Prospire Holding จัดงาน “Is NeuroTech The Next Future Era?” รุกอุตสาหกรรม Neuro Technology ด้วย BrainSpoke (เบรนสโปก) อุปกรณ์สวมใส่สำหรับวัดคลื่นสมองเพื่อให้เข้าใจตัวเองมากขึ้นและ pync (พิงค์) อุปกรณ์สวมใส่สำหรับน้องหมาน้องแมวที่สามารถวัดสุขภาพและอารมณ์เพื่อให้เข้าใจสัตว์เลี้ยงมากขึ้น

คุณชิตพล มั่งพร้อม อดีตผู้ก่อตั้งบริษัท Zanroo ซึ่งบริษัท MarTech ของไทยที่ประสบความสำเร็จไปหลายประเทศทั่วโลก และปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเป็น CEO บริษัท Prospire Holding ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการ Martech, Big Data, AI จัดงานแถลงข่าว “Is NeuroTech The Next Future Era?” ขึ้น ณ ลาน Venue ชั้น G ห้างสรรพสินค้าเอ็มสเฟียร์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุน และผู้ที่สนใจด้าน Martech และ NeuroTech ได้เล็งเห็นการเติบโตของธุรกิจที่มีการพัฒนาก้าวล้ำไปไกลซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการทำธุรกิจที่สร้างกำไรได้อย่างมหาศาล 

           ภายในงานยังมีบริษัท BrainSpoke และ pync ที่อยู่ภายใต้การร่วมทุน รวมถึงบริษัทอื่นๆที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันมาร่วมงานมากมาย อาทิ บริษัท Kommercecorner ที่จับมือ Shopgenix เพื่อดันจุดยืนการเป็น Commercial and Creative Marketing Agency, บริษัท Pana Entertainment จากเกาหลีสะท้านวงการ Influencer ด้วยการเปิด TikTok Live Agency ในเมืองไทย รวมถึงบริษัทพัฒนาโปรแกรมซอร์ฟแวร์อย่าง Glonix Technologies และบริษัทยักษ์ใหญ่จากเกาหลี Shinest บุกตลาดไทยจับมือ Prospire เพื่อเขย่าวงการ Martech ไทยที่ใหญ่ที่สุดรวมไว้ในงานเดียวกัน

          คุณชิตพล มั่งพร้อม กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ตนมองเห็นนั้นได้เล็งไปอนาคตของโลกหลังจากยุคอินเตอร์เน็ท มาถึงยุค AI เล็งเห็นว่า Neuro Technology จะกลายเป็น S Curve ใหม่ของโลกที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ปี และจะมาสร้างการเจริญเติบโตให้ GDP ของโลกได้อย่างมหาศาล โดยมีรายละเอียดดังนี้

“เริ่มมองข้ามช็อต” เนื่องจากโลกเปลี่ยนแปลงไปมากเกิดเม็ดเงินมากมายจากการที่ยุคอินเตอร์เน็ท ทำให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในโลกคุยกันได้ มาสู่ยุค AI เทคโนโลยีที่นำพาให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆมากมาย ด้วยการทำให้มนุษย์คุยกับคอมพิวเตอร์ได้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น หากมนุษย์คุยกับสมองอันชาญฉลาดของเราเองรู้เรื่องและสมองสามารถคุยกับอุปกรณ์อะไรก็ได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ โอกาสใหม่ๆ ธุรกิจใหม่ๆ เม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะเข้าสู่สังคม นี่คือ เหตุผลของคำว่า S Curve ใหม่ของโลก ซึ่งก็คือ “Neuro Technology” นำมาซึ่ง Applications มากมายมหาศาลที่จะเข้ามาอำนวยสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นกับมนุษยชาติยิ่งกว่ายุคอินเตอร์เน็ทและ AI อีก ฉะนั้น Neuro Technology จะไม่ได้เป็นเรื่องของหมอและนักวิชาการที่ใช้ทางสมองเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราๆสามารถนำไปใช้กันได้ในอนาคต

“โอกาสทางธุรกิจระดับโลก” Neuro Technology จะเป็นความเปลี่ยนแปลงและสร้างโอกาสทางธุรกิจจำนวนมากที่จะเกิดขึ้นระดับ Trillion Dollar หรือ ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายใน 10 ปีข้างหน้า และนี่คือสิ่งที่คุณชิตพลมองข้ามช็อต AI ไปข้างหน้าและจำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ ในฐานะของ CEO ของ Prospire Holding จำกัด จึงเข้าลงทุนในบริษัท BrainSpoke บริษัทที่ถูกวางตัวให้เป็น Key Player ในระดับ Global ของอุตสาหกรรม Neuro Technology

