Fujifilm เปิดตัว Instax Wide Evo กล้องรุ่นใหม่ที่รวมกล้องโพลารอยด์เข้ากับเคื่องพิมพ์ภาพเอาไว้ในตัวเดียว มาพร้อมเลนส์มุมกว้างเอาใจสายครีเอทีฟด้วยการปรับแต่งที่หลากหลายขึ้น

Instax Wide Evo Hybrid Instant Camera ยังคงตามรอยของ Instax Mini Evo จากปี 2022 ด้วยการรวมกล้องฟิล์มเข้ากับความสามารถในการเลือก แชร์ แก้ไข และจัดเก็บภาพถ่ายดิจิทัลในตัวกล้องเดียว ซึ่ง Wide Evo นั้นจะอัปเกรดให้ถ่ายและพิมพ์รูปลงบนฟิล์มอินสแตนท์ Instax Wide รวมถึงเพิ่มความสามารถขั้นสูงอื่นๆ เพิ่มเข้ามาอีก
กล้องรุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมเลนส์ที่กว้างที่สุดในกล้องถ่ายภาพ Instax โดยมีขนาดเทียบเท่า 16.67 มม. โดยผู้ใช้สามารถเลือกถ่ายภาพที่ความกว้างมาตรฐานหรือโหมดที่กว้างกว่าได้ ตัวกล้องมีเอฟเฟกต์เลนส์ 10 แบบและตัวเลือกเอฟเฟกต์ฟิล์ม 10 แบบ ทำให้เราสามารถผสมผสานการถ่ายได้ถึง 100 แบบที่แตกต่างกัน
รวมถึงผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียดด้วย ““Degree Control” ” เพื่อกำหนดระดับของเอฟเฟกต์เลนส์แต่ละแบบที่ใช้กับภาพได้ด้วย

ในส่วนของรูปแบบฟิล์มมีให้เลือก 5 แบบ คือ รูปแบบภาพยนตร์ที่มีแถบสีดำพาดด้านบนและด้านล่างของภาพ, รูปแบบแถบฟิล์มคลาสสิก, รูปแบบประทับวันที่/เวลาแบบดั้งเดิม, รูปแบบแผ่นสัมผัสแบบย้อนยุค และเอฟเฟกต์กระบวนการคอลโลเดียนแบบวินเทจ

ตัวกล้องมาพร้อมจอ LCD ขนาด 3.5 นิ้วที่ด้านหลัง ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ แก้ไข พิมพ์ และปรับการตั้งค่าภาพได้จากจอนี้ เราสามารถถ่ายภาพเก็บไว้ในกล้องได้ 45 ภาพ ซึ่งเราสามารถเพิ่มความจุด้วยช่องเสียบการ์ด microSD เพื่อจัดเก็บภาพได้
Instax Wide Evo นั้นจะมาพร้อมเครื่องพิมพ์ในตัวให้ “คุณภาพสูง” ที่สูงขึ้น โดยสั่งพิมพ์จากได้กล้องได้โดยตรงหรือ สั่งพิมพ์จากแอป Instax Wide Evoบน iOS หรือ Android ได้โดยใช้แอปสมาร์ทโฟน ส่วนการพิมพ์รูปนั้นสามารถพิมพ์ภาพได้สูงสุด 100 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
นอกจากนี้ Fujifilm ยังเพิ่มฟีด “Discover” ใหม่ลงในแอป เหมือนเป็นโซเชียลมีเดียที่แสดงภาพที่อัปโหลดโดยผู้ใช้ Wide Evo คนอื่นๆ ในรูปแบบแกลเลอรีภาพ

Fujifilm ยังเปิดตัวฟิล์มแพ็ค Brushed Metallics ใหม่ที่มีขอบไล่เฉดสีเข้มแบบเมทัลลิกอีกด้วย ฟิล์มแพ็คนี้มีจำหน่ายเป็นแพ็ค 10 ชิ้นและใช้ได้กับกล้อง Instax Wide, เครื่องพิมพ์ Link Wide และ Wide Evo ราคาขายอยู่ที่ 24.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 847 บาท


สำหรับคนที่สนใจ กล้อง Instant Camera รุ่น Instax Wide Evo Hybrid จะมีสีเดียวให้เลือกคือ สีดำและสีเทา ราคาขายอยู่ที่ 349.95 ดอลลาร์ ส่วนราคาไทยอยู่ที่ ในราคา 12,990 บาท
นอกจากนั้นยังมีเคสสีดำวางขายพร้อมกันในราคา 49.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 1,695 บาท คาดว่าทั้งกล้อง, ฟิล์มและเคสกล้องรุ่นใหม่จะวางจำหน่ายในไมยวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้