เทรนด์รถไฟฟ้า EV มาแรงมาก ใครอยากเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าแถมภาครัฐเองก็ออกมาตรการสนับสนุนทำให้ซื้อรถได้ถูกลง แถมระบบนิเวศอย่างศูนย์บริการ สถานีชาร์จก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่หลายคนยังกังวลก็คือเรื่องของประกัน EV ที่ราคาค่อนข้างสูงอยู่ เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมหลายๆด้าน
ปัญหา Pain Point ของผู้ใช้รถยนต์ EV
ต้องยอมรับว่าแม้คนไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นแต่จำนวนรถยนต์ EV เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องสันดาปแล้วจำนวนยังต่างๆกันมาก แม้ภาครัฐจะออกแนวทางสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า มีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อ 1 มกราคมที่ผ่านมาที่เราเห็นเรื่องของความคุ้มครองและโครงสร้างราคาที่ชัดเจนขึ้นแต่ราคาก็ยังถือว่าค่อนข้างสูงอยู่ อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะเบี้ยประกันถึงจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ถามว่าจริงๆแล้ว เพราะอะไรที่ทำให้ประกันรถไฟฟ้า EV มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่ารถแบบใช้น้ำมันนั้นก็มีอยู่หลายประเด็นหลัก
- ราคาค่าอะไหล่แพง โดยเฉพาะแบตเตอรี่ถือเป็นชิ้นส่วที่แพงที่สุด เมื่อมีปัญหาไม่สามารถซ่อมแซมได้ ส่วนใหญ่เวลาเปลี่ยนมักจะเปลี่ยนแบบยกชุด ซึ่งราคาแบตเตอรี่ราคาจะอยู่ที่ 100,000 บาทขึ้นไปหรือบางรุ่นอาจมากกว่า 500,000 บาทเลยทีเดียวซึ่งส่วนนี้ส่งผลต่อค่าประกัยภัยเป็นหลัก
- ปริมาณอะไหล่ที่มีไม่มากพอ เนื่องจากจำนวนผู้ใช้ยังน้อยจึงไม่มีการสต็อกชิ้นส่วนอะไหล่เอาไว่ ซึ่งหากเสีย เกิดการชน หรือมีปัญหาอาจจะต้องใช้เวลารอนานมากกว่ารถปกติค่ะ เพราะต้องสั่งจากต่างประเทศเข้ามา
- จำนวนช่างซ่อมที่ยังน้อยอยู่ โดยส่วนใหญ่รถไฟฟ้า EV ในตอนนี้หากเสียอาจจะต้องส่งซ่อมศูนย์ที่รับซ่อมรถไฟฟ้าเท่านั้น
ถ้าย้อนมาดูฝั่งของบริษัทประกันเองก็มีผลต่อค่าประกันเช่นกัน เนื่องจากบริษัทที่ออกกรมธรรม์คุ้มครอง EV ก็ยังมีจำนวนไม่มากจึงยังไม่ทำให้เกิดการแข่งขันเรื่องราคา ลดแลกแจกแถมเพื่อดึงดูดผู้ใช้ นอกจากนั้นรถยนต์ไฟฟ้ายังถือว่าใหม่กับไทยมาก ดังนั้นพนักงานเคลมที่มีความเชี่ยวชาญเรื่อง EV ยังน้อยอยู่ ทำให้ประเมินราคาค่าเสียหายที่ตรงกับค่าใช้ง่ายจริงทำได้ยากขึ้น
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อโครงสร้างราคากรมธรรม์ทั้งหมด เลยทำให้ประกันรถไฟฟ้า EV แพงกว่ารถปกติ แต่เอาจริงๆ มันก็อาจจะเฉพาะคนที่ใช้รถหนักๆ ขับรถบ่อยๆ หรือโชคร้ายจริงๆ แล้วถ้าคนทั่วไปที่ขับไม่โหดขนาดนั้นจะต้องเสียค่าประกันแรงขนาดนั้นเลยเหรอ มันก็ไม่จำเป็น เราควรจ่ายตามการใช้งานของเราจริงๆ
นั่นจึงทำให้หลายบริษัทเริ่มนำ Insuretech มาช่วยแก้ปัญหา หนึ่งในบริษัทที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องของนวัตกรรมและความยั่งยืนก็คือ ไทวิวัฒน์ ต่อยอดความสำเร็จจากประกันเปิดปิดมาสู่ EV แก้ปัญหาราคาประกันที่สูง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงความคุ้มครองที่สมเหตุสมผลได้ เพราะยิ่งคนหันมาใช้ EV มากเท่าไหร่ปัญหามลพิษในอากาศจะลดลง คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ประกันเปิด-ปิดคืออะไร แล้วรถไฟฟ้ากับรถธรรมดาต่างกันหรือเปล่า?
