภายนอกแค่ไหน อินเทอร์เฟซแบบใส่แว่นเจ๊ไฝ เดินออกจากบ้านแล้วมีลำแสงเหนือ หรือตาปลอมสบตาผู้คนตลอดมันก็แอบเนิร์ดแรงเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่แบรนด์แอปเปิ้ลก็คง ไม่แน่ใจว่า ควรใส่ออกจากบ้านไหม….เผอิญตอนนี้มันดัง มันแพง แบรนด์แข็งแรง แต่อย่าจับบ่อยนะรอยนิ้วมือชัดง่ายมาก
การสั่งงานรอบนี้ มีปุ่มสองปุ่ม ใช้สองตากลอกเลือก และ นิ้วจีบมือไหนก็ได้แทนการคลิก
ปุ่มไม่ได้ยาก ทำเหมือน Apple WATCH เลยคือ ปุ่มแอคชั่นและ ดิจิตอลคราวน์ คลำง่ายดี และสิ่งแรกที่ซีจะทำในนี้คือการแชะ Persona หรือสร้างอวาต้าเราเข้าไปในนี้
คอมเม้นต์ส่วนใหญ่บอกว่าเหมือนภาพวิญญานเพราะมันดูเลือนๆ ชัดแค่ใบหน้า ผมดูลอยๆ แถมหันหลังไม่มีหัว มีด้านหน้าด้านเดียวอีก , นี่ถ้าได้เห็น การดูรุปดูคลิปในนี้ ยิ่งภาพความฝันเลยล่ะ (ทำpersona) เอาไว้พร้อมวีดีโอคอลโทรหาคนได้ ในกิมมิคคือ สวมแว่นแต่โทรหาคนไม่เห็นแว่น แลบลิ้น ปลิ้นตา ยักคิ้วก็ได้ ทำได้ไง ขี้เล่นนะเอาจริงๆ
มาถึงฟีเจอร์ ที่ซีอยากทดสอบที่สุด กลับไม่ใช่เรื่องการละเล่น หรือรับชมอะไรบนแว่น มันคือการผลิตคอนเท้นท์ด้วยกล้องบนแว่น และ เพื่อรับชมในแว่นแบบ คลิปความทรงจำที่ ชะโงกหน้าเข้าดูใกล้ไกลกับมันได้เลย เราจะเอาไปถ่ายลูก ถ่ายพ่อแม่ เก็บไว้เยอะๆเอ่อ 256GB จะพอไหมเนี่ย
ถ้าวันนี้มีคนหรือสัตว์เลี้ยงที่เรารักจะลาจากดาวโลกไป คุณจะอยากบันทึกเค้าไว้ในความทรงจำที่ไม่เลือนหายไหม?
ถ้าไอโฟนใช้กล้องไว้ถ่ายภาพ วิชั่นโปรใช้กล้องเพื่อบันทึกความทรงจำ คุณเปิดอัลบั้มภาพ เพื่อดูรูปที่ถ่ายมา แต่คุณสวมแว่นตานี้เพื่อเดินทางไปในที่ๆคุณเคยไป คุณนั่งดูคลิป ดูหนัง ดูวีดีโอเพื่อความบันเทิงบนมือถือ แต่สวมแว่นนี้คุณเป็นตัวละคร หรือเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ที่คุณกำลังดูเหมือนมันเกิดกับคุณ
แล้วยังงั้น VISION PRO คืออะไร มันก็จะ แบบ EMOTIONAL REVIEW นิดนะคะ ทั้ง วิเคราะห์แบบมีหลักการ และ วิเคราะห์บนจินตนาการบนประสบการณ์ตัวเอง ว่าอะไรที่จะเกิดขึ้นและอะไรที่จะเปลี่ยนไป…คุณอาจจะคิดว่า ของหลักแสน ไม่มีทางที่เปลี่ยนโลกเพราะราคาเลือกคนซื้อ
แต่ก้าวแรกของ มือถือที่เคยถูกเปลี่ยนผ่านยุค และหลายแบรนด์ก็หายไปจากตลาดในช่วงพริบตา ซีว่า ก็มาจากการยึดติดทัศนะเดิม เหล่านี้แหละ เรามาเปิดใจดูกันค่ะ ว่าก้าวแรกหลักแสนบาท มีอะไรที่เราจะต่อยอดกับมันไปแบบ SMART USER กันได้บ้างก่อนร่วมกับ ช่องเรา ceemeagain สร้างสังคมของ Smarter USER, Better Future ไปด้วยกันในการเดินทางของช่องซี ต่อจากนี้ และนี่คือ APPLE VISION PRO
