เอ็ดดี้ คิว รองประธานอาวุโสฝ่ายบริการของ Apple ได้อธิบายว่าเหตุใดทางบริษัทถึงไม่มีแผนที่จะสร้างเครื่องมือค้นหาออกมาแข่งกับ Google

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ศาลสหรัฐได้ตัดสินว่า ข้อตกลงที่กำหนดให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นใน Safari ของเว็บเบราว์เซอร์ของ Apple ถือเป็นการผูกขาดการค้า ซึ่งนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาคดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ต่อ Google ในคำประกาศของ Cue ศาลได้ขอให้ Apple อนุญาตให้มีการปกป้องข้อตกลงดังกล่าวโดยให้พยานของตนเองให้การในระหว่างการพิจารณาคดี

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า Apple อาจจะพัฒนา Search Engine ของตัวเองเพื่อลดการพึ่งพา Google ทาง เอ็ดดี้ คิว รองประธานอาวุโสฝ่ายบริการของ Apple ได้ส่งหนังสือชี้แจงยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ปฏิเสธว่า Apple ไม่มีแผนที่จะพัฒนา Search Engine เองด้วยเหตุผลดังนี้

  • การพัฒนาเครื่องมือ Search Engine จะทำให้ Apple ต้องเสียเงินลงทุน “หลายพันล้านดอลลาร์” และ “ต้องใช้เวลาหลายปี” ซึ่งจะเป็นการเบี่ยงเบนเงินลงทุนและพนักงานออกจาก “พื้นที่การเติบโตอื่นๆ” ที่บริษัทให้ความสำคัญ
  • ธุรกิจเครื่องมือค้นหา “มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว” เนื่องจาก AI ดังนั้นการที่ Apple สร้างเครื่องมือค้นหาขึ้นมาจึง “มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ”
  • เพื่อสร้างธุรกิจเครื่องมือค้นหาที่สามารถดำรงอยู่ได้ Apple จำเป็นต้อง “ขายโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย” ซึ่ง “ไม่ใช่ธุรกิจหลัก” ของบริษัท และขัดต่อแนวทางการปกป้องความเป็นส่วนตัวที่มีมายาวนาน
  • Apple ไม่มี “ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง” และ “โครงสร้างพื้นฐานด้านการดำเนินงาน” ที่เพียงพอที่จำเป็นในการสร้างและดำเนินธุรกิจเครื่องมือค้นหาให้ประสบความสำเร็จ

Cue อธิบายว่า “ความร่วมมือในอนาคตของ Apple จะเน้นร่วมมือผู้ที่ให้บริการกับผู้ใช้ได้ดีที่สุด Apple มุ่งมั่นอย่างไม่ลดละในการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และกำลังพิจารณาความร่วมมือและข้อตกลงที่เป็นไปได้กับบริษัทอื่นๆ เพื่อทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น

ที่มา https://www.macrumors.com/2024/12/24/apple-explains-why-it-wont-make-search-engine/