เมื่อปีที่แล้วซีได้รีวิวประกันรถเปิดปิดไปแล้วรอบนึง และได้ลองใช้จริงๆด้วย บอกเลยว่า ประหยัดขึ้นมากจริงๆ
ประกันเปิด-ปิดนั้นจะทำงานคู่กับสมาร์ตโฟน คอนเซ็ปหลักของเขาคือ เปิดคุ้มครองเมื่อใช้รถ ปิดเมื่อไม่ได้ใช้ คิดค่าใช้จ่ายตามจริง ใช้เยอะ-จ่ายเยอะ / ใช้น้อย-จ่ายน้อย จ่ายตามแค่ที่เราขับเท่านั้น นึกภาพตามง่ายๆคือเหมือนเราเปิด-ปิดอินเตอร์เน็ตเวลาอยู่ข้างนอก จ่ายแค่ตอนใช้งานนั่นแหละค่ะ นอกจากนั้นประกันเปิดปิด เป็นประกันแบบที่ไม่ได้ระบุผู้ขับขี่ ดังนั้นใครที่ใช้รถร่วมกับสมาชิกอื่นๆในบ้านก็สบายใจได้ เพราะไม่ว่าใครจะขับประกันก็คุ้มครองหมด
เรียกว่าบริการนี้ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง รวมถึงคนขับรถน้อยหรือไม่ค่อยได้ขับ เพราะส่วนใหญ่นั้นเราจะขับใช้รถหนักๆคือช่วงเช้าไปทำงาน จากนั้นก็จอดยาวๆที่ออฟฟิศ พอเลิกงานค่อยขับกลับบ้าน นอกจากนั้นประกันเปิด-ปิดมีรูปแบบของการ “เติมชั่วโมง” ความคุ้มครองเพิ่มได้ตามการใช้งานรถได้อีกด้วย เพิ่มความยืดหยุ่น อิสระในการใช้งาน
ดังนั้นจริงๆแล้วสิ่งที่เราควรกลับมาถามตัวเองดีไหม? วันนึงเราใช้รถจริงๆ กี่ชั่วโมง? เรามีความจำเป็นต้องจ่ายตั้งค่าประกันแบบเหมาๆเหมือนแบบเดิมหรือเปล่า? เพราะว่าเริ่มต้นค่าใช้รายจ่ายปีก็เริ่มต้นหลักหมื่นแล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นแบบเปิดปิดก็จะถูกลงกว่าครึ่งค่ะ ยิ่งเป็นรถ EV ค่าประกันรายปีสูงมากกว่ารถแบบธรรมดาอีก ดังนั้นก็จะประหยัดได้อีกเยอะเลยค่ะ
รถจอดเฉยๆประกันจะคุ้มครองอยู่ไหม?
แต่! คำถามที่ตามมาคือ ถ้าระหว่างที่เราไม่ได้เปิดใช้งานอยู่ เช่นจอดเฉยๆ ประกันจะเป็นยังไง ยังคุ้มครองเราอยู่ไหม
จริง ๆ แล้วตัวประกันเปิด-ปิดของไทยวิวัฒน์เนี่ย แม้จะปิดอยู่แต่ก็คุ้มครอง 24 ชั่วโมงเหมือนเดิมค่ะ แต่ต้องดูตามแพคเกจด้วยนะคะว่าเราจ่ายแบบแพคเกจไหน คล้ายๆว่า ซื้อประกันระดับไหน ชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 เขาจะมีระบุไว้ชัดเจนว่าเคสไหนคุมครองบ้าง อารมณ์เหมือนปิดเน็ตอยู่แต่ก็ยังใช้บริการเครือข่ายมือถือโทรเข้า-ออก รับส่งข้อความได้อยู่ตามปกติเลยค่ะ

วิธีการใช้งานประกันรถเปิดปิดของไทยวิวัฒน์ ง่ายเหมือนเดิมเลยค่ะ
การใช้งานประกันเปิดปิดนั้น เราจะต้องติดตั้ง TVI Connect กับรถยนต์ EV เสียบไว้กับช่อง USB จากนั้นมันจะทำงานอัตโนมัติคอยนับชั่วโมงการใช้งานรถตามที่ขับจริง อุปกรณ์นี้จะส่งมาให้ถึงบ้านเมื่อเราสมัครใช้บริการค่ะ ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม
หลักการก็เหมือนเดิมกับประกันเปิด-ปิดแบบรถธรรมดาแหละค่ะ เมื่อเราสตาร์ทเครื่องก็จะเปิดการทำงานนับเวลา พอดับเครื่องก็จะหยุดนับเวลา ไม่ต้องเปิดปิดเองบ่อยๆให้วุ่นวาย หมมปัญหาลืมเปิดแล้วประกันจะไม่คุ้มครอง โดยทุกอย่างจะทำงานร่วมกับแอป Thaivivat ตรวจสอบได้ตลอดเวลา ถ้าเราเริ่มใช้งานครั้งแรกให้เปิดไปที่หน้าแอปฯ แล้วกดเชื่อม TVI Connect ก่อน แค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นไม่ต้องกดอะไรอีกเลย เพราะมันจะทำงานอัตโนมัติค่ะ
ส่วนเรื่องของการนับเวลา ระบบจะทำการนับเป็นนาที หากมีเศษวินาทีจะถูกปัดลง ซึ่งหากระบบเกิดการล่าช้าหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ เขาก็จะคืนมาให้เรา ว่าง่ายๆ ระบบจะรู้ตัวทันที และทำเรื่องคืนเวลาชดเชยให้เราทันที โดยจะมี notification คอยแจ้งอัพเดตเราตลอดผ่านมือถือ เรียกได้ว่าเขาพยายามทำให้คุ้มค่ากับผู้ใช้มากที่สุดนั้นเอง
ค่ากรรมธรรม์รถยนต์ EV ประหยัดเงินแค่ไหน?
