ทุกปี Apple จะออกมาประกาศรายชื่ออุปกรณ์ที่เป็น ‘obsolete’ ซึ่งจะหยุดสนับสนุน OS และความปลอดภัย ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า ให้งดใช้งาน iPhone ที่ขึ้นแท่นสินค้า ‘obsolete’ เพราะถ้าคุณใช้ iPhone ที่มีอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป อาจจะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยได้ออกมาเตือนว่า สมาร์ตโฟนที่ผลิตตั้งแต่ปี 2008 – 2014 นั้นได้หยุดสนับสนุนด้านการอัปเดตซอฟท์แวร์ไปแล้ว ดังนั้นผู้ใช้จึงเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยมัลแวร์หรือผ่านทางช่องโหว่อื่นๆ ซึ่งปัจจุบันไอโฟนรุ่นแรกถึง iPhone 6 Plus นั้นได้หยุดสนับสนุนด้านระบบปฏฺบัติการไปแล้ว นอกจากความปลอดภัยแล้ว iPhone รุ่นเก่าบางรุ่นที่เป็น ‘obsolete’ นั้นจะไม่สามารถหาอะไหล่แท้มาซ่อมได้แล้ว

ทาง Jake Moore จาก ESE บอกว่า ตอนนี้ไอโฟนรุ่นเก่านั้นยังคงมีขายในตลาด หากมีการพบช่องโหว่ แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านี้ได้ เพราะไม่มีการปิดจุดอ่อนอีกต่อไป การใช้อุปกรณ์เหล่านี้จึงมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นครวพิจารณาเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่ที่ปลอดภัยกว่า ซึ่ง Moore แนะนำให้เลิกใช้ iPhone รุ่นที่ขึ้นแท่นสินค้า ‘obsolete’

การที่ iPhone ประกาศเป็นผลิตภัณฑ์ ‘obsolete’ นั้นจะพิจารณาจากวันประกาศยุติการขายเป็นเวลา 7 ปี ซึ่ง iPhone 6 Plus คือรุ่นที่เพิ่งประกาศไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2014 แม้ iPhone 6 Plus ยังสามารถใช้งานได้ แต่ถ้าเสียก็ซ่อมยาก เพราะอะไหล่เริ่มไม่มีแล้วเพราะ Apple ได้เลิกผลิตชิ้นส่วนไปแล้ว

ทาง Moore บอกว่า แฮกเกอร์นั้นไม่ค่อยพุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้รุ่นเก่า เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่สถิติที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญของ Apple ได้บอกกับ DailyMail.com ว่าปีที่แล้วมีผู้ใช้ iPhone กว่า 250 ล้านคนที่ไม่เปลี่ยนเครื่องใหม่ในรอบ 4 ปี

ที่มา https://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-13506993/warning-Apples-obsolete-iPhones.html