ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่ให้บริการบัตรเครดิต Visa และ Mastercard เริ่มประกาศเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม 1% สำหรับค่าแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท Dynamic Currency Conversion Fee (DCC Fee)ในร้านค้าต่างประเทศ รวมถึงร้านค้าหรือบริการออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศด้วย มีผล 1 พ.ค. นี้
เวลาที่เราไปต่างประเทศเมื่อรูดบัตรเครดิตนั้น เราจะเลือกได้ว่าจะจ่ายเงินเป็นเงินบาทหรือสกุลเงินของประเทศนั้นๆ โดยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไปนั้น หากเราเลือกจ่ายด้วยเงินบาทนั้น ทางธนาคารคิดจะมีค่าธรรมเนียม DCC Fee (Dynamic Currency Conversion Fee) หรือค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท โดยจะเรียกเก็บสำหรับรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต Visa/Mastercard ในการซื้อสินค้า บริการ, การกดเงินสดที่เป็นสกุลเงินบาทจากร้านค้าต่างประเทศ รวมถึงร้านออนไลน์ที่จดทะเบียนต่างประเทศ ในอัตรา 1% ของยอดใช้จ่าย
นั่นหมายความว่าถ้าเรารูดบัตรเครดิตซื้อของในต่างประเทศจ่ายเป็นเงิน 1000 บาท เราจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอีก 10 บาทในการแปลงค่าเงิน ซึ่งแนวปฏิบัตินี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากทุกธนาคารพาณิชย์ เห็นพ้องร่วมกันในการเก็บค่าธรรมเนียมพร้อมกันทุกธนาคาร
นอกจากนั้นค่าธรรมเนียมนี้ยังรวมถึงการจ่ายเงินซื้อสินค่าและบริการบนแพลตฟอร์มที่จดทะเบียนในต่างประเทศด้วย เช่น AIRASIA, NETFLIX, APPLE, TikTok, AGODA, Booking, Klook, IHERB, ALIPAY, TAOBAO, PAYPAL, FACEBOOK, GOOGLE, AIRBNB, EXPEDIA, EBAY, SPOTIFY, ALIBABA, TRIP.COM, STEAMGAMES, VIU, AMAZON ซึ่งรวมถึงการยิงโฆษณาผ่าน Google Ads,Facebook Ads และ TikTok Ads ก็รวมอยู่ด้วย
ที่มา https://moneyandbanking.co.th/2024/94518/