กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อแอป TikTok ถูกแบนในสหรัฐอเมริกา กระทบผู้ใช้กว่า 170 ล้านคน ลองไปไล่เรียงกันดูว่าเหตุการณ์นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมสหรัฐถึงจ้องจะแบน TikTok ให้เข้าใจในที่เดียว

2012 : Zhang Yimin ก่อตั้งบริษัท ByteDance ในประเทศจีน มีผลิตภัณฑ์ยอดนิยมตัวแรกคือ Toutiao ซึ่งเป็นเครื่องมือรวบรวมข่าวสารเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ใช้ชาวจีน
2014 : Alex Zhu. เปิดตัว Musical.ly ซึ่งเป็นแอปสำหรับโพสต์มิวสิควิดีโอลิปซิงค์สั้นๆ ในจีน หลังเปิดตัวได้ 1 ปีก็ได้มีการเปลี่ยนดีไซน์แอปใหม่ให้น่าใช้ขึ้น พร้อมแทรกโลโก้เข้าไปในคลิปทำให้คนรู้จักมากขึ้น ส่งผลให้แอปได้รับความนิยมเป็นอย่างมากขึ้นแท่นแอปอันดับ 1 ใน App Store ของ Apple

2016 : ByteDance เปิดตัว Douyin แอปแชร์วิดีโอสั้นๆในจีน ซึ่งได้รับความนิยมมหาศาล จนต้องแยกออกมาเป็นแอปใหม่สำหรับผู้ใช้ต่างชาติในชื่อว่า TikTok.
2017 “ByteDance” ได้ซื้อกิจการของ Musical.ly ด้วยมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากซื้อกิจการมา 9 เดือนก็รวมแอปเข้ากับ TikTok ด้วยการใช้อัลกอริทึมที่สนับสนุนการดูแบบรวดเดียว ผู้ใช้จึงเริ่มแชร์วิดีโอที่หลากหลาย รวมถึงท่าเต้น การเตรียมอาหารในครัว และ “Challenge” ต่างๆ ทั้งในรูปแบบที่จริงจังไปจนถึงการเสียดสี ทำให้เติบโตจากแอปที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น กลายเป็นแพลตฟอร์ม trendsetter ระดับโลก

2019 แร็ปเปอร์ Lil Nas X เปิดตัวเพลง “Old Town Road” บน TikTok กลายเป็นไวรัลและทำลายสถิติเพลงที่ติดอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 นานถึง 17 สัปดาห์ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ศิลปินจำนวนมากนำเพลงของตัวเองมาลง TikTok เพราะมองว่า TikTok เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงแฟนๆ
สื่อเริ่มตีข่าวว่า TikTok มีการลบหรือจำกัดการเข้าถึงวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ละเอียดอ่อนต่อจีน แต่กลับกันโพสต์บน TikTok ที่มีแท็ก #trump2020 กลับมีผู้เข้าชมมากกว่า 70 ล้านครั้ง นั่นทำให้ นักการเมืองสหรัฐฯ เริ่มตระหนักถึงอิทธิพลของ TikTok เรียกร้องให้มีการสอบสวนกรณีการเข้าซื้อ Musical.ly และสอบสวนความมั่นคงแห่งชาติต่อ TikTok และแอปอื่นๆ ที่เป็นของจีน

2020 ในเดือนกรกฎาคมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พิจารณาแบน TikTok เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ว่าจีนจัดการการระบาดของ COVID-19 อย่างผิดพลาด
มาในเดือนสิงหาคม ทรัมป์ออกคำสั่งฝ่ายห้ามบริษัทอเมริกันไม่ให้ “ทำธุรกรรม” กับ ByteDance และบริษัทในเครือ รวมถึง TikTok ไม่กี่วันต่อมา เขาก็ออกคำสั่งที่สองเพื่อเรียกร้องให้ ByteDance ถอนตัวจากการดำเนินกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ภายใน 90 วัน
ไมโครซอฟต์ยืนยันว่ากำลังพิจารณาซื้อกิจการ TikTok รวมถึง Oracle และ Walmart ก็ให้ความสนใจ แต่การซื้อกิจการก็ไม่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน TikTok ฟ้องรัฐบาลทรัมป์ในข้อกล่าวหาว่าละเมิดกระบวนการยุติธรรมในคำสั่งฝ่ายบริหาร
เดือนพฤศจิกายน โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีโดยจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2021 เขาไม่ได้เสนอนโยบายใหม่เกี่ยวกับ TikTok แต่รัฐบาลทรัมป์ขยายกำหนดเวลาที่บังคับใช้กับ ByteDance และ TikTok ออกไป

2021
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีเข้ารับตำแหน่ง พร้อมเลื่อนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับแผนการของทรัมป์ที่จะแบน TikTok ออกไป ส่งผลให้คดีทั้งหมดหยุดชะงัก
2022
BuzzFeed รายงานว่าพนักงาน ByteDance ในจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ได้ โดยอ้างอิงจากการบันทึกการประชุมภายในของ TikTok ที่หลุดออกมา ส่งผลให้ TikTok ประกาศย้ายข้อมูลผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐฯ ภายใต้การจัดการของบริษัท Oracle ของสหรัฐฯ พร้อมไล่พนักงาน 4 คนที่เข้าถึงข้อมูลออก
2024
เดือนมีนาคม ร่างกฎหมายที่จะแบน TikTok ในสหรัฐฯ ได้รับการสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาในเดือนเมษายนวุฒิสภาเห็นชอบร่างกฎหมาย พร้อมส่งร่างกฎหมายไปยังประธานาธิบดีไบเดนลงนาม
ประธานาธิบดีโจ ไบเด็นลงนามในกฎหมายวันที่ 24 เมษายน 2024 กำหนดให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ต้องขายกิจการให้กับเจ้าของในสหรัฐฯ ภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะต้องปิดกิจการ TikTok ส่งผลให้ ByteDance บริษัทแม่ในจีนของ Tiktok ได้ยื่นฟ้องสหรัฐฯ โดยอ้างว่าข้อกังวลด้านความปลอดภัยนั้นเกินขอบเขต และควรยกเลิกกฎหมายนี้เนื่องจากละเมิดการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 1
2025
ศาลฎีกาได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในวันที่ 17 มกราคม ให้กฎหมายของรัฐบาลกลางที่สั่งแบน TikTok มีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคม เนื่องจาก TikTok ไม่มีทีท่าที่จะขายกิจการ
แอป TikTok เริ่มแสดงการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วง 3 ทุ่มของคืนวันเสาร์ที่ 18 มกราคม เพื่อให้ผู้ใช้เตรียมพร้อมกับการปิดแอป จากนั้นเวลา 4 ทุ่มครึ่ง แอปก็แสดงข้อความ ไม่สามารถใช้งานได้ตอนนี้ พร้อมบอกว่าจะหารือแก้ปัญหากับประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่ง

เช้าวันที่ 19 มกราคม ทรัมป์ได้โพสต์ลงโซเชียลสั้นว่า SAVE TikTok พร้อมประกาศลงนามคำสั่งเลื่อนการแบน TikTok ในวันที่ 20 มกราคม
หลัง TikTok จอดำไปกว่า 12 ชั่วโมง แอปก็กลับมาใช้งานได้ แต่ผู้ใช้ยังไม่สามารถโหลดแอปจาก App Store หรือ Play Store ได้เนื่องจากแอปถูกถอดออกไปแล้ว ส่วนแอปในเครืออย่าง Lemon8, CapCut และ Marvel Snap ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้

TikTok ได้ออกแถลงการณ์ ว่าอยู่ในขั้นตอนทำให้บริการกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง พร้อมขอขอบคุณทรัมป์ที่ให้ความกระจ่างและความมั่นใจกับผู้ให้บริการ ว่าไม่มีความผิดในการให้บริการ TikTok แก่ชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคน และช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กกว่า 7 ล้านแห่งสามารถเติบโตได้”
ทรัมป์ได้เสนอไอเดียแก้ปัญหาเบื้องต้นเพื่อให้ TikTok ยังคงดำเนินการในสหรัฐฯ คือ ตั้งบริษัทร่วมทุนโดยให้บริษัทสหรัฐฯถือหุ้น 50%”
ที่มา https://apnews.com/article/tiktok-timeline-ban-biden-india-d3219a32de913f8083612e71ecf1f428
ที่มา https://techcrunch.com/2025/01/19/tiktok-is-restoring-service-in-the-us/