เอาละสรุปให้ง่ายๆ เปรียบเทียบให้ดู สมมตว่าซีกำลังจะตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า BYD ซึ่งปัจจุบันในตลาดจะมีประมาณ 5 เจ้าให้ซื้อ ซึ่งเท่าที่ลองศึกษาหาข้อมูลมา ราคาประกันจะตกปีละ 30,000 กว่าบาท ซึ่งเรียกว่าค่อนข้างสูงเลย
ทีนี้มาลองดูประกันเปิด-ปิดดู เอาแบบ Max ราคาสูงสุดไปเลย 960 ชั่วโมง 365 วัน คือเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 16,500 บาท! ซึ่งถูกกว่าครึ่ง
ใครที่ใช้รถแค่ไป-กลับทำงาน เย็นๆแวะรับลูกที่โรงเรียน เสาร์-อาทิตย์มีเที่ยวนิดหน่อย นอกนั้นจอดทิ้งไว้ตลอดทั้งวัน เหมาะเลย ใช้น้อยแบบเราจะจ่ายเยอะไปทำไมเนอะ
แต่หากใครที่คิดว่ายังไม่พอ ต้องการเวลาที่เพิ่มมากขึ้น สามารถ Top up ได้ ประกันสามารถซื้อชั่วโมงเพิ่มได้ทีละ 50 ชั่วโมงเพียง 300 บาทเท่านั้นค่ะ
เอาเป็นว่าสบายใจได้เลย ไม่ต้องห่วงเลย ถึงแม้เป็นประกันรถเปิดปิด ก็ยังคุ้มครองตลอด

ไทยวิวัฒน์ไม่ได้ดูแลแค่เรื่องรถของเรานะ
จริงๆแล้ว ไทยวิวัฒน์ยังมีบริการคุ้มครองอีกหลายอย่างที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในด้านต่าง ซึ่งเขามีแพคเกจแบบเพิ่มการคุ้มครองบ้านของเราอีกด้วยค่ะ โดยสามารถซื้อ Home Plus เพิ่มได้ซึ่งราคาก็จะเป็นไปตามขนาดและรูปแบบของบ้าน เรียกว่าดูแลทั้งบ้านทั้งรถไปเลยค่ะ โจรขึ้นบ้าน รถหาย ไฟไหม้หรือภัยธรรมชาติก็คุ้มครองค่ะ

ส่วนใครที่มีน้องหมาน้องแมว ไทยวิวัฒน์ยังมี Pet Plus เป็นบริการเสริมสำหรับคนรักสัตว์ ที่ช่วยคุ้มครองเพื่อนรัก 4 ขาของเราอีกด้วย จริงเรื่องอื่นที่น่าสนใจก็มีนะ เช่นเรื่องที่จอดตามห้าง ใครที่ใช้บริการเขา เขาก็มีที่จอดรถพิเศษให้ สามารถจองได้ ในห้างดังกลางกรุงเทพ
เรียกว่าเป็นการเอานวัตกรรมาแก้ปัญหาและสร้างความแตกต่างได้ตอบโจทย์การใช้งานจริง เอาเป็นว่าใครสนใจประกันรถยนต์ EV แบบเปิดปิดสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดพร้อมสมัครใช้บริการได้ด้วยตัวเองที่ www.thaivivat.co.th ไม่ต้องใช้เอกสารในการสมัคร