เรียกว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า เมืองหลายแห่งทั่วโลกจะจมอยู่ใต้น้ำในอีก 75 ปีข้างหน้า

ผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์ได้คาดการณ์ว่าในปี 2100 ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.9 เมตร ถ้าหากปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ยังไม่ลดลง

นักวิทยาศาสตร์ทราบดีอยู่แล้วว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศส่งผลให้ฝนตกหนักขึ้น เนื่องจากอากาศที่อุ่นขึ้นสามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้มากขึ้น เมื่อปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โอกาสเกิดน้ำท่วมจึงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยเมืองที่มีความเสี่ยงสูงก็มี

  1. กรุงเทพ ประเทศไทย
  2. นิวออลีน สหรัญอเมริกา
  3. Hull สหรัญอเมริกา
  4. โฮจิมิน เวียดนาม
  5. ฮัมบูร์ก เยอรมัน
  6. อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
  7. เวเนเซีย อิตาลี
  8. โกลกาตา อินเดีย 
  9. Gold Coast ออสเตรเลีย

หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่าในอนาคต เมืองเหล่านี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ทาง MailOnline ได้ใช้ ImageFX เครื่องมือสร้างภาพจาก AI ของ Google แสดงภาพ 9 เมืองทั่วโลกที่มีความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยการใช้ Prompt ว่า ‘Show me what it would look like in the year 2100 where sea levels have risen 6.2 feet.’ 

ตามรายงานของ Earth Org พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของกรุงเทพเมืองอยู่เหนือระดับน้ำทะเลไม่ถึงหนึ่งเมตร (3.2 ฟุต) ทำให้เสี่ยงต่อน้ำท่วมเป็นพิเศษ

จากภาพด้านยน เราจะเห็นทางด่วนยกระดับลคดเคี้ยวไปตามน้ำ ผ่านวัดสำคัญของเมือง ในขณะที่แท็กซี่บินได้ถูกนำมาใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง ชดเชยที่ถนนไม่สามารถใช้งานได้ ในขณะเดียวกัน เรือความเร็วสูงขนาดใหญ่ วิ่งรับส่งผู้คนไปตามน้ำ โดยมีเรือท่องเที่ยวรวมอยู่ด้วย

ที่มา https://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-14329927/Shocking-images-cities-flood-2100-sea-levels.html