Jon Bruner จาก Lumafield โพสต์ภาพสแกน CT คุณภาพสูงบนสายเคเบิล USB-C เผยให้เห็นว่าแฮกเกอร์สามารถฝังชิปที่เป็นอันตรายได้น่ากลัวแค่ไหน

เนื่องจากในปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็กมากจนแฮกเกอร์สามารถใส่ชิปคอมพิวเตอร์ที่เป็นอันตรายไว้ในสาย USB-C ได้โดยไม่มีใครรู้ พร้อมความสามารถเชื่อมต่อกับเว็บโดยใช้เสา Wi-Fi ในตัว เพื่อสอดส่องเป้าหมาย และควบคุมคอมพิวเตอร์ของพวกเป้าหมายได้

Lumafield นำเสนอโซลูชันการสแกน CT สำหรับธุรกิจ ดังนั้นทาง Bruner จึงสแกนสายเคเบิลได้อย่างง่ายดาย โดยสายเคเบิลที่เขาเลือกคือ สายเคเบิล O.MG ที่พัฒนาโดยนักวิจัย Mike Grover ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย แต่แฮกเกอร์โดยทั่วไปอาจพัฒนาสายเคเบิลที่คล้ายกันเพื่อสอดส่องเป้าหมายได้

ภาพสแกน CT แบบ 3 มิติแสดงให้คุณเห็นว่าคอมพิวเตอร์ภายในสายเคเบิล O.MG นั้นมีขนาดเล็กมาก มีเสาอากาศ Wi-Fi และชิปหลายตัววางซ้อนกันโดยที่ภายนอกยังเป็นสายเคเบิล USB-C สำหรับชาร์จ iPhone และอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงได้

สายนี้อาจโปรแกรม keylogger เพื่อบันทึกทุกอย่างที่เราพิมพ์บนอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังสามารถปล่อยมัลแวร์เพิ่มเติมหลังจากเชื่อมต่อกับโครงสร้างคำสั่งผ่าน Wi-Fi ได้ รวมถึงดึงข้อมูลออกมาและเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณได้ทั้งหมด ที่น่าสนใจคือ สายเคเบิล O.MG มีสวิตช์ปิดด้วย หมายความว่าสายเคเบิลจะทำงานเมื่อได้รับคำสั่งเท่านั้น

ลองนึกถึงสายเคเบิลต่างๆ ที่คุณเคยใช้ในพื้นที่สาธารณะอย่าง ร้านกาแฟ สถานีรถไฟ และสนามบิน นั่นหมายถึงโอกาสเสี่ยงในการโดนจู่โจมโดยที่เราไม่รู้ตัว

วิธีเดียวที่แน่ใจได้ว่าสายเคเบิลปลอดภัย คือใช้สายของตัวเองซึ่งแถมมากับตัวเครื่อง หรืออาจต้องซื้อแบตเตอรี่สำรองเพื่อชาร์จอุปกรณ์ของคุณขณะเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงก่ารชาร์จอุปกรณ์พอร์ตสาธารณะ

ที่มา https://bgr.com/tech/iphone-charging-cable-hack-will-make-you-think-twice-about-buying-third-party-accessories/