ปี 2023 ถือเป็นปีที่ท้ายของโลกออนไลน์ เนื่องจากการมาของ Gennerative AI ที่มาช่วยสร้างคอนเทนท์ทั้งภาพและวิดีโอได้ง่ายขึ้น ยังรวมถึงการสร้างสรรค์เนื้อหาของโฆษณาด้วย ซึ่งทุกปีทาง Google จะออกมาเผยแพร่iายงานความปลอดภัยของโฆษณา เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสโดยเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2011 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้รู้สึกโอกาสและความท้าทายใหม่ๆที่เกิดขึ้น

ความปลอดภัยของโฆษณาในปี 2023
ทุกวันนี้ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกพึ่งพาผลิตภัณฑ์ของ Google ในการค้นหาข้อมูลผ่านบริการต่างๆ รวมถึงโฆษณาด้วย ดังนั้นทาง Google ได้บังคับใช้นโยบายต่างๆเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและไว้วางใจในตัวแพลตฟอร์ม จนไปถึงความปลอดภัยในการใช้งาน สร้างธุรกิจให้เข้มเข็งและสื่อสารประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทรนด์หลักในปี 2023 คือ ผลกระทบของ Generative AI หรือ Gen AI โดยเทคโนโลยีใหม่นี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและน่าตื่นเต้นแก่อุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาไปจนถึงการแก้ไขภาพ แต่แน่นอนว่า Generative AI ก็นำมาซึ่งความท้าทายใหม่ๆ
สิ่งที่ Google กำลังทำเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้โดยตรงก็มี
Gen AI ช่วยส่งเสริมการบังคับใช้นโยบาย
ทีมความปลอดภัยของ Google ใช้ระบบแมชชีนเลิร์นนิงที่ทำงานด้วยระบบ AI เพื่อบังคับใช้นโยบายต่างๆ ในวงกว้างมาเป็นเวลานานแล้ว เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่เราสามารถตรวจจับและบล็อกโฆษณาที่ไม่ดีนับพันล้านรายการก่อนที่จะมีคนเห็น แม้ว่าโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงจะมีความสามารถสูงในด้านนี้ แต่ในอดีตโมเดลเหล่านี้ก็จำเป็นต้องได้รับการฝึกในหลายๆ เรื่อง โดยมักจะอาศัยตัวอย่างเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายของ Google นับแสนหรือหลายล้านรายการ
ในทางกลับกัน LLM สามารถตรวจสอบและตีความเนื้อหาในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็สามารถแยกความแตกต่างที่สำคัญภายในเนื้อหานั้นด้วย ความสามารถในการให้เหตุผลขั้นสูงเหล่านี้ส่งผลให้มีการตัดสินใจบังคับใช้นโยบายที่มีความซับซ้อนในวงกว้างได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น นโยบายในการรับมือกับการกล่าวอ้างทางการเงินที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งรวมถึงโฆษณาที่โปรโมตแผนการรวยทันใจ ผู้ไม่ประสงค์ดีที่อยู่เบื้องหลังโฆษณาประเภทนี้ใช้วิธีการหลอกลวงที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยมีการปรับกลยุทธ์และปรับแต่งโฆษณาเกี่ยวกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เพื่อหลอกหลวงผู้ใช้ เช่น คำแนะนำการลงทุนหรือสกุลเงินดิจิทัล เป็นต้น
เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงแบบเดิมจึงได้รับการฝึกให้ตรวจจับการละเมิดนโยบายในลักษณะเหล่านี้ แต่ด้วยเทรนด์ด้านการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ยากต่อการระบุความแตกต่างระหว่างบริการที่ถูกกฎหมายและการหลอกลวง รวมถึงการปรับสเกลของระบบการบังคับใช้นโยบายโดยอัตโนมัติของเราอย่างรวดเร็วเพื่อต่อสู้กับกลโกงต่างๆ LLM สามารถวิเคราะห์เทรนด์ใหม่ๆ เกี่ยวกับบริการทางการเงิน ระบุรูปแบบที่ผู้ไม่ประสงค์ดีใช้เทรนด์เหล่านั้นในทางที่ผิด และแยกแยะธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายออกจากแผนการรวยทันใจได้เร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้ทีมของเราเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยคุกคามใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกประเภทได้ดียิ่งขึ้น
นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการใช้ประโยชน์จากพลังของ LLM ในการรักษาความปลอดภัยของโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Google เท่านั้น จะมีการนำความสามารถในการให้เหตุผลของ Gemini ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่มีความสามารถมากที่สุดของ Google ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยของโฆษณาและการบังคับใช้นโยบายด้านโฆษณาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การป้องกันการฉ้อโกงและกลโกงต่างๆ
ในปี 2023 กลโกงและการฉ้อโกงบนแพลตฟอร์มออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ผู้ไม่ประสงค์ดีมีการพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ สำหรับการบิดเบือนโฆษณาดิจิทัลเพื่อหลอกลวงผู้คนและสวมรอยธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ Google จึงได้ทำการอัปเดตนโยบายอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งมีทีมบังคับใช้นโยบายที่ตอบสนองอย่างว่องไว และปรับปรุงเทคนิคการตรวจจับให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
- ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Google ได้เปิดตัวนโยบายจำกัดจำนวนโฆษณา ซึ่งออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ใช้โดยการจำกัดการเข้าถึงของผู้ลงโฆษณาที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย ภายใต้นโยบายนี้ เราจะเริ่มจัดตั้งระยะเวลาทำความรู้จักสำหรับผู้ลงโฆษณาที่ยังไม่มีประวัติในเชิงบวก ซึ่งในระหว่างนี้การแสดงผลของโฆษณาอาจถูกจำกัดในบางกรณี ตัวอย่างเช่น เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้ลงโฆษณากับแบรนด์ที่อ้างอิงในโฆษณานั้นๆ ไม่ชัดเจน ทั้งนี้ การจำกัดจำนวนโฆษณา ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาที่มีเจตนาดีเริ่มสร้างความน่าเชื่อถือกับผู้ใช้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยควบคุมการเข้าถึงของผู้ไม่ประสงค์ดี และช่วยลดความเสี่ยงจากกลโกงและโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิดด้วย
- ส่วนสำคัญในการปกป้องผู้คนจากภัยต่างๆ บนโลกออนไลน์ขึ้นอยู่กับความสามารถของเราในการตอบสนองต่อการละเมิดรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงปลายปี 2023 จนถึงปี 2024 Google พบแคมเปญโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายซึ่งมักจะใช้ดีปเฟก (Deepfake) สวมรอยเป็นบุคคลสาธารณะเพื่อหลอกลวงผู้ใช้ เมื่อตรวจพบภัยคุกคามนี้ ก็ได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อจัดการในส่วนนี้ทันที พร้อมได้ทำการระบุรูปแบบพฤติกรรมของผู้ไม่ประสงค์ดี ฝึกโมเดลการบังคับใช้นโยบายอัตโนมัติเพื่อตรวจจับโฆษณาที่คล้ายคลึงกัน และเริ่มนำโฆษณาประเภทนี้ออกจากแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงนโยบายการสื่อให้เข้าใจผิด (Misrepresentation) เพื่อให้สามารถระงับบัญชีของผู้ไม่ประสงค์ดีได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยรวมแล้ว Google ได้บล็อกหรือลบโฆษณาจำนวน 206.5 ล้านรายการที่ละเมิดนโยบายการสื่อให้เข้าใจผิด ซึ่งรวมถึงกลวิธีหลอกลวงมากมายและโฆษณาจำนวน 273.4 ล้านรายการที่ละเมิดนโยบายบริการทางการเงินของ ฌนนเสำ นอกจากนี้ยังบล็อกหรือลบโฆษณามากกว่า 1 พันล้านรายการที่ละเมิดนโยบายเกี่ยวกับการใช้เครือข่ายโฆษณาในทางที่ผิด ซึ่งรวมถึงการโปรโมตมัลแวร์ด้วย
Google ยังคงเดินหน้าจัดการกับโฆษณาหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ไม่ประสงค์ดีมีวิธีการที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ เช่น ดีปเฟก เพื่อหลอกลวงผู้คนเป็นวงกว้างมากขึ้น .ช้ทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่ พร้อมทั้งเดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของเทคโนโลยีการตรวจจับ และร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เช่น พันธมิตรองค์กรต่อต้านกลโกงระดับโลก (Global Anti-Scam Alliance) และ Stop Scams UK เพื่ออำนวยความสะดวกในการแบ่งปันข้อมูลและปกป้องผู้บริโภคทั่วโลก
การลงทุนเพื่อส่งเสริมความสุจริตของการเลือกตั้ง (Election integrity)
โฆษณาทางการเมืองเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมืองใช้โฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ ให้ข้อมูล และดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในปีที่มีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลก Google ต้องการให้แน่ใจว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังคงเชื่อถือโฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่พวกเขาอาจเห็นบนแพลตฟอร์มของ Google ด้วยเหตุนี้จึงมีข้อกำหนดด้านการยืนยันตัวตนและความโปร่งใสสำหรับผู้ลงโฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่มีการบังคับใช้มานานแล้ว รวมถึงข้อจำกัดเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ลงโฆษณากำหนดเป้าหมายสำหรับโฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ยังกำหนดให้โฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหมดต้องมีการเปิดเผย “ชำระให้โดย” (“Paid for by”) และรวบรวมไว้ในรายงานเพื่อความโปร่งใสของเราที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ในปี 2023 ได้ทำการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งรายใหม่มากกว่า 5,000 ราย และนำโฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งของผู้ลงโฆษณาที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จมากกว่า 7.3 ล้านรายการออกจากแพลตฟอร์ม
ในปีที่ผ่านมา Google เป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งแรกที่เปิดตัวข้อกำหนดในการเปิดเผยข้อมูลสำหรับโฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่มีเนื้อหาที่ผ่านการสังเคราะห์ เนื่องจากผู้ลงโฆษณาใช้ประโยชน์จาก AI กันมากขึ้น จึงต้องการให้แน่ใจว่าเรายังคงมุ่งมั่นสร้างความโปร่งใสให้มากยิ่งขึ้นและช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังบังคับใช้นโยบายสำหรับโฆษณาที่โปรโมตการกล่าวอ้างเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่เป็นเท็จอย่างชัดเจน ซึ่งอาจบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือหรือส่งผลกระทบต่อการมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย
ตัวเลขโดยรวมในปี 2023
เป้าหมายของ Google คือการตรวจจับโฆษณาที่ไม่ดีและระงับบัญชีที่ฉ้อโกงก่อนที่จะเข้าสู่แพลตฟอร์ม หรือนำโฆษณาและบัญชีเหล่านี้ออกจากแพลตฟอร์มทันทีที่ตรวจพบ ซึ่ง AI กำลังปรับปรุงการบังคับใช้นโยบายของ Google ในด้านต่างๆ เหล่านี้
ในปี 2023 เราได้บล็อกหรือจำกัดการแสดงโฆษณามากกว่า 5.5 พันล้านรายการ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2022 และบัญชีผู้ลงโฆษณา 12.7 ล้านบัญชี ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปี 2022 ในขณะเดียวกัน ก็ปกป้องผู้ใช้และผู้ลงโฆษณาโดยการนำโฆษณาออกจากหน้าของผู้เผยแพร่โฆษณาและเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบาย เช่น การโปรโมตเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศอย่างโจ่งแจ้งหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตราย ในปี 2023 Google ได้บล็อกหรือจำกัดโฆษณาไม่ให้แสดงบนหน้าของผู้เผยแพร่โฆษณามากกว่า 2.1 พันล้านหน้า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2022 นอกจากนี้ยังจัดการกับการละเมิดที่แพร่หลายหรือร้ายแรงได้ดีขึ้นอีกด้วย โดยเรามีการดำเนินการบังคับใช้กับเว็บไซต์ของผู้เผยแพร่โฆษณามากกว่า 395,000 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากปี 2022
ในปีที่ผ่านมา การบังคับใช้ระดับหน้าเว็บของผู้เผยแพร่โฆษณากว่า 90% เริ่มจากการใช้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิง ซึ่งรวมถึง LLM ล่าสุดของเรา ทั้งนี้ หากผู้ลงโฆษณาหรือผู้เผยแพร่โฆษณาคิดว่าทาง Google เข้าใจผิดก็สามารถยื่นอุทธรณ์การบังคับใช้เพื่อให้ทีมงานทำการตรวจสอบอีกครั้งได้ รวมถึงนำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงระบบของเราให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
การเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
เมื่อพูดถึงความปลอดภัยของโฆษณา หลายๆ อย่างอาจเปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งปี เช่น การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Generative AI มาจัดการกับการละเมิดรูปแบบใหม่ๆ และความขัดแย้งระดับโลก และผู้ที่อยู่ในวงการโฆษณาดิจิทัลจะต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ Google พัฒนานโยบายใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างระบบการบังคับใช้ของเราให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งกระชับความร่วมมือกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม และมอบการควบคุมแก่ผู้ใช้ ผู้เผยแพร่โฆษณา และผู้ลงโฆษณาให้มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 เราได้เปิดตัวศูนย์ความโปร่งใสของโฆษณา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้นหาโฆษณาทั้งหมดจากผู้ลงโฆษณาที่ได้รับการยืนยัน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาที่พวกเขาเห็นบน Google Search, YouTube และ Display ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นอกจากนี้เรายังได้อัปเดตการควบคุมความเหมาะสมของเนื้อหาเพื่อให้ผู้ลงโฆษณายกเว้นหัวข้อที่ต้องการหลีกเลี่ยงในพื้นที่โฆษณาของ YouTube และ Display ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยรวมแล้ว เราได้อัปเดตนโยบายของ Google Ads และนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาไปแล้ว 31 รายการ
แม้ว่าเราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2024 นี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่เรามั่นใจว่าการลงทุนด้านนโยบาย การตรวจจับ และการบังคับใช้ของเราจะช่วยให้เราเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าได้อย่างแน่นอน