GoPro เปิดตัวกล้อง 2 รุ่นใหม่ HERO13 Black ถ่าย 5.3K 60p มาพร้อมโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องแบบสโลว์โมชั่น 13x เท่า แบตเตอรี่ใหม่ใช้งานนานขึ้น รวมถึงเลนส์ HB-Series รุ่นล่าสุด และ HERO ที่มีขนาดกะทัดรัดใช้งานง่ายพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ

HERO13 Black

HERO13 Black มีคุณสมบัติหลายอย่างเหมือน HERO12 Black อัปเกรดการบันทึกวิดีโอ 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีและระบบกันสั่น HyperSmooth ส่วนฟีเจอร์ที่น่าสนใจมีดังนี้

  • 13x Burst Slo-Mo: สามารถบันทึก 400 เฟรมต่อวินาทีที่ความละเอียด 720p และ 120 เฟรมต่อวินาทีที่ความละเอียด 5.3K
  • แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น: แบตเตอรี่ให้ความจุมา 1900mAh ใช้งานได้นานขึ้น 10% ถ่ายวิดีโอได้ต่อเนื่อง 1.5 ชั่วโมงที่ 4K30fps หรือ 5.3K30fps ส่วน 1080p30fps ถ่ายได้ 2.5 ชั่วโมง
  • อุปกรณ์เสริม Contacto Magnetic Door และ Power Cable Kit: อุปกรณ์เสริมช่วยให้ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ แต่เราต้องซื้อเพิ่ม การใช้งานจะติดแม่เหล็กเข้ากับประตูข้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบน HERO13 Black ซึ่งจะช่วยให้เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และทนต่อสภาพอากาศ
  • เพิ่มระบบเม้าท์: Magnetic Latch และ Ball Joint Mounts เป็นตัวเลือกที่เพิ่มเข้ามา ช่วยให้เคลื่อนย้ายระหว่างตัวยึดต่างๆ ได้รวดเร็วที่สุด ระบบเหล่านี้ใช้งานได้กับกล้อง GoPro ทุกรุ่น
  • Professional-Level Hybrid Log Gamma (HLG) HDR Video –มาตรฐาน 10 บิตและพื้นที่สี Rec. 2100 และขอบเขตสีที่กว้างกว่า HDR เพียงอย่างเดียว
  • Customizable Audio Tuning: สามารถเลือกได้ระหว่างเสียงที่สมดุลหรือการตั้งค่าเสียงที่ปรับปรุงความคมชัดของเสียงร้องในขณะที่ยังคงเสียงพื้นหลังไว้
  • GPS + Performance Stickers: ติดตามความเร็ว เส้นทาง ภูมิประเทศ ความสูง และแรง G และช่วยเหลือในการระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในแอปของบริษัทอื่น

HB-Series lenses

อีกไฮไลต์ของ HERO13 Black คือ เลนส์เสริมที่มีให้เลือกถึง 4 แบบ โดยเลนส์เหล่านี้รองรับระบบกันสั่น HyperSmooth แถมยังกันน้ำและกันรอยขีดข่วนด้วยสารเคลือบกันน้ำอีกด้วย ซึ่งเลนส์จะถูกตรวจจับโดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับ HERO13 Black.

  • The Ultra Wide Lens Mod ขยายขอบเขตการมองเห็นเป็น 177° ด้วยอัตราส่วนภาพ 1:1 ที่ทำให้สามารถครอบตัดเป็น 16:9 หรือ 9:16 ได้อย่างยืดหยุ่น โดยไม่คำนึงว่ากล้องจะติดตั้งไว้อย่างไร GoPro ยังเสริมการกันสั่น HyperSmooth ด้วย 360° Horizon Lock รองรับความละเอียดสูงสุด 4K60fps
  • The Macro Lens Mod ช่วยให้ปรับโฟกัสวัตถุที่อยู่ใกล้ได้ โดยวางตำแหน่งให้ใกล้กว่าเลนส์ GoPro มาตรฐานได้ถึง 4 เท่า มีวงแหวนปรับโฟกัสแบบแมนนวลที่ให้ผู้ใช้ปรับระยะโฟกัสได้ โดยมีระยะต่ำสุดที่ 4.3 นิ้ว (11 ซม.)
  • The Anamorphic Lens Mod จับภาพมุมกว้างพิเศษพร้อมการบิดเบือนที่น้อยลงในอัตราส่วนภาพ 21:9 คล้ายกับภาพยนตร์สารคดี เพิ่มแสงแฟลร์เลนส์แบบภาพยนตร์ และมีระบบ “de-squeezing” ในกล้องเพื่อให้จับภาพ ตรวจสอบ และแก้ไขได้ง่ายขึ้น
  • The ND Filter 4-Pack ช่วยให้คุณสร้างภาพเบลอแบบภาพเคลื่อนไหวในโรงภาพยนตร์ได้โดยใช้ฟิลเตอร์ซีรีส์ HB (ND4 / ND8 / ND16 / ND32) เมื่อติดตั้งแล้ว HERO13 Black จะตรวจจับฟิลเตอร์โดยอัตโนมัติ สลับไปที่โหมดภาพยนตร์อัตโนมัติ และปรับการตั้งค่าตามสภาพแวดล้อม

GoPro HERO

HERO เป็นรุ่นประหยัดขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และใช้งานง่าย โดยมีน้ำหนัก 86 กรัม ทนทานและกันน้ำได้ถึง 5 เมตร ส่วนด้านหลัมีหน้าจอสัมผัส LCD ที่ใช้งานง่ายและการควบคุมด้วยปุ่มเดียวสามารถถ่ายวิดีโอ Ultra HD 4K และ HD 1080p พร้อมกับภาพถ่าย 12MP และบันทึกแบบสโลว์โมชั่นที่ 2.7K 60fps นอกจากนี้ เรายังสามารถแยกภาพนิ่ง 8MP จากวิดีโอ 4K ได้โดยใช้แอป Quik

กล้องนี้บันทึกภาพในอัตราส่วน 16:9 สำหรับวิดีโอแนวนอนที่ปรับให้เหมาะกับ YouTube พร้อทระบบกันสั่นวิดีโอ HyperSmooth เพื่อปรับภาพวิดีโอที่สั่นไหวให้เรียบเนียนโดยอัตโนมัติ ส่วนแบบตเตอรี่ HERO สามารถบันทึกวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 100 นาทีที่การตั้งค่าวิดีโอสูงสุดโดยชาร์จเพียงครั้งเดียว

ราคาขาย

GoPro HERO13 Black วางจำหน่ายแล้วในราคา 399 เหรียญสหรัฐ (13,500 บาท) ส่วน HERO มีราคา 199 เหรียญสหรัฐ (6750 บาท) ส่วนแอป Quik มีค่าบริการระดับ Premium ($49.99/ปี) หรือ Premium+ ($99.99/ปี)

ที่มา https://www.cined.com/gopro-hero13-black-and-hero-announced-5-3k-60p-13x-burst-slo-mo/