ดังนั้น BrainSpoke Wearable จึงเป็น Flagship Product แรกของ BrainSpoke ที่จะเริ่มบุกเบิกและสร้างตลาด Neuro Technology ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์ BrainSpoke Wearable เพื่อตอบสนองความต้องการด้าน Mindfulness ที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันมีขนาดตลาดกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี BrainSpoke Wearable ที่ได้รับการออกแบบอย่างพรีเมี่ยม ใช้กับไลฟสไตล์ของคนทั่วไปได้อย่างตลอดเวลา       เป็น Wearable Product ที่จะนำเทคโนโลยี่ทำการแปรผลคลื่นสมอง เป็น Big Data และใช้ AI ประมวลผลส่งเป็นรายงานให้ผู้ใช้ได้รับทราบถึงสภาวะทางการทำงานของสมองที่มีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และ ความสามารถของมนุษย์ได้อย่างต่อเนื่อง BrainSpoke Wearable นี้จะวางตลาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เป็น Tier แรก 

“ทำไมจึงเป็น Mindfulness” สาเหตุที่เล็ง Applications ของ BrainSpoke Wearable ไปที่ตลาด Mindfulness นั้น คุณชิตพลเฉลยว่า เพราะสิ่งที่อินเตอร์เนทและAI นำมาสู่มวลมนุษย์นั้นไม่ได้มีแค่ส่วนดีด้านเดียว แต่ นำเรื่องปวดหัว ความเครียด ความวิตกกังวลมากมายมาด้วย ทำให้ตลาด Mindfulness เติบโตอย่างรวดเร็ว และ มี      Pain Points ให้เราเข้าไปฉวยโอกาสได้อย่างเด่นชัดด้วย Neuro Technology นั่นเอง

“โอกาสระยะสั้นเพิ่มเติมคือ pync Applications” คุณชิตพลได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกเหนือจาก pync Applications แล้ว ทาง Prospire ก็ยังมองไปถึงโอกาสใหม่ๆของการนำ Neuro Technology มาสร้างประโยชน์ให้มนุษย์ นั่นคือ การใช้เทคโนโลยี่ที่จะทำให้มนุษย์สามารถรับรู้และสื่อสารกับ Pet หรือสัตว์เลี้ยง หรือที่เราเรียกกันว่า Human’s Best Friends ได้ด้วย ด้วยการปั้นบริษัทที่ชื่อว่า pync ที่อ่านว่า พิงค์ ที่มีที่มาจากคำว่า Pet และ Sync ด้วย

การมี Pet Wearable ที่จะเป็นอุปกรณ์อยู่กับตัวน้องหมาน้องแมว ทำงานด้วยการแปลความคิด ความรู้สึกของสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของคนให้ออกมาเป็นสิ่งที่คนเราจะเข้าใจได้ สนองความต้องการของคนรักสัตว์        ที่อยากเข้าใจจิตใจของสัตว์เลี้ยงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ออกแบบให้เทคโนโลยี่มาในรูปแบบของความเป็นพรีเมี่ยม “pync every moment” จะเป็น Flagship Product ของทางบริษัท pync ที่จะขยายการเติบโต Applications ด้าน Neuro Technology ในกลุ่มของ Prospire ได้เป็นอย่างดี

“เป้าหมายทางการเงิน” ในส่วนของเป้าหมายทางการเงินระยะสั้นจาก BrainSpoke Wearable นั้น คุณชิตพลกล่าวว่า เรามองไปยังตลาด Mindfulness ที่มีขนาดตลาด 500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีที่หากนำ Neuro Technology มาพัฒนาต่อยอดเพื่อแก้ Pain Points ที่เราศึกษามาเชื่อว่า เราจะสามารถเข้าไปมีส่วนแบ่งทางการตลาดได้ในระดับ 20-30% ของตลาด 500 ล้านเหรียญสหรัฐได้ภายใน3-5 ปี

โดย BrainSpoke Wearable และ pync จะเป็น Flagship Products สองตัวแรกที่จะเป็นสื่อสร้างแบรนด์ของทั้งสินค้าและบริษัท ที่จะลงทุนพัฒนาทั้งเทคโนโลยี่และผลิตภัณฑ์และ Applications หลากหลาย ตลอดจนการ Collaborations กับบริษัทชั้นนำของโลกในสาขาต่างๆที่จะประยุกต์เทคโนโลยี่ของเราเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่างๆที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อีกมากมาย เพื่อเป็นการช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจระดับ ล้านล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาต่อไป หากเราสามารถแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาดในโลกยุค Neuro Technology ได้เพียง 1% ในฐานะ Key Player คนนึง นั้นหมายความว่า เรากำลังมองไปที่ตัวเลข 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐกันเลยในอนาคต 10-15 ปี

          ซึ่งนักลงทุนที่ถามถึงโอกาสที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในโอกาสของ S Curve ใหม่นี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะ คุณชิตพล CEO ของทั้ง Prospire Holding บริษัท Investment และ CEO ของ BrainSpoke Wearable ได้กล่าวไว้ว่า เรายินดีแบ่งปันโอกาสเพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างแน่นอน