แม้อุตสาหกรรมยานยนต์โลกเผชิญกับความท้าทายในปี 2024 ด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อยอดขาย แม้จะมีปัญหาเหล่านี้ แต่ Toyota Motor Corporation ยังคงรักษาตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกไว้ได้

กลุ่มโตโยต้า ประกอบด้วยแบรนด์ Toyota, Lexus, Daihatsu และ Hino มียอดขายรถยนต์ 10,821,480 คันทั่วโลกในปี 2024 ถือเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่โตโยต้าครองตำแหน่งผู้นำตลาดโลก

แม้ว่าอุตสาหกรรมจะประสบปัญหา แต่โตโยต้ายังคงทำผลงานได้ดี โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2024 บริษัทขายรถได้ 9,857,938 คันทั่วโลก ซึ่งลดลง 3.7% จากปีก่อน แต่ยังคงเป็นผลงานที่ดี แม้จะมียอดขายลดลง แต่โตโยต้ายังคงเป็นผู้นำที่มั่นคง

ส่วนแบรนด์ที่ทำยอดขายทั่วโลกเป็นอันดับที่ 2 คือ Volkswagen Group ถือเป็นคู่แข่งหลักของ Toyota ทำยอดขายทั่วโลกในปี 2024 ไป 9,239,500 คัน ลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เรียกว่าช่องว่างของ Toyota และ Volkswagen ห่างกันแค่ 618,438 คันเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ความสำเร็จของ Toyota มาจากการที่มีรถหลายรุ่นตั้งแต่รถคอมแพคจนไปถึง SUV ขนาดใหญ่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลกที่แตกต่างกัน ช่วยให้โตโยต้ายังคงแข็งแกร่งแม้รถยนต์บางกลุ่มจะเผชิญกับความท้าทาย

ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเปลี่ยนไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กลยุทธ์ของ Toyota ก็โดดเด่นออกมา บริษัทระมัดระวังในการมุ่งมั่นกับ EV อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่แข็งแกร่งยังคงได้รับความนิยม ซึ่งช่วยในตลาดที่ความต้องการ EV และโครงสร้างพื้นฐานยังคงเติบโต แนวทางที่สมดุลของ Toyota ช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก

ส่วน Hyundai Motor Group ซึ่งประกอบด้วย Hyundai, Kia และ Genesis ครองอันดับ 3 ในด้านยอดขายทั่วโลก ในปี 2024 บริษัทมียอดขายประมาณ 7.23 ล้านคัน ซึ่งลดลง 1% จากปีก่อนหน้า แม้จะมียอดขายลดลง แต่ประสิทธิภาพที่มั่นคงของ Hyundai ก็แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการปรับตัว

โดยสรุปแล้ว ตำแหน่งของ Toyota ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดของโลกในปี 2024 สะท้อนให้เห็นถึงแบรนด์ที่แข็งแกร่งและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย กลยุทธ์อันชาญฉลาดและความสามารถในการปรับตัวช่วยให้บริษัทก้าวไปข้างหน้าในตลาดโลกที่ซับซ้อน

ที่มา https://www.gizchina.com/2025/02/02/the-worlds-top-selling-car-brand-of-2024-revealed/