Apple ประกาศทุ่มเงินครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ด้วยตัวเลขสูงถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ (16.8 ล้านล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า ผลักดันให้สหรัฐเป็นฐานการผลิตนวัตกรรมและการผลิตขั้นสูง
ย้ายฐานการผลิตบางส่วนมาที่สหรัฐ
เงินทุนส่วนหนึ่งจะใช้ขยายโรงงานเดิมให้ใหญ่ขึ้น พร้อมสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่รัฐเท็กซัส บนพื้นที่ 76,200 ตารางเมตร โดยใช้พลังงานหมุนเวียน 100% เพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ที่สนับสนุน Private Cloud Compute ทีมีความปลอดภัยสูงและรองรับ Apple Intelligence คาดเปิดใช้งานปี 2026 ทำให้เกิดตำแหน่งงานเพิ่มอีกหลายพันตำแหน่ง
ขยายกองทุนการผลิตขั้นสูงของสหรัฐฯ 2 เท่า
ที่ผ่านมากองทุนนี้ได้สนับสนุนโครงการต่างๆ ใน 13 รัฐ ช่วยสร้างธุรกิจในท้องถิ่น ฝึกอบรมคนงาน และสร้างกระบวนการและวัสดุการผลิตที่สร้างสรรค์สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Apple
การที่ Apple เพิ่มเงินในกองทุนการผลิตขั้นสูงของสหรัฐฯ 2 เท่า ส่งเสริมการผลิตขั้นสูงและการพัฒนาทักษะการผลิตชั้นสูงทั่วประเทศ เพิ่มศักยภาพให้บริษัทพันธมิตรอัปเกรดการผลิตเพื่อผลิตชิปของ Apple จำนวนมากในอเมริกา
เพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาทั่วสหรัฐ
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Apple ได้เพิ่มค่าใช้จ่ายด้านงานวิจัยและพัฒนาขั้นสูงในสหรัฐอเมริกาเกือบ 2 เท่า
การที่ Apple ลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนาในสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในอีก 4 ปีข้างหน้าจะมีการจ้างงานเพิ่ม 20,000 คน เน้นไปที่การวิจัยและพัฒนา วิศวกรรมชิป การพัฒนาซอฟต์แวร์, AI และ Machine Learning รวมถึงขยายทีมงานให้มากขึ้นโดยเฉพาะด้าน เช่น ซิลิคอนแบบกำหนดเอง วิศวกรรมฮาร์ดแวร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ AI และ Machine Learning
เปิดสถาบันการผลิตแห่งใหม่ในดีทรอยต์
Apple เตรียมเปิด Apple Manufacturing Academy ในเมืองดีทรอยต์ เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ เปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตขั้นสูง ผ่านหลักสูตรฟรีทั้งแบบเรียนตัวต่อตัวและออนไลน์ เน้นทักษะสำคัญๆ เช่น การจัดการโครงการและการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้กับคนงาน
หลักสูตรเหล่านี้จะช่วยขับธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล โดยมีวิศวกรของ Apple ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ ให้คำปรึกษากับธุรกิจ SMB ในการนำ AI และเทคนิคการผลิตอัจฉริยะมาใช้
นอกจากนี้ Apple ยังให้ทุนต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนนักประดิษฐ์รุ่นใหม่ผ่าน โครงการ New Silicon Initiative เตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสำหรับคนที่สนใจอาชีพด้านวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และการออกแบบชิปซิลิคอน ครอบคลุมโรงเรียน 8 แห่งทั่วประเทศ
