ต่อไปเราอาจะต้องจ่ายค่าเครื่อง iPhone แพงขึ้น เนื่องจากนโยบายใหม่ของ Donald Trump เรียกเก็บภาษีนำเข้า 10% ซึ่งจะบังคับใช้ 2 เมษายนนี้ ส่งผลให้ Apple อาจจะต้องปรับราคาขาย iPhone เพิ่มขึ้น 9% เพื่อตอบโต้ผลกระทบทางการเงินจากมาตรการนี้
นโยบายภาษีนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการการค้าที่มุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การเพิ่มภาษีเรียกว่าส่งผลโดยตรงกับการกำหนดราคาขายของทุกบรืษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Apple ที่ใช้ฐานการผลิตในต่างประเทศ
Wamsi Mohan นักวิเคราะห์ของ Bank of America คาดการณ์ว่าหาก Apple แบกรับต้นทุนโดยไม่ขึ้นราคา จะส่งผลให้กำไรต่อหุ้นอาจลดลง 0.26 ดอลลาร์ หากเลือกขึ้นราคาเพียงเล็กน้อยเพียง 3% ก็อาจส่งผลให้หุ้นลดลง 0.21 ดอลลาร์ นี่ถือเป็นความท้าทายของ Apple ในการหาจุดสมดุล ระหว่างการขึ้นราคามากเกินไปอาจทำให้ผู้บริโภคไม่พอใจหรือแบกรับต้นทุนซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรลดลง
แม้ Apple พยายามลดการพึ่งพาการผลิตในจีนโดยย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปที่อินเดียและเวียดนาม แต่อย่างไรก็ตาม ภาษีนำเข้าจากประเทศเหล่านี้อาจผลักดันต้นทุนให้สูงขึ้น ทำให้ Apple มีทางเลือกน้อยมาก นอกจากการปรับราคาขายปลีก หาก Apple เลือผลักภาษีนำเข้าไปให้ผู้บริโภค เราจะได้เห็นราคาขายของ iPhone 17 ที่กำหนดเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025 มีการขึ้นราคาอย่างเห็นได้ชัด
ทาง Apple ก็พยายามรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้ มีรายงานว่า Tim Cook ซีอีโอได้เข้าร่วมการหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อสำรวจข้อยกเว้นหรือวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ ที่เป็นไปได้