ช่องเราอยากลองเป็นคนแรกในแถว เพื่อปักหมุดว่า ครั้งนึงเราได้อยู่ในประสบการณ์การเปิดตัวสินค้ารุ่นแรกของแอปเปิ้ล ที่เปลี่ยนพื้นที่และประสบการณ์การขายอีกแบบให้เกิดขึ้นในร้าน จะขายแว่นตา มี
ทรงพลังแค่ไหน ให้ซีทำนายจากที่ซีมองเห็นก็ คุณอาจจะช็อคตายกับคอนเท้นผี ที่เหมือนเห็นจริงสัมผัสจริง หรือนั่งร้องไห้ครวญหา อยู่กับความทรงจำที่ชัดเจนเหมือนคนที่จากไป ยังอยู่ใกล้กับเราตลอดเวลา อุปกรณ์ตัวนี้ไม่ใช่ แว่นตาวีอาร์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลัง ที่กำลังเปลี่ยนแปลงความเป็นมนุษย์ของเราไปอีกขั้น บนสิ่งที่เขาค้นพบในคำสั้นๆ ที่เรียกว่า “ความสมจริง”
ความเห็นจากการใช้งานด้านความสมจริง
ความสมจริงอยู่ตรงไหน? เซตหน้าต่างที่วางไว้ ที่จัดหน้าไว้ใช้ จะลอคหน้าต่างที่เปิดไว้เป๊ะ
Quest3 เราใส่ถอดไว้ หรือเดินไปข้างนอกบ้าน ก็ขยับแล้วในจอไม่อยู่ที่เดิม
Object อยู่ในตำแหน่งนั้นเป๊ะๆ ลองวางไว้ไม่ว่า headset วิ่งไปไกลขนาดนั้น สิ่งที่วางจะอยู่ที่เดิมตลอดกาล ทำให้วางอะไรไว้ตรงไหน ในโลกที่สองทุกอย่างอยู่ตรงที่เดิม ทำให้โลกที่สองจับต้องได้เหมือนมีอยู่จริง นิ่งมากแบบนิ่งเลย Quest ทำไม่ได้มันจะขยับ
ดูไดโนเสาร์เดินออกมายังหลบเค้าเลย เค้าน่ากลัวจริงๆ บางทีก็รู้สึกชัดจนจะได้กลิ่นมันแล้ว กลัวนะ
คิดภาพการถ่ายหนังผีด้วยแว่นนี้ แค่ซีนเดินที่มืดนี้หัวใจจะวายตายได้ หรือแบบใส่แว่นเดินเข้าบ้านผีสิงถ่ายเอามาดูงิ…บอกให้นะรู้สึกเหมือนไปอ่ะ ก็อย่างว่าแล้วแต่ความหมกมุ่นของคุณ แต่อุตสาหกรรมคอนเท้นท์ ต้องลองเห็นสิ่งนี้ค่ะ
มองอีกมุมก็เห็นโอกาสเติบโตของคนทำคอนเทนท์ไทย มีช่องทางใหม่นำเสนอซอฟท์พาวเวอร์ไทยผ่าน แอปบน Vision Pro เริ่มง่ายๆจากหนังสามมิติบน Apple TV+ หรือ Disney+ ก่อนได้ ซีก็ว่าจะทำโปรดักชั่นที่รับถ่ายด้วยแว่นตานี้อยู่ จ้างได้นะคะ จ่ายไปหนักต้องหาเงินหน่อย เหมามาหลายตัวแหะๆ
พาโนราม่าของแว่นตา จะเป็นฟีเจอร์ยอดฮิตบอกเลย มือถือแทบไม่ค่อยได้ใช้โหมดพาโนแต่บนแว่นนี้พร้อมท่องเที่ยวไปในภาพถ่ายตัวเอง แบบไม่เวียนเฮด วาร์ปกลับไปที่ที่เคยไปอีกครั้งกับคนในความทรงจำ ตอนไปเที่ยวตัวเล็กตัวแค่นี้เอง….ถอดแว่นมาเห้ย โตแล้วหรอ