หากคุณเป็นคอนเทนท์ครีเอเตอร์ จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถโคลนตัวเอง เพื่อมาช่วยแบ่งเบาการทำงานให้เบาขึ้น ทาง Mark Zuckerberg เชื่อว่า AI จะมาช่วยแก้ปัญหานี้ได้
งานคอนเทนท์ครีเอเตอร์เป็นงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ เวลาส่วนใหญ่อาจจะหมดไปกับการคิดงานจนทำให้คุณอาจจะไม่มีเวลาไปปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม หรือโฟกัสกับการตลาดน้อยลง แต่ปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขได้ง่ายๆด้วยการใช้ AI โคลนตัวเองขึ้นมาอีกคนขึ้นมา และมันกำลังจะกลายเป็นจริงในอีกไม่ช้านี้ นั่นคือแนวคิดของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook นั่นเอง
เขาได้เผยแนวคิดนี้ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับ Rowan Cheung เผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของ AI เขาบอกว่า วิธีเดียวที่จะช่วยให้ครีเอเตอร์จัดการเวลาได้ คือ การมี “บอท AI” ที่โคลนบุคลิกภาพและหัวทางธุรกิจของเราออกมา เพื่อแบ่งเบางานบางอย่างไปให้ AI ทำ เพื่อให้เราหันไปโฟกัสเรื่องความคิดสร้างสรรค์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งที่ครีเอเตอร์ต้องทำก็คือ ดึงข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพวกเขามาจากโซเชียลมีเดียเพื่อนำไปใช้ในการฝึกสอน AI เพื่อสะท้อนถึงค่านิยมและวัตถุประสงค์ของครีเอเตอร์ พอ AI รู้ว่าครีเอเตอร์เหล่านี้กำลังพยายามทำอะไรอยู่ ก็จะโต้ตอบกับบุคคลอื่นๆในเวอร์ชันเสมือนจริงได้
แน่นอนว่านั่นเป็นการมอง AI ในแง่ดีเพียงด้านเดียว ที่มาช่วยสร้างสิ่งดีๆเพื่อใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลใจ ซึ่ง Mark Zuckerberg ต้องการให้เราเชื่อว่า AI สามารถ scale up เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้กับบุคคลหรือองค์กรได้ แต่สิ่งที่ไม่ได้พูดถึงเลยคือ AI ก็สามารถทำลายชีวิตและความคิดสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์ได้เช่นกัน
นี่ยังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ เช่น กรณีการใช้งาน AI เชิงสร้างสรรค์ที่สร้างผลกระทบแบบวัดได้อย่างมีนัยสำคัญยังมีจำนวนที่น้อยอยู่มาก ทั้ง OpenAI, Gemini และบริษัทอื่นๆที่ทำงานด้านแชทบอต AI ยังไม่มี Use case ที่โดดเด่น จนสามารถฟันธงว่า AI ช่วยลดการทำงานได้ ลดการใช้ความพยายามของมนุษย์ จนไปถึงช่วยลดต้นทุนโดยรวมได้ และสิ่งที่หลายคนมองข้ามก็คือ ต้นทุนมหาศาลที่ใช้สำหรับการประมวลผล AI เพื่อให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานได้
เมื่อช่วงต้นปี ตอนที่ Meta เปิดตัวบอท AI เพื่อผลักดัน Meta AI ในกว้าง หลังจากนั้นไม่นานนัก บอทเหล่านี้เข้าสู่โหมดหลอนประสาทอย่างรวดเร็ว สื่อต่างๆ ถึงกับรายงานกรณีที่บอทบังคับให้เข้าร่วมการสนทนาในกลุ่ม Facebook สื่อ Associated Press สังเกตเห็นบอทตัวหนึ่งแทรกตัวเองเข้าไปในการสนทนาในกลุ่ม Facebook สำหรับคุณแม่ในแมนฮัตตัน และอ้างว่ามีลูกในเขตโรงเรียนของนิวยอร์ก ส่วนบอทอีกตัวหนึ่งเสนอที่จะแจกกล้องและเครื่องปรับอากาศที่ไม่มีอยู่จริงในฟอรัมเพื่อแลกของฟรีใกล้กับบอสตัน
นั่นหมายความว่า เรายังไม่สามารถไว้ใจระบบที่ยังห่างไกลจากความปลอดภัยได้ ที่แย่กว่าก็คือ ระบบพร้อมที่จะขโมยข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาต นี่ยังไม่รวมการขโมยข้อมูลจากเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาต สิ่งเหล่านี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้สนับสนุนลิขสิทธิ์เนื้อหาเป็นอย่างมาก
จึงเป็นเรื่องยากมากที่ตอนนี้ครีเอเตอร์จะไว้วางใจให้บอท AI ได้ 100% เพราะอาจโต้ตอบกับแฟนๆผิดพลาด ในการสัมภาษณ์ Zuckerberg ยอมรับว่า Meta จำเป็นต้อง “บรรเทาความกังวลบางประการ” เกี่ยวกับการใช้ AI เชิงสร้างสรรค์และได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ในระยะยาว
ที่มา: https://cxotoday.com/news-analysis/cloning-oneself-zuckerberg-